“ตั้ม วราวุธ” เผยอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดีขึ้น พักนานไม่ได้ บ้านต้องผ่อน ฉีดสเต็มเซลล์ฟื้นฟูแผล ปากเหมือนฉีดฟีลเลอร์ ยังขำได้ ปากฉีก ดั้งหัก แต่น้ำปลาร้า “ไมค์ ภิรมย์พร” ไม่แตกเลยสักขวด สุดยอดมาก โอดสูญเงิน 6 หลัก พรุ่งนี้เจอญาติคู่กรณีครั้งแรก จ่อเอาเรื่องให้ถึงที่สุด อัดเกินไป เกือบเดือนไม่ติดต่อมาเลย ไม่เคยแสดงความห่วงใยแม้ในฐานะเพื่อนมนุษย์ คนรอบตัวไม่ให้ขับมอเตอร์ไซค์แล้ว เตือนผู้ใช้รถให้สวมใส่หมวกกันน็อกขณะขับขี่เพราะไม่รู้รางวัลที่ 1 จะเกิดกับเราเมื่อไหร่
หลังจากที่นักร้อง นักแสดงและพิธีกรอารมณ์ดี “ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม” ประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนขณะขับกลับบ้าน ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บหนัก ปากฉีกถึงจมูก จมูกหัก แพทย์เย็บแผลที่ปากแล้ว ส่วนจมูกที่หักได้รักษาให้เข้าที่ และต้องนอนพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบ 20 วันของการรักษาตัว ทางคุณหมอก็ได้ให้กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านแล้ว
ล่าสุด ตั้ม วราวุธ ก็ออกมาเปิดใจครั้งแรกหลังประสบอุบัติเหตุ ในงานแถลงข่าวโครงการ “BUFF TO BUILD NUMBER ONE” หน้า MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์บางกะปิ โดยเผยว่าพรุ่งนี้เตรียมเจอญาติของคู่กรณีเป็นครั้งแรก รับอุบัติเหตุทำกระทบงานจนต้องคืนเงินลูกค้า
“คือข้างในตอนนี้ยังละลายไม่หมด ข้างนอกโอเคมากๆ เราประโคมทุกอย่างเพื่อที่จะให้ทำงานได้เร็วขึ้น ก็เลยมีการฉีดสเต็มเซลล์ด้วย ไปหาหมอฟัน เพราะว่าฟันหน้าเราหายไปเลย 3 ซี่ ตอนนี้ก็ใส่วีเนียร์ชั่วคราว จะใส่วีเนียร์แบบปกติไม่ได้ เพราะเรายังอ้าปากทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เลยใส่ชั่วคราว แล้วก็กลืนลงท้องไปหลายอันแหละ เพราะว่ามันหลุดง่าย
ตอนนี้มันยังไม่สมบูรณ์ แล้วแผลข้างในจมูกเรา ตอนนี้จมูกโดนเยอะ ก็ยังเจ็บอยู่ เพราะว่าดั้งเราหัก แล้วแผลที่ฉีกคือมันฉีกแบบเห็นฟันเลย แยกถึงจมูก ณ ตอนนี้ เวลาที่ยิ้มกลับมา มันยังตึงอยู่ มันเหมือนตรงกลางไม่สมานกัน แล้วมันก็ยังแข็ง เป็นไตๆ เวลาที่ไปโดนอะไรแรงๆ มันก็ยังรู้สึกเจ็บ เวลาพูดมันก็จะมีความตึงๆ อยู่นิดนึง
ก็ไม่ได้ศัลยกรรมอะไรเลย จมูกก็แค่ดัดกลับ ส่วนปากเราโชคดีที่ได้หมอศัลยกรรมสมิติเวช ศรีนครินทร์ด้วย เขาก็เย็บให้ ทุกคนชมว่าแผลสวย ขอบคุณคุณหมอมากๆ เพราะว่าเขาก็ทางนี้โดยตรง”
รับเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิต
“ส่วนร่างกายส่วนอื่น มันก็จะมีแขน คือวันแรกที่ผมประสบอุบัติเหตุ แขนฝั่งซ้ายผมไม่สามารถยืดได้เลย เหมือนว่ามันช้ำที่เอ็น ก็ไปกายภาพแล้วก็ไปฉีดสเต็มเซลล์ตรงข้อศอกมาแล้ว ตอนนี้ดีขึ้นมาก เกือบ 100% แล้ว
