xs
xsm
sm
md
lg

"เบลค ไลฟ์ลีย์" โล่ง! ศาลยกฟ้องคดี 400 ล้าน – ลั่นเจ็บปวดแต่ไม่เงียบ ยืนหยัดเพื่อสิทธิผู้หญิง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เบลค ไลฟ์ลีย์ และ จัสติน บัลโดนี ร่วมแสดงและทำหน้าที่ผู้กำกับในภาพยนตร์ It Ends With Us ซึ่งดัดแปลงจากนิยายขายดี และเป็นหนึ่งในหนังโรแมนติกที่ได้รับการจับตามองและทำรายได้ล่วงหน้าอย่างมหาศาลก่อนเข้าฉายจริง
เบลค ไลฟ์ลีย์โล่งใจ หลังศาลยกฟ้องคดี 400 ล้าน เผยเจ็บปวดกับ “ความอับอายที่ถูกสร้างขึ้น” จากการถูกฟ้องร้อง

นักแสดงสาวจาก It Ends With Us ออกมาแสดงความรู้สึกผ่านโซเชียลมีเดียเป็นครั้งแรกหลังจากต้องเผชิญการต่อสู้ทางกฎหมายกับผู้กำกับและนักแสดงร่วม จัสติน บัลโดนี

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย. 2025) ศาลแขวงของสหรัฐอเมริกาได้มีคำสั่ง ยกฟ้องคดีหมิ่นประมาทมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ ที่ จัสติน บัลโดนี ยื่นฟ้อง เบลค ไลฟ์ลีย์, ไรอัน เรย์โนลด์ส (สามีของเธอ) และ The New York Times ซึ่งเป็นสื่อที่ตีพิมพ์ข้อกล่าวหาว่าบัลโดนีล่วงละเมิดทางเพศและตอบโต้เธออย่างไม่เป็นธรรม

หลังคำพิพากษา ไลฟ์ลีย์ได้โพสต์ข้อความผ่าน Instagram Stories โดยกล่าวว่า

“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันยืนหยัดร่วมกับ 19 องค์กรที่ลุกขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิของผู้หญิงในการเปล่งเสียงเพื่อความปลอดภัยของตนเอง เช่นเดียวกับหลายคน ฉันต้องเผชิญความเจ็บปวดจากการถูกฟ้องร้องเพื่อตอบโต้ รวมถึงความอับอายที่ถูก ‘สร้างขึ้น’ เพื่อทำให้เราหวาดกลัว”

“แม้คดีความที่ฟ้องฉันจะถูกยกฟ้องแล้ว แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไม่มีทรัพยากรพอจะต่อสู้กลับ ฉันยิ่งมั่นใจขึ้นอีกเท่าตัวที่จะยืนหยัดเพื่อสิทธิของผู้หญิงทุกคนในการปกป้องตัวเอง – ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ศักดิ์ศรี หรือสิทธิที่จะเล่าเรื่องของตัวเอง”

ระหว่างช่วงโปรโมตภาพยนตร์ เริ่มมีข่าวลือถึงความขัดแย้งและความไม่ราบรื่นในกองถ่าย โดยมีรายงานว่าทั้งสองมีความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างถ่ายทำ และเบลคได้กล่าวเป็นนัยถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมจากผู้ร่วมงาน
เธอยังแท็กองค์กรช่วยเหลือด้านกฎหมายและสิทธิสตรีหลายแห่ง เช่น ศูนย์กฎหมายสตรีแห่งแคลิฟอร์เนีย (California Women’s Law Center), องค์กรสนับสนุนความเสมอภาคทางกฎหมาย (Equal Rights Advocates), องค์การสตรีแห่งชาติ (National Organization for Women), ศูนย์พักพิงสำหรับครอบครัว (Sanctuary for Families), และ ความยุติธรรมเพื่อสตรีเดี๋ยวนี้ (Women’s Justice NOW) รวมถึงอีกหลายองค์กร เพื่อมอบข้อมูลและทรัพยากรให้ผู้หญิงที่ต้องการเปล่งเสียงอย่างปลอดภัยในการปกป้องตัวเองจากการถูกล่วงละเมิดและการตอบโต้

ในตอนท้าย ไลฟ์ลีย์เขียนว่า “ขอบคุณจากหัวใจสำหรับทุกคนที่ยืนเคียงข้างฉัน – ทั้งคนที่ฉันรู้จัก และคนที่ฉันไม่เคยเจอ ฉันจะไม่มีวันเลิกขอบคุณพวกคุณ และไม่มีวันหยุดยืนหยัดเพื่อพวกคุณ”

คำพิพากษาที่ออกโดย ผู้พิพากษา ลูอิส เจ. ไลแมน ระบุว่า “จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ แสดงให้เห็นว่า New York Times ได้ตรวจสอบหลักฐานอย่างรอบคอบ และรายงานเรื่องราวในลักษณะมีการเล่าเรื่องอย่างมีศิลปะ ซึ่งอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่ปกป้องเสรีภาพสื่อ”

จัสติน บัลโดนี ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ต่อ เบลค ไลฟ์ลีย์, ไรอัน เรย์โนลด์ส และ The New York Times โดยกล่าวหาว่าพวกเขาจัดแคมเปญใส่ร้าย ทำลายชื่อเสียง และเรียกร้องข่มขู่เพื่อยึดอำนาจครีเอทีฟจากหนัง It Ends With Us และเขายกฟ้องต่อ NYT อีก 250 ล้านดอลลาร์ด้วย
หลังศาลมีคำตัดสิน ฝ่ายทนายของไลฟ์ลีย์ เอสรา ฮัดสัน และ ไมค์ ก็อตต์ลีบ แถลงว่า “นี่คือชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ และเป็นการล้างมลทินให้ เบลค ไลฟ์ลีย์อย่างเต็มตัว คดีหมิ่น 400 ล้านนี้เป็นเพียงความพยายามหลอกลวงเพื่อกดขี่ และศาลก็เห็นชัดเจน”

ฝั่ง New York Times ก็ออกแถลงการณ์เช่นกันว่า “เราขอขอบคุณศาลที่เห็นว่าคดีนี้เป็นความพยายามไร้สาระในการขัดขวางการรายงานข่าวอย่างซื่อสัตย์ นักข่าวของเราทำงานอย่างรอบคอบในประเด็นที่สังคมควรรับรู้ และศาลก็รับรองว่ากฎหมายมีไว้เพื่อปกป้องงานแบบนี้ เราจะยังยืนหยัดเพื่อสื่อและนักข่าวของเราต่อไป”

ทั้งนี้ ไลฟ์ลีย์ได้ยื่นคำร้องขอยกฟ้องคดีเมื่อเดือนมีนาคม โดยอ้างอิงกฎหมายใหม่ของรัฐแคลิฟอร์เนียปี 2023 ซึ่งออกภายหลังขบวนการ #MeToo เพื่อคุ้มครองผู้รอดชีวิตจากการล่วงละเมิดทางเพศจากการฟ้องร้องตอบโต้โดยผู้ถูกกล่าวหา

ณะที่ เบลค ไลฟ์ลีย์ ได้ยื่นฟ้องกลับในเดือนธันวาคม 2024 ต่อจัสติน บัลโดนี และบริษัทผลิต Wayfarer Studios ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ สร้างสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย และตอบโต้เธออย่างไม่เป็นธรรม



กำลังโหลดความคิดเห็น