xs
xsm
sm
md
lg

อดีตพ่อตาฟาดเดือด “ครูเต้ย” ทำชีวิตลูกพัง! ลั่นเคยรักมาก ซักให้ยันกกน.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรณีดรามาระหว่าง “ครูเต้ย อภิวัฒน์” กับอดีตภรรยา “ขนม ศศิกานต์” ที่ปะทุอยู่เรื่อยๆ และบานปลายในโซเชียล ผลัดกันแซะไปมา เพราะคนรอบตัวสองฝ่าย และเอฟซีที่แบ่งเป็นสองฝ่าย ล่าสุดทั้งคู่ควงแขนมาเคลียร์ทั้งน้ำตาในรายการโหนกระแส (6 มิ.ย.) ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ซึ่งหลังจากที่ครูเต้ยมีการพาดพิงถึงอดีตพ่อตา ว่าดูดบุหรี่ในบ้าน ทำให้ลูกอ้วกเข้ารพ. อดีตพ่อตาเดือด ฟาดกลับยับ
 
พ่อขนม : ผมรักเขาที่สุดในชีวิตครับ ซักกางเกงในให้ ซักถุงเท้าให้ครูเต้ยด้วย

อะไรก็ตามแต่ที่เรากำลังคุยกันอยู่ อย่าคิดถึงตัวเองเป็นที่ตั้ง ต้องคิดถึงลูกและหลานเป็นที่ตั้ง เรื่องนี้จบเร็วดีที่สุด คนได้ประโยชน์คือหลานๆ เดี๋ยวหาทางลง ใจเย็นๆ ต้องจบกันให้ได้วันนี้ ไม่งั้นไม่จบแล้วจะต่อเนื่องกันไปอีก แล้วคาราคาซัง เรื่องพวกนี้ยิ่งยืดเยื้อจะยิ่งไม่ดี มันเซนซิปทีฟ เพราะมีผลกระทบถึงตัวเด็กทั้งสองคนด้วย มันอาจไม่เหมาะ ก็ขออนุญาตสงวนไว้แล้วกัน แต่ผู้ใหญ่ต้องหาทางลงให้ได้ พ่อคาใจอดีตลูกเขยยังไง?
พ่อขนม : ผมคาใจตั้งแต่เรื่องแรก เรื่องการแต่งงาน ผมมีลูกคนเดียว ผมไม่ให้นะตอนแรก (ร้องไห้) แต่ลูกผมต้องการ มีคนแค่ 16 คนในงานแต่งงาน นี่อะไรครับ ไม่ใช่ปิดบังเหรอ ลูกผมต้องอยู่ในบ้าน 1 ปีเต็มๆ หลานผม ผมต้องซักผ้าและตากในบ้าน ปิดประตู ออกไปข้างนอกไม่ได้ เพราะญาติเขาโทรมาด่าเมียผม กดดันเมียผม ต้องให้พูดมั้ยว่าใคร ผมกดดันตลอด แต่ผมยอมนะครับเพื่อลูก นี่คือข้อบ่งชี้ว่ามันคือการปิดบัง ลูกผมไปอยู่กับเขา ต้องไปนอนอยู่หลังรถ เอาผ้าไปคลุมไว้ นี่คือการแต่งงานเหรอครับ ถามหน่อยครับ เอาลูกผมไปต่างจังหวัด แต่งงานกันแล้ว ไล่ลูกผมออกจากห้อง ไล่ลูกผมให้นอนกับพื้น ผมไม่เคยทำแบบนี้กับลูกผมครับ (ร้องไห้)

