วุ่นกันต่อเนื่องจริงๆ สำหรับเวที Miss Grand International 2024 หลังมีการสั่งปลดเจ้าของตำแหน่ง "เรเชล คุปตะ" (Rachel Gupta) นางงามชาวอินเดีย พร้อมตั้งรองอันดับหนึ่ง "จูเลียน โอเปียซา" (Christine Juliane Opiaza) นางงามชาวฟิลิปปินส์ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน
ล่าสุดทางด้านของ "ซาฟิเอตู คาเบงเกเล" (Safietou Kabengele) รองอันดับ 3 ก็ได้โพสต์คลิปประกาศสละตำแหน่งแล้วโดยให้รายละเอียดถึงสาเหตุหลักๆ ว่าที่ผ่านมาเธอเองต้องถูกต่อว่ามากมายหลังจากที่เธอออกมาชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่สนิทสนมกับอดีตเจ้าของตำแหน่งแย่าง "ราเชล คุปตะ"
โดยเฉพาะทางด้านของเจ้าของเวทีอย่าง "ณวัฒน์" ที่นอกจากจะไม่ปกป้องเธอแล้วยังซัดเธอว่าเป็นพวก ไร้ค่า ขโมย สร้างกระแส เพื่อผลประโยชน์ตนเองและทำให้ตนเองถูกบูลลี่มากมาย
"สวัสดีทุกคน ซาฟีตูเองนะคะ วันนี้ฉันอยากจะพูดจากใจเกี่ยวกับเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่ฉันตัดสินใจ และอยากให้ทุกคนเข้าใจบริบทเบื้องหลังทั้งหมด รวมถึงตัวตนของฉันและสิ่งที่ฉันต้องเผชิญ"
"ฉันคือซาฟีตู คาเบงเกเล มิสแกรนด์ฝรั่งเศส 2024 และเป็นผู้แทนฝรั่งเศสไปประกวดเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งถือว่าใหญ่พอ ๆ กับมิสยูนิเวิร์ส ฉันคือผู้หญิงผิวสี หัวเกรียน รูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่สามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 จากเวทีที่มีสาวงามกว่า 75 ประเทศ และเป็นคนฝรั่งเศสคนแรกที่ติดท็อป 5 ฉันภูมิใจมาก เพราะฉันทำมันด้วยความจริงใจ มีศักดิ์ศรี และไม่เคยทรยศต่อหลักการของตัวเอง"
"แต่สิ่งที่พวกคุณไม่รู้ก็คือ เบื้องหลังของทุกอย่างมันไม่ได้สวยงามแบบที่เห็น..."
"วันหนึ่งมีคนใน Q&A ถามฉันว่า “ทำไมไม่เห็นเธอสนิทกับควีนคนปัจจุบันเลย?” ฉันก็ตอบไปตามตรงว่า ฉันไม่รู้สึกสนิทกับเธอ เพราะในตอนนั้น ฉันคิดว่าเธอเป็นคนเสแสร้งและปฏิบัติกับคนอื่นไม่ดี และสำหรับฉันซึ่งเป็นคนตรงไปตรงมา ฉันไม่สามารถสร้างสายสัมพันธ์กับคนแบบนั้นได้"
"ฉันพูดสิ่งนี้ใน Instagram Story ด้วยความซื่อตรง แต่สิ่งที่ตามมาคือดราม่าครั้งใหญ่ มีคนแคปหน้าจอ แชร์กันไปทั่ว จนไปถึงหูของประธานมิสแกรนด์ คุณณวัฒน์ ซึ่งพูดถึงฉันทั้งในไลฟ์และแถลงข่าวว่าฉัน "ไร้ค่า ขาดความสนใจ และเกือบจะเป็นขโมย" เขากล่าวหาว่าฉันมาเพื่อสร้างกระแส แล้วจากไปพร้อมกับเงินของเวที"
"ทั้งที่ความจริงแล้ว ฉันกลับฝรั่งเศสเพราะแม่ของฉันที่รักและเป็นทุกอย่างในชีวิตฉัน กำลังป่วยหนัก ฉันกลับเพราะครอบครัว แต่กลับถูกกล่าวหาเหมือนขโมย"
