xs
xsm
sm
md
lg

เผา “เอ๋ ไพโรจน์” ลูกชายหลั่งน้ำตาร่ำลา ลูกสาวฝันเห็นดวงไฟสีขาว เชื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มารับพ่อไป เพื่อนๆ ร่วมร้องเพลงสุดอาลัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพื่อนๆ ร่วมร้องเพลงในตำนาน เธอที่รัก (ชูวับชูวับ) ส่ง “เอ๋ ไพโรจน์” สู่สรวงสวรรค์ ด้านลูกชายทั้งสองหลั่งน้ำตา ส่วนลูกสาว “เบส ปณิชา” เล่าเมื่อคืนฝันเห็นดวงไฟสีขาว เชื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มารับพ่อไป

ต้องจากลาแล้วนิรันดร์ สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ “เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร” ที่เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน หลอดเลือดหัวใจอุดตัน เมื่อช่วงดึกของวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในวัย 72 ปี ซึ่งเป็นการสูญเสียที่กะทันหันจนครอบครัวไม่ทันได้ทำใจ และไม่คาดคิดมาก่อน เนื่องจากเจ้าตัวมีสุขภาพแข็งแรง ทั้งยังออกกำลังกายดูแลตัวเองเป็นอย่างดีมาตลอด

โดยเวลา 17.00 น. วันนี้ (9 มิ.ย. 2568) มีพิธีฌาปนกิจ ที่เมรุวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนอาลัย มีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก สิ่งนี้ทำให้เห็นว่า เอ๋ ไพโรจน์ เป็นที่รักของใครมากมาย ไม่ใช่แค่แฟนๆ ที่ชื่นชอบผลงาน แต่รวมถึงคนในวงการบันเทิงด้วย ที่ต่างก็เดินทางมาร่วมส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย อาทิ ลลนา สุลาวัลย์ คู่ขวัญจากภาพยนตร์ “วัยอลวน” ในปี 2519, นัยนา ชีวานันท์, วินัย พันธุรักษ์, ลอร์ด สยม สังวริบุตร, ดี้ ปัทมา ปานทอง, ปรัชญา ปิ่นแก้ว, แอน ทองประสม, อ๊อด บัณฑิต ทองดี, ปื๊ด ธนิตย์, กอบสุข จารุจินดา, เล็ก สมชาย ศักดิกุล, หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม, ติ๊ก ชีโร่ (มนัสวิน นันทเสน), เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์, กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์, ชมพู ฟรุตตี้, แก้ม กุลกรณ์พัชร์ เมอร์นาร์ด ฯลฯ

ก่อนที่จะถึงพิธีฌาปนกิจ ได้เข้าสู่พิธีเคลื่อนย้ายร่างไร้วิญญาณ เอ๋ ไพโรจน์ ขึ้นสู่เมรุ ได้มีการแสดงดนตรีจากเพื่อนร่วมวงการ “เล็ก สมชาย” ร้องเพลง Green Green Grass of Home – Tom Jones “ดี้ ปัทมา” ร่วมร้องเพลง ใจรัก ก่อนเพื่อนร่วมวงการจะร่วมร้องเพลง “เธอที่รัก (ชูวับชูวับ)” ส่ง เอ๋ ไพโรจน์ ขึ้นสรวงสวรรค์

นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของครอบครัวที่ต้องร่ำลากันแล้วในโลกนี้ โดยลูกชายคนเล็กของ เอ๋ ไพโรจน์ ได้บวชหน้าไฟให้พ่อ ซึ่งระหว่างเคลื่อนร่างจากศาลา 7 มายังเมรุ มีเรื่องบีบหัวใจที่ทำเอาคนในงานสะเทือนใจไปด้วย เมื่อลูกชายทั้ง 2 คนของ เอ๋ ไพโรจน์ เข้มแข็งไม่ไหวร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้นด้วยความเสียใจและคิดถึงพ่อสุดหัวใจ

ด้านลูกสาว “เบส ปณิชา” พี่ใหญ่ของบ้าน ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นหลักให้น้องๆ เมื่อคืนฝันเห็นดวงไฟสีขาวมารับพ่อ เชื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มารับพ่อไปอยู่ในที่ที่ดีงดงาม

“แม้วันนี้จะเป็นวันที่ต้องส่งคุณพ่อจริงๆ แล้วแต่ก็ยังเข้มแข็งอยู่ น้องชายคนเล็กก็บวชให้คุณพ่อด้วย เมื่อคืนก็ฝันเห็นแสงไฟสีขาวดวงใหญ่ สว่างมากๆ เหมือนว่ามารับคุณพ่อขึ้นไป ในความรู้สึกเรามันชัดเจนเลยเรารู้อยู่แล้วว่าเป็นแสงของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มารับพ่อไป แล้วก็ตื่นเพราะตกใจมาก มันเป็นดวงไฟดวงใหญ่มากระทบร่างกายเรา เป็นครั้งแรกที่ฝันแบบนี้ ชีวิตไม่เคยฝันแบบนี้มาก่อน ก็เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มารับคุณพ่อไป ก็คิดว่าถึงเวลาที่เขาเดินทางแล้วได้เห็นแบบนั้นก็รู้สึกสบายใจ”