ครูเต้ย : เคยเหรอ

พ่อขนม : รอให้ผมพูดให้จบก่อนครับ ผมไม่เคยตีลูกผม ไม่เคยด่าลูกผม ผมเลี้ยงลูกผมมาอย่างดี วันเอาลูกผมไป ผมบอกแล้วว่าลูกผมทำอะไรไม่เป็น อย่าเอาลูกผมไปเลย ลูกผมกำลังจะได้ขึ้นการบินไทย คุณมาทำให้ชีวิตลูกผมพัง คุณบอกว่าไม่เป็นไร ข้าวเซเว่นมี ผมอยู่เบื้องหลัง แต่ต้องเลิกทำหนัง เพราะผมต้องซัปพอร์ตลูกผม เพราะระหว่างทางมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ลูกผมโดนไล่จากภูเวียงตอนฝนตก ท้อง 2 เดือน ไล่ไปอยู่ขอนแก่นโดยไม่มีการเหลียวแล ลูกผมโทรหาผม ผมขับรถจากกรุงเทพฯ ไปรับลูกผม ผมไม่เคยว่าครูเต้ยสักคำ ผมบอกว่าลูกผมผิดตลอด ผมทำแฟนลูก ผมทำทุกอย่าง ซักผ้า ถูบ้าน ซักกางเกงใน ซักถุงเท้า จัดที่นอน ผมทำทุกอย่างครับ 

เพราะผมรู้ว่าลูกผมทำอะไรไม่เป็น ผมทิ้งงานเลยนะครับ มาอยู่ภูเวียง 2 ปี ครูเต้ยไม่ได้ให้อะไรผมเลย ผมทำบ้านให้เขา ทั้งเขียนแบบและคุมงาน บ้านหลังนั้นเสร็จเพราะผมหรือเปล่า ถามหน่อย แล้วมีข่าวว่าผมโกงกิน บิลทุกใบที่ส่งให้มันคือบิลอะไร ถ้าจ่ายเงินแล้วจะว่าผมโกงกินได้ยังไง หนึ่งบิลใบกัญชา คุณมาถามว่าบิลกัญชาคืออะไร ผมอยู่ขอนแก่น ครูเต้ยอยากได้รถจากกาญจนาฯ ผมก็ให้เด็กผมไปเอา พอเด็กไปส่งที่บ้าน คุณไม่ถามค่าใช้จ่ายเลย คุณจะเอากุญแจรถ ผมส่งมาจากขอนแก่น เด็กวิ่งไปเอาให้ เด็กวิ่งกลับมาคุณก็ไม่ได้พูดถึงค่าใช้จ่าย ผมถามเขาว่าเท่าไหร่ค่าใช้จ่าย เขาบอกไม่เอาหรอกน้า ผมก็ให้เขาไปหน้าปากซอย ซื้อยา เขาดูดกัญชา เขาเอาบิลมาเบิกผม ถามหน่อยผมไม่มีรายได้อะไร ผมต้องส่งบิลนั้นไปมั้ย ผมเคยอธิบายแล้ว

ครูเต้ย : ไม่เคยครับ กรณีพ่อตั้งแต่คบกันมา ผมรักขนม รักพ่อ รักแม่มากเหมือนกัน พ่อกับแม่บ่นตลอดอยากกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเพราะเบื่ออากาศกรุงเทพฯ ผมก็โอเค พ่อกับแม่มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ผมคุยกับขนม ผมจะซัปพอร์ตตรงนี้ เพื่อให้พ่อกับแม่ไปอยู่กับขนมที่ต่างจังหวัด มีค่าบ้าน ผมจัดการให้ ค่ารถ ค่างวดรถ ผมจัดการให้ มีหนี้ผมให้เงินไปจัดการ พ่อบอกว่าจะเอาที่ร้อยเอ็ดมาให้ผม ผมบอกว่าให้เก็บไว้ให้หลาน ตอนนั้นเป็นโควิด พ่อไม่มีงานเลย ก็กลับไปอยู่ขอนแก่นด้วยกัน ก็เข้าใจว่าหนูเป็นลูกคนเดียว พี่ก็เข้าใจ อยากให้พ่อแม่หนูมาอยู่ด้วยกัน ก็ซัปพอร์ตทุกอย่าง โดยพ่อแม่ไม่ต้องหาเงินมาใช้ในส่วนตรงนี้ ที่พ่อบอกว่าในระยะ 2 ปี พ่อไม่เคยได้อะไรจากผมเลย พี่ถามขนมว่าจริงมั้ย