ก็เป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตครับ คือมันเป็นเหตุการณ์ที่อุบัติเหตุจริงๆ จ๊ะเอ๋จริงๆ เราตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีเราหายไปแว็บนึง แล้วก็ตื่นขึ้นมาอีกทีก็มีคนมาพยุงเรา ตอนนั้นมันคือชาเลย
เหตุการณ์ก็คือป๊ะกันเลย แล้วก็พุ่งเข้าไปเลย เราชาหมดเลย ไม่รู้สึกว่าตัวเองเจ็บ ไม่รู้ว่าเลือดออก จนพี่ที่เขามาพยุง เขาบอกว่าน้องเราไปนั่งข้างทางก่อน เพราะว่าเลือดน้องออกเยอะมาก แล้วพอเราก้มแล้วมีเลือดออกมา เราก็เช็กฟันเราก่อน เราก็เอาลิ้นดุนๆ เราไม่รู้สึกนะ แต่เรารู้ว่ามันเป็นต่อ ข้างหน้าเนี่ย เราก็ถามพี่เขาว่า พี่หน้าเราเป็นอะไรบ้าง เขาก็บอกว่าน้องดูไม่ออกเพราะว่าเลือดมันโชกมากๆ”
วิตกกังวลกลัวเสียความทรงจำ
“เราก็ถามแฟนว่า หน้าเป็นยังไงบ้าง เขาก็ปลอบใจเรา บอกว่าถลอกแต่ป้าที่มาช่วยข้างๆ เรามาบอกว่า ฉีกเลย ฉีก เราก็แบบฉีกเลยเหรอ (หัวเราะ) เราก็สงสัยว่าฉีกข้างไหน เราก็เลยเซลฟี่ตัวเอง แต่เราก็มองไม่ออก เพราะว่าเลือดมันกลบปาก
แต่ว่าตอนนั้นใจไม่ดีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถนอนได้ เพราะว่าตอนที่โดน พี่ที่ปฐมพยาบาลก็ให้เรานอน แล้วเราปวดหัวมาก เราก็เลยคิดว่าเราจะเสียความทรงจำไหม จังหวะนั้นเราไล่เรียง ชื่อพ่อ ชื่อแม่ บ้านเลขที่ เกิดวันไหน อะไร ไล่ตลอดเวลา เพราะว่าเรากลัวว่าสมองมันจะไม่เหมือนเดิม
คือตอนนั้นเราเลือกที่จะหาแฟนเราก่อน แต่ว่าจำไม่ได้นะว่าตอนนั้นรถชนตรงไหน ก็พยายามคิด แม้กระทั่งมีป้ายอยู่ข้างหน้า เราก็ยังนึกไม่ออก ก็เลยให้พี่ที่ช่วยเราคุยกับแฟนว่าเราอยู่ตรงไหน แล้วก็แชร์โลเกชั่นไป”
เผยมีหลักฐานครบหมดแล้ว เรื่องคดีมอบให้คุณพ่อเป็นคนจัดการแทน
“คือมันไม่มีเวลาคิดเลย มันชนปั้ง รู้ตัวอีกทีก็คือคนพยุงแล้ว คือตอนนั้นเขาตัดมาปุ๊บเราเห็นแล้ว แต่ว่าสติสุดท้ายคือจะกำเบรก แต่ว่ากำไม่ทันมันก็คือชนเลย รู้ตัวอีกทีตอนคนพยุง
ตอนนี้เราก็มีหลักฐานหมดแล้ว มีกล้องวงจรปิดหมดแล้ว แต่ส่วนเรื่องคดีความให้พ่อเราจัดการ เพราะว่าโชคดีที่พ่อเป็นทนายความ ก็จะเร็วหน่อย ให้เขาจัดการเรื่องคดีไปเลย เราไม่อยากไปโฟกัสตรงนี้แล้ว”
ลั่นเป็นครั้งแรกที่จะได้เจอญาติของคู่กรณีพรุ่งนี้
“เราเล่าเหตุการณ์ให้พี่ฟังแล้วกัน พี่ลองนึกภาพว่ารถเป็นเลนสวน แล้วเราขับตามรถกระบะ แล้วรถกระบะเขาเลี้ยวเข้าซอย แต่เราจะต้องขับตรงต่อไปให้ถึงจุดหมายของเรา ซึ่งเราไปด้วยความเร็วคงที่ไม่ได้แซงหรืออะไร แต่เขาออกจากซอยที่รถกระบะเลี้ยวเข้าไป ก็ตัดกันพอดี (เป็นสี่แยก?) ไม่มีไฟครับ เป็นซอย กล้องวงจรปิดจับภาพได้แบบนี้เลย