"หลังจากนั้นฉันต้องเจอคำด่า การเหยียดผิว คำดูถูกทุกวันเป็นเวลาหกเดือนเต็ม! คอมเมนต์เหยียดสีผิว ด่าฉันว่า “งูพิษ” “อิจฉา” “ไร้ค่า” “ลิงดำ” และอื่น ๆ ที่รุนแรงกว่านั้นอีก และตลอดเวลานั้น คณะกรรมการเงียบ ไม่ปกป้องฉัน ไม่ออกแถลงการณ์ ไม่แม้แต่จะตอบกลับข้อความฉันที่ส่งไปเพื่ออธิบายเรื่องราว พวกเขาปล่อยให้ฉันถูกทำร้ายในที่สาธารณะ"
"จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ ควีนคนที่ฉันเคยพูดถึง ได้ประกาศสละตำแหน่งเอง และผู้คนเริ่มกลับมาหาฉัน บอกว่า “ซาฟีตู เธอพูดถูกตั้งแต่แรกแล้ว” แต่ฉันไม่ได้ต้องการการยอมรับแบบนั้น"
"หลังจากทุกอย่างผ่านไป ฉันลองทักคณะกรรมการไปอีกครั้งเพื่อถามว่า ฉันยังเป็นสมาชิกของ Grand Family อยู่หรือไม่ และเขาก็ตอบมาว่า “แน่นอน เธอยังเป็นครอบครัวของเรา” …หลังจากหกเดือนแห่งความเงียบงัน? และที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่ที่สุดคือ พวกเขากลับมาลงภาพฉันในแบนเนอร์ Top 8 เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ฝันอยากเป็นนางงาม แต่ฉันใช้เวทีนี้เป็นพื้นที่ส่งเสียง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ฉันไม่เคยให้ตำแหน่งหรือตำแหน่งใดมากำหนดตัวฉัน เพราะฉันเชื่อว่าคุณค่าของผู้หญิงไม่ได้อยู่ที่มงกุฎ แต่อยู่ที่การเปล่งประกายจากภายใน"
"และด้วยเหตุนี้ ฉันจึงตัดสินใจสิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้ ฉันขอสละตำแหน่งรองอันดับ 3 มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2024 ด้วยตัวเอง”
"ฉันไม่ขอนั่งอยู่ในที่ที่ไม่มีความเคารพอีกต่อไป และจะไม่ยอมเป็นแพะรับบาปของใครอีก"
"ฉันรู้ว่าทุกครั้งที่คุณค้นหา Miss Grand International คุณจะเจอหน้าฉัน เพราะฉันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกระแสให้เวทีในปี 2024 แต่วันนี้ ฉันปฏิเสธที่จะนิ่งเงียบ ฉันปฏิเสธการถูกลดคุณค่า และฉันเลือกเดินจากมาด้วยศักดิ์ศรี"
"ท้ายที่สุด ฉันขอบคุณเวทีนี้ที่มอบประสบการณ์ที่ล้ำค่าให้ฉัน ให้ฉันได้พบผู้หญิงที่น่าทึ่ง ได้เติบโต ได้เรียนรู้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสิ่งเลวร้ายจากคณะกรรมการระดับชาติที่พยายามแบล็กเมล์ ข่มขู่ และรีดไถเงินฉัน (ซึ่งฉันจะพูดถึงในคลิปต่อไป)"
"แม้จะโดนแบบนั้น ฉันยังยืนหยัด ทำทุกอย่างด้วยลำแข้งของตัวเอง ด้วยความเชื่อของตัวเอง ฉันทำได้ เพราะฉันมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่ามงกุฎ นั่นคือการสร้างแรงบันดาลใจ"
สุดท้ายนี้..."มงกุฎที่แท้จริงไม่ได้อยู่บนหัว แต่มันเปล่งประกายจากข้างใน"
"จงเปล่งประกายจากภายใน แล้วผู้คนจะรักคุณในแบบที่คุณเป็น อย่าเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร เพราะคุณสวยในแบบของคุณเอง"
"ขอบคุณที่รับฟัง