ขนม : ไม่ได้เงินเดือนหรือค่าข้าว ที่พ่อแม่มาอยู่ตอนนั้นแกแค่มาเยี่ยม แต่ดันตรวจเจอว่าท้องตั้งใจ เดินไปบอกพ่อแกไม้กวาดหล่นมือเลย เพราะกำลังเรียนอยู่ แกเลยต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ เพราะเวลาพี่ไปคอนเสิร์ต นี่ท้องโต ไม่สามารถอยู่คนเดียวกลางทุ่งนาได้แบบนั้น แกต้องมาเฝ้าและอยู่ด้วย ไม่ใช่แกจะย้ายมาอยู่ด้วย ตอนแรกแกไม่อยากมา

ครูเต้ย : ไม่อยากมาได้ไง แกคุยกับพี่

ขนม : พอรู้ว่าท้อง แกก็ต้องอยู่ด้วย นี่จะอยู่กับใคร พี่ไปคอนเสิร์ต นี่คือจุดสำคัญที่แกย้ายมา พี่อย่าเพิ่งหลงประเด็น

ครูเต้ย : แล้วที่พ่อกับแม่บอกว่าไม่เคยได้อะไรจากพี่เลย จริงมั้ย พี่ถามตรงนี้ ทุกเทศกาลทุกอย่างพี่ให้ทั้งทอง เงิน พี่จ่ายให้หมด

ขนม : ในส่วนของวันเกิด เทศกาล ในไลฟ์สดเขาก็พูดว่าพี่จ่ายค่าบ้านให้ เขาไม่เคยพูดว่าพี่ขาดตกบกพร่องเรื่องนี้ แต่สิ่งที่พ่อพูดหมายถึงว่าทางบ้านพี่พูดว่าพ่อแม่เขาเอาเงินเดือนจากพี่ จริงมั้ย

ครูเต้ย : ช่วงแรกที่พ่อไปทำงานกับพี่ พี่ให้เงินเดือน 3 หมื่น จริงมั้ย

พ่อขนม : ผมไปขับรถนะครับ ผมไม่ได้ไปกินเฉยๆ ผมขับรถหนีเอฟซีก็มีมาแล้วครับ

ขนม : จริงค่ะ บนทางด่วน

พ่อขนม : ผมขอพูดเลย เรื่องที่เขาพูดมันไม่ใช่ จะเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มต้น ผมมีบ้านอยู่โชคชัย 4 มีหนี้สินครับ ผมเป็นคนทำงาน ผมจะขายบ้านโชคชัย 4 มาใช้หนี้ แต่เขาบอกไม่ต้องขาย จะเก็บไว้ให้ลูก ผมไม่ได้เงินดาวน์ ไม่มีเงินไปจ่ายหนี้ ผมจ่ายเอง 2 ปี ก้อนแรกที่ครูเต้ยให้ผมคือ 5 หมื่น มีตั้งใจ ผมซื้อทองให้ตั้งใจ 1 บาท ก้อนที่สองให้มา 3 หมื่น ผมทำห้อยคอให้เขา ทอง 1 บาท ก้อนที่สามให้ 5 หมื่น ผมซื้อของขวัญรับเสี่ยเต็ม 1 บาท ผมได้อะไรครับ ญาติเขาเคยทำมั้ยกับหลาน ผมพยายามเล่าให้ฟังว่าเงินที่เขาบอกว่าเอาเงินมาให้ผมจ่ายหนี้ มันเกิดจากอะไรครับ

เต้ยรู้มั้ยเขาไม่ได้เอาไปจ่ายหนี้?
ครูเต้ย : มันคนละส่วนกับจ่ายหนี้ครับ อันนี้หมายถึงเงินที่ผมให้เขาตามวันเกิด ตามวันสำคัญ

พ่อขนม : ใช่ครับ แต่เขาพูดถึงหนี้ 7 แสน ผมก็เล่าให้ฟังว่าผมจะขายบ้านไปจ่ายหนี้ แต่เขาพูดว่าเขาจะเอาบ้านหลังนี้ไว้ให้หลาน ผมไม่ได้เงินดาวน์ ไม่ได้อะไรเลย ผมมีแต่ตัว วันนึงคุณออกจากบ้านผมไป คุณไม่ผ่อน นี่คือสิ่งที่คุณบอกจะเอาไว้ให้หลานเหรอ บ้านที่พระราม 7 ทีมคุณก็อยู่ คุณจะไม่ผ่อนเหรอ อยู่ฟรีๆ ไม่มีค่าเช่า แต่คุณต้องเสียค่าผ่อนนะ มันเป็นบ้านผมครับ