คู่กรณีเรายังไม่ได้เจอเลยครับ แล้วก็เห็นว่าญาติเขาจะนัดเจอวันที่ 11 ก็คือวันพรุ่งนี้ เพราะว่าจะไปเอารถมอเตอร์ไซค์ที่สถานีตำรวจ ก็เลยจะให้คุยกันพรุ่งนี้ นี่คือครั้งแรกที่เราจะได้เจอญาติคู่กรณี ที่จริงพ่อเรายื่นโนติส เพราะว่าเขาไม่ได้มีการติดต่อมาเลย ถ้าเขาติดต่อมา เราจะได้รู้ว่าโอเค ยังไงกัน ทำยังไงให้จบ แต่พอพ่อยื่นโนติสเสร็จ ก็มีญาติเขาโทร.มาเหมือนกัน บอกว่า โอเค ตอนนี้ทางฝั่งโน้นยังไม่พร้อมที่จะคุย ก็เลยจะส่งญาติมาก่อน”
เผยคู่กรณีบาดเจ็บหนักเช่นกัน สะโพกหัก กระดูกซี่โครงร้าว
“คือตอนแรกเราไม่รู้ เรามารู้ทีหลังตอนที่ทางเราพยายามติดต่อไปว่าทางนั้นยังไงบ้าง คือเราแจ้งทางตำรวจไปว่า ทำไมญาติทางเขาไม่ติดต่อกลับมาเลย ทางตำรวจก็เลยไปคุยให้ จนญาติเขาติดต่อกลับมา เขาก็เลยบอกว่า ทางฝั่งของเขาสะโพกหัก เพราะว่าเราชนเข้าตัวเขาเลย สะโพกหัก กระดูกซี่โครงร้าว ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าตรงนี้มันโดนอะไร เพราะว่าความจำมันหายไปเลย
แว็บเลยคือรู้ตัวอีกทีตอนโดนพยุงแล้ว เลยไม่รู้ว่าตรงปากไปโดนอะไร หรือโดนท่าไหน แล้วในคลิปก็ไม่เห็นนะว่าล้มท่าไหน คือมันมืดมาก คือสภาพรถก็คือล้อหน้าบิด หม้อน้ำหน้าแตก ล้อหลุด แล้ววันนั้นเราตลกมาก คือวันนั้นเป็นวันที่เรามาขนของพะรุงพะรัง เพราะว่ากลับจากซาวด์เช็ก พี่ไมค์ ภิรมย์พร ก็คือเอาน้ำปลาร้าอะไรให้เต็มไปหมด เชื่อไหมว่าน้ำปลาร้าไม่แตกซักขวด น้ำปลาร้าพี่ไมค์สุดยอดจริงๆ”
อุบัติเหตุทำกระทบงาน จำใจคืนเงินลูกค้า
“คือจริงๆ เรามีถ่ายผลิตภัณฑ์ที่ผมร่วมทำอยู่ตัวหนึ่ง แล้วก็มี 2 อีเวนต์ แต่อีเวนต์ไม่ได้เลื่อนครับ เขาต้องจัดต่อ เราก็ต้องคืนเงินกับทางลูกค้าก่อน 2 งาน แล้วก็งานใหม่ที่เข้ามารับไม่ได้ คือมันมีงานที่สำรองไว้ ลูกค้ายังไม่คอนเฟิร์ม แล้วก็ลูกค้าเขาก็ไม่คอนเฟิร์มแล้ว แล้วก็ยังมีความไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าเราสามารถร้องเพลงได้เหมือนเดิมไหม อันนี้มันก็กระทบเหมือนกัน เราก็พยายามบอกเลยว่า ร้องเพลงได้นะ พูดได้ แต่อาจจะมีคอรัสด้วย เพราะว่าในรูปปาก บางคำมันอาจจะยังไม่ค่อยชัด แต่ว่าวงเรามีคอรัสครับ
ถ้าถามว่าตอนนี้มันเบาลงไหมกับสิ่งที่กังวลเรื่องการพูด การร้อง มันเบาลงแต่เพียงแค่ว่า จริงๆ ก่อนหน้านี้เรามีงานไปร้องเพลงแล้วงานหนึ่ง พอลงจากเวทีไปโรงพยาบาลเลยเพราะมันอักเสบ คือเราก็ร้องเราก็เต็มที่ เราเวลาทำงานมันเหมือนจะรู้สึกชาๆ เพราะมันสนุก ณ โมเมนต์นั้น แต่พอลงมามันก็อักเสบก็ไปหาหมอซึ่งตอนนี้ปากถามว่ามันอ้าได้กว้างขึ้นไหม กว้างขึ้นแต่มันจะมีบางคำที่มันจะต้องออกเสียงตรงนี้มันยังติดอยู่นิดหน่อย (ใช้เวลานานแค่ไหนที่จะกลับมา?) คุณหมอบอกว่าประมาณสัก 3 เดือน แต่นี่ 3 อาทิตย์ เราทำงานแล้ว”
ลั่นพักงานนานไม่ได้หนี้บ้านยังต้องผ่อนอยู่