เพื่อนๆ คุณพ่อ ร่วมกันร้องเพลงส่งคุณพ่อสู่สวรรค์
“ก็จะมีดนตรี คือถ้านึกถึงคุณพ่อก็จะมีคนขอเพลง เธอที่รัก (ชูวับชูวับ) หรือเพลงสุขาอยู่หนใด งานวันนี้ก็จะมีแต่คนที่รักพ่อ คนที่พ่อรัก และเป็นเพลงที่พ่อรัก ก็อยากให้ทุกคนได้ร้องเพลงร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายให้คุณพ่อ วันนี้คนมาส่งคุณพ่อเยอะมาก ทุกวงการ หลายระดับชั้น ก็ดีใจมาก รู้สึกอบอุ่นใจที่คนรักคุณพ่อเยอะขนาดนี้ แล้วก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ผู้ใหญ่หลายท่านบอกถึงพ่อไม่อยู่ก็ยังเหมือนเดิมนะ ยังรักยังห่วงใยมีอะไรโทร.มาได้เหมือนเดิมนะ มันก็ซาบซึ้ง”

วันนี้ยิ้มได้แล้วเพราะฝึกเตรียมใจกับการจากลาในวันนี้มาก่อน
“มันมีการเตรียมตัวเองมาตลอดระยะเวลาอยู่แล้ว คนเรามันบอกไม่ได้ว่าอนาคตมันจะเจ็บป่วย เป็นอะไร แต่มันบอกได้ว่าจุดจบชีวิตมันคือตรงไหน เราเคยถามตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าเราจะเสียใจที่สุด ทุกข์ใจที่สุดตอนไหน ก็คือตอนที่พ่อกับแม่เราไม่อยู่ เราก็ค่อยๆ คิดมาตลอดว่าอะไรบ้างที่มันจะทำให้ความรู้สึกเราไม่เจ็บปวดมากในวันที่วันนี้มันมาถึง ก่อนหน้านั้นในวันที่คิดว่าเราจะไม่มีพ่อไม่มีแม่เราก็น้ำตาไหลแล้ว เราก็ค่อยๆ คิดมาตลอด เราพลาดที่จะทำอะไรบ้างหรือเปล่า เราทำอะไรไปบ้างแล้ว เราต้องเตรียมใจอะไรบ้าง ค่อยๆ หาวิธีคิด ปรับมายด์เซ็ตตัวเองว่าเราจะต้องเป็นยังไงเพื่อที่เมื่อวันนี้มาถึงแล้วเราจะเข้มแข็ง มันได้มาจากการฝึกวิธีคิดของเรามาแล้ว สิ่งสำคัญมันคือการคิดบวก มันเป็นตัวตนเราจากการที่เราพยายามสร้างตัวเองเป็นแบบนี้ มันเลยรู้สึกว่าไม่ต้องทุกข์ทน

เราเองก็ยังต้องเป็นเสาหลักดูแลน้องๆ และครอบครัว ให้กำลังใจหลายๆ คนที่รักพ่อ เข้าใจว่าความรักของพ่อกับเพื่อนๆ ทุกคนมันยิ่งใหญ่มาก เพราะพ่อเป็นคนที่จริงใจกับทุกคนมากๆ ช่วยเหลือทุกคนและทุกอย่าง มีแต่ใจให้ เรามองว่ามันคือความรักที่ยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ที่มีระหว่างกัน ก็เป็นเรื่องที่ดี มีความสุข”

ลอยอังคารที่วัดบางนางเกรง สมุทรปราการ
“ที่วัดบางนางเกรง สมุทรปราการ ในวันพุธที่ 11 นี้ค่ะ คุณพ่อไม่ได้เลือกไว้ ใจพ่อก็คงอยู่ที่โน่น อีก 90 ปี 100 ปี ด้วยเรารู้จักนิสัยคุณพ่อดี เราอยู่ด้วยกันจนเรารู้ว่าวิธีคิดเขาเป็นแบบไหน ไลฟ์สไตล์เขาเป็นแบบไหน ก็เลยคิดแทนเขาได้ เคยไปสัตหีบทีนึงแล้ว ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ มันเงียบเหงา คิดว่าพ่อไม่น่าชอบ แต่ที่สมุทรปราการรู้สึกว่าทุกอย่างมันดูมีชีวิต เป็นพลังงานที่มันเคลื่อนไหวเหมาะกับศิลปินอย่างเขา

อะไรที่ค้างคาใจมันไม่มีแล้ว ก็คงมีแต่คำอวยพรให้พ่อไปในที่ๆ มีความสุข ไม่ต้องห่วงข้างหลัง ชีวิตมันไปข้างหน้าแล้ว มันคนละโลก คนละมิติ ไม่ต้องนึกถึงอะไรแล้ว เขาหมดเวลาตรงนี้ แล้วเขากำลังไปเริ่มในที่ใหม่ ก็ควรจะคิดทำอะไรใหม่ๆ ไปข้างหน้า ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าเขาไปอยู่จุดไหนเขาทำเต็มที่ของเขาอยู่แล้ว ทุกอย่างของคุณพ่อเราอยู่ทั้งหมดอยู่แล้ว เราก็พร้อมสานต่อ แค่ไม่มีคุณพ่อ”

















































































กำลังโหลดความคิดเห็น