ครูเต้ย : เรื่องบ้านที่ผมไม่ผ่อนต่อ เพราะเขาบอกว่าเขาจะขาย

พ่อขนม : ไม่มีใครพูดครับ พูดความจริงครับ

ครูเต้ย : แม่ยายบอกว่าจะขาย เงินส่วนไหนที่ผมจ่ายไปก่อนเดี๋ยวจะเอามาคืน มันจะได้จบกัน แม่ยายพูดกับพี่ พ่อก็อยู่ หนูก็อยู่ โทรคุยกัน ตอนมีปัญหา

พ่อขนม : ไม่อยู่ครับ อย่ามาเกี่ยวกับผม

ครูเต้ย : แกจะซื้อบ้านอยู่ขอนแก่นแล้ว บ้านตรงนั้นคงต้องขาย ผมก็ย้ายออก แล้วบ้านที่พระราม 7 ที่ผ่านมา ผมผ่อนให้ 2 หลังเลย

ขนม : หลังนึงทีมงานอยู่ อีกหลังจะเก็บไว้ให้ลูก

เรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัว ไปคุยทีหลัง คนดูเขาไม่เข้าใจด้วย วันนี้ต้องหาทางลงว่าจะเอายังไง เข้าใจอารมณ์โกรธทั้งสองฝั่ง แต่สิ่งที่ต้องดำเนินต่อไป ลูกสำคัญ คุยทางลงดีกว่า ถ้าคุยแบบนี้มันคือทางขึ้น ถามธงพ่อต้องการอะไร?
พ่อขนม : ผมต้องการให้ปัญหาจบแล้วแยกย้าย ใครอยากฟังก็ได้ฟัง จะได้ไม่ต้องมานั่งพูดกัน สุดท้ายลามมาด่าผมแล้ว ผมไม่รู้เรื่อง ผมไม่ใช่คนในโซเชียล ผมไม่ยุ่ง ไม่เคยเอาใครมาหากินเลย

ขนม : พี่เต้ยบอกว่าพวกอาๆ ที่มาดูแล หรือพ่อแม่หรือแม้แต่พี่บุ๊ค ลงรูปวันแรก เขาบอกว่าคนพวกนี้หาแสงกับลูก เอาลูกมาหากิน พอพี่มีแฟนใหม่ แล้วพาลูกไปเจอแฟนใหม่ พี่กลับพูดว่า ก็ดีแล้วมีคนรัก คนเอ็นดูลูกเรา แต่ความจริงที่แชตทักมาหาหนูคือหาแสงทำไม บอกพี่บุ๊คหาแสงทำไม อาๆ หาแสงทำไม จริงมั้ย

ครูเต้ย : มันเป็นประเด็นที่มีกระแสแรกๆ เราบอกว่าถ้าต่างคนต่างมีแฟน อย่าเพิ่งให้ลูกรับรู้ตรงนี้ได้มั้ย พี่เคยคุยกับหนูแล้ว แต่หนูพาเด็กๆ ไปทำคอนเทนต์ว่าเจอพี่หมอ มันลงในโซเชียล ตอนนั้นพี่ขอโทษ พี่โมโหจริงๆ เพราะมีคนคอมเมนต์ว่าดีกว่าพ่อจริงๆ คนที่เลี้ยง ดีกว่าคนทำให้เกิด ซึ่งคุณเพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้ง พี่ก็เลยโกรธ แล้วก็เลยทักไปว่าจากที่คุยกันว่าจะไม่ให้ลูกรับรู้เรื่องพวกนี้ไว เพราะเขายังไม่ถึงช่วงนั้น แต่ทำไมลงรูปลูกพวกนี้ ที่เขาโมโหตรงนั้นเขาก็ผิด

ถ้าคุยแบบนี้ คงหาทางลงกันยาก เรื่องทั้งหมด เข้าใจพ่อ?
พ่อขนม : ที่ผมติดใจที่สุด ผมเลี้ยงลูกมาขนาดนี้ ทะนุถนอมขนาดนี้ คุณพูดแบบนี้กับลูกผมได้ยังไง ปัญหากระทบเด็กด้วย ผมเลยไม่พูด