“พักไม่ได้เนอะเพราะว่าธนาคารที่เราผ่อนบ้านเขาไม่พักกับเราไง พี่นึกออกไหมเราพักไม่ได้ (กายภาพยังไง?) จริงๆ แล้วเราเรียกว่าเป็นฟื้นฟูได้แต่ภายนอก ภายในต้องปล่อยมันไป ภายนอกเราก็ไปเข้าเครื่องไฮเปอร์แบริค (HBO) เพื่อให้มันลดบวม ไปฉีดสเต็มเซลล์ให้มันฟื้นฟูแผลได้ไวขึ้นทำได้แค่นั้นเพราะว่าจริงๆ ร่างกายก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอยู่แล้ว”
ยกเลิกงานมูลค่าความเสียหายกว่า 6 หลัก
“เยอะครับ 6 หลักถึงครับ 3 เดือน เราคงไม่ปล่อยให้ตัวเองไม่รับงาน 3 เดือนแน่นอน เราเริ่มรับงานแล้วบอกทุกคนตรงๆ เลยว่า เรารับงานปกติ รับงานร้องเพลงปกติ ทำงานแล้ว ไปร้องเพลงมาแล้วด้วยงานหนึ่ง ณ วันนี้คุณหมอสเต็มเซลล์เขาบอกเราว่า โอเคหลังจากฉีดสเต็มเซลล์ปากยิ่งมีการขยับยิ่งดีเพราะว่ามันคือกล้ามเนื้ออย่าให้มันตายตรงนี้สเต็มเซลล์มันจะได้วิ่งมากขึ้น ดังนั้นเราว่าตอนนี้เรารับงานได้แล้วก็เราสามารถที่จะอ้าปากหรือร้องเพลงออกเสียงอย่างพี่ๆ เห็นที่เรากำลังพูดตอบโต้ได้ปกติ
(ยกมือไหว้) คุณลูกค้าครับ ลูกค้าดูจากคลิปนี้เราเหมือนคนฉีดฟิลเลอร์แค่นั้นเอง (ร้องเพลงเลิกกั๊กแล้วรักก่อน) รับงานได้ทุกอย่างครับแล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไรเราไปเต็มร้อยแน่นอนสำหรับทุกๆ งาน การเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์เรายังเหมือนเดิม แล้วตลกกว่าเดิมด้วย แค่คนจ้องหน้าก็ตลก ตอนนี้เป็นคนหัวเราะมากไม่ได้มันจะเกร็งๆ ถามว่าแต่งหญิงรับไหม มีแล้วนะวันที่ 21 มิ.ย. แต่งหญิงคู่พี่เอม ตามใจตุ๊ด (วิทวัส รัตนบุญบารมี) ออกอีเวนต์
บอกจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังไม่ได้รับการติดต่อเลยตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ
“เอาจริงๆ เราไม่ได้ติดเรื่องไหนเลย เราติดแค่เรื่องเดียวที่ว่า เขาไม่ได้ติดต่อกลับมาหรือแสดงความเป็นห่วงเป็นใยกัน เหมือนทางเราจะบอกกับทางคุณตำรวจและทางหมอว่า ลองติดต่อเขาไปไหมอะไรยังไง ติดต่อไม่ได้เราไม่มีเบอร์ญาติเขา เราเลยจึงต้องถามคุณตำรวจไป ซึ่งเรารู้สึกว่าจริงๆ แล้วการแสดงความมีน้ำใจแค่หลักเริ่มต้นของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแสดงความเป็นห่วงกันก็ยังดี
อันนี้เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องผิดหรือไม่ผิดนะ แต่เราไม่ได้รับสิ่งนั้นเลยเรารู้สึกว่า โห ทำไม มันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราก็อยากเอาให้สุดเหมือนกัน เพราะว่าเราก็เสียอะไรไปหลายอย่าง ทั้งโอกาส ทั้งงาน ทั้งเงินที่เราจะต้องคืนลูกค้าไป แค่ความเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมกันเขายังไม่มีให้กับเราเลย ดังนั้นเราก็รู้สึกว่าอะไรที่เราจะเรียกร้องได้เราก็เต็มที่
เราเข้าใจว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ แล้วมัน 3 จะ 4 อาทิตย์แล้ว เราเพิ่งจะได้เจอญาติเขาด้วยนะพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ยังไม่ใช่เขา จริงๆเราไม่ได้ต้องการจะเจอ เราต้องการจะโทร.ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะเอาจริงๆ ในลักษณะการชนเขาต้องรู้ว่าเขาผิด แต่อันนี้เขาไม่ได้มีการแสดงอะไรออกมาเลยมันทำให้เรารู้สึกว่าเกินไปมาก”
รับเข็ดกับการขับมอเตอร์ไซค์
“คือคนรอบตัวไม่ให้ขับมอเตอร์ไซค์แล้ว เราว่าในยามวิกาลในยามจำเป็นที่เราอาจจะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ขับเองไม่ขับแล้วแน่ๆ แต่ถ้านั่งวินมอเตอร์ไซค์อีเวนต์รีบเราว่าบางครั้งอาจจะต้องมีแต่ต้องระมัดระวัง วันนั้นขนาดเราใส่หมวกกันน็อกปากเรายังเป็นแบบนี้เลย ดังนั้นเราก็ลองดูนะครับว่า ถ้าเรานั่งหมวกกันน็อกแบบไหนที่มันจะคุ้มหน้าเราหรือมันจะปลอดภัยสำหรับเราที่สุด แน่นอนบางทีนั่งวินมอเตอร์ไซค์เขาอาจจะไม่มีให้ อันนี้ฝากพี่วินมอเตอร์ไซค์มีหมวกกันน็อกให้ลูกค้าเลย
บางทีเขาไม่ได้เตรียมไม่มีแบบนี้ และอุบัติเหตุรางวัลที่ 1 มันจะออกที่เราหรือเปล่าก็ไม่รู้ บางทีเราไม่ได้ประมาทเราขับของเราเขาอาจจะมาชนเราได้ แล้วถ้ามันเกิดสิ่งนั้นขึ้นมาจริงๆ ชั้น 2 ของเราคืออะไร คือหมวกกันน็อกแต่ถ้าจะให้ดีที่สุดเผื่อเวลาแล้วไปรถยนต์อย่างน้อยเหล็กหุ้มเนื้อ อันนี้เนื้อหุ้มเหล็กจริงๆ ถ้ามันอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้บนท้องถนนขอให้เป็นเหล็กที่มันดูแลเรารอบๆ ตัวดีกว่า เพราะฉะนั้นเป็นไปได้มอเตอร์ไซค์เป็นเคสสุดท้ายที่เราจะขับขี่บนท้องถนน
ถามว่าตอนนี้กลัวไหมกับการขึ้นมอเตอร์ไซค์ ไม่แพนิกเรานั่งมอเตอร์ไซค์ได้เหมือนเดิม เราสามารถขี่มอเตอร์ไซค์ได้เหมือนเดิม แต่ล่าสุดเราขับรถยนต์ เราไม่รู้ว่าเรียกว่าแพนิกหรือกลัวตัวเองหรือเปล่า ตอนออกจากแยกเราจะมองนานมาก ช่องไหนที่เขาสามารถโผล่ออกมาได้บ้าง เพราะการที่เราขับไปวันนั้น เราก็งงมากออกมาได้ยังไง เราก็เลยต้องระวังว่ามันมีมุมที่เราไม่คาดคิดอยู่ก็คือจะช้ากว่าเดิม ตอนนี้เราก็รู้สึกว่าเราช้ากว่าเดิมในการตัดสินใจเลี้ยวหรืออยู่ตรงทางแยก”
เชื่อฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ
“(ยกมือไหว้) สาธุครับ หวังว่าอย่างนั้นนะครับ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ วันนั้นห้อยพระเป็นพระปางนาคปรกของเราที่ใส่ติดตัวตลอด กำไลข้อมือพญานาค แต่วันนี้ใส่เป็นท้าวเวสสุวรรณมา ใส่ของเราเพราะเรานับถือพญานาค เอาจริงๆ วันนั้นเราโชคดีหลายอย่างมาก โชคดีที่หนึ่งใส่หมวกกันน็อก โชคดีที่สองคือเลนสวนไม่มีรถตามในขณะที่เราขับตามมาอีก 2-3 คัน แต่ไม่มีคันหลังที่ตามเรามาไม่งั้นก็เหยียบ แล้วเลนสวนก็ไม่มีรถสวนมา เพราะเรากระเด็นไปฝั่งอีกเลนนึง คือโชคดีหลายอย่างมากๆ แล้วก็โชคดีที่เป็นแค่นี้ พระคุ้มครอง สาธุ แล้วชนวันราหูย้ายพอดี”