ขนม : มันมีเรื่องราวหลังจากนั้น พอพี่เต้ยกลับบ้านไปทุกครั้ง พ่อหนูจะไม่พอใจ ทำให้เกิดเรื่อง รอบแรกคือจะตีกันกับน้อง รอบสองมาหน้าบ้าน พ่อทำหน้าไม่พอใจใส่เขา ต้นเหตุจากเรื่องนี้ เขาออกไปหน้าบ้านตะโกนว่าออกมาเลย

ต๊ะ : เขามองหน้าพี่ผม เขานักเลงเกินไป เอามือล้วงกระเป๋า

พ่อขนม : ไปถึงผมไม่ได้ท้าทายใครเลย ผมเอามือล้วงกระเป๋า หน้ายังไม่มอง แต่ผมเดินออกมาแล้ว ผมถามว่าผมผิดมั้ย

ครูเต้ย : ผม ต๊ะ หนุ่ม สามคนเข้าไปในบ้าน มีน้องอีกคนรออยู่หน้ารถ พอผมเข้าไปในบ้าน อากงทำท่าทีไม่พอใจพวกผม แม่ยายบอกให้อากงออกไปนอกบ้าน ผมก็นั่งเล่นอยู่กับลูกในบ้าน 3 คน พอลูกนอนก็ออกมาจากบ้าน พอออกจากบ้าน น้องที่รอบนรถบอกว่าอากงเดินออกมา แล้วล้วงกระเป๋า เอาเปล่าล่ะ พูดแบบนี้ มั่นใจครับ

พ่อขนม : คืนนั้นผมได้รับข่าวไม่ดีจากลูก ผมได้ยินครั้งแรกจากลูกเลย โมโหมั้ยครับ ผมเป็นพ่อนะครับ ผมเลี้ยงลูกมาขนาดนี้ คุณเป็นฆาตกรครับ คุณสั่งให้คนสองคนต้องไปตาย ผมถามหน่อยครับ ถ้าขนมกินยา แล้วตกเลือด ทำยังไงครับ

ครูเต้ย : ไม่พูดคำรุนแรงขนาดนั้นนะครับ

ขอพ่ออย่าพูดเรื่องนี้ ถ้าพ่อขึ้นง่ายแล้วพ่อหลุดหมด อย่าเพิ่งพูดดีกว่า ไม่งั้นจะไปถึงเด็ก มันไม่เหมาะ?
พ่อขนม : ผมไม่อยากพูด แต่มันต้องวกเข้ามาไงครับ

วกเข้ามาไม่ได้ไงพ่อ?
ครูเต้ย : คำว่ายังไม่พร้อม เพราะลูกคนแรกผมกับขนมยังไม่มีเวลาให้เขาได้เต็มที่เลย ผมทำงานแทบทุกวัน เดือนนึงผมเข้าบ้าน 3-4 ครั้ง ลูกคนแรกยังมีแค่แม่ยาย อากงเป็นคนเลี้ยง คนที่สองถ้าเรามีจะขนาดไหน แล้วขนมมีปัญหาเรื่องพอต ยังไม่เลิกดูดพอต คนดูดพอตไม่ใช่คนไม่ดี แต่คุณเป็นแม่

ขนม : เคยทำ ยอมรับ

ครูเต้ย : คุณเป็นแม่ยังไม่เลิกตรงนี้เลย แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ เราเคยตกลงกันแล้ว เรามีลูกจะไม่ทำแบบนี้ ผมไม่เคยดูดพอต ไม่เคยดูดบุหรี่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่มั่นใจในตัวเขาเลย ในการมีลูกคนที่สอง คือผมได้รับรู้ว่า เขาพูดพอตตอนท้องอยู่ (ร้องไห้)

ขนม : โอ้ย อันนี้แล้วเลย

ครูเต้ย : แล้วจะมีผลอะไรต่อลูก

ขนม : ไปหาหลักฐานมาค่ะ









กำลังโหลดความคิดเห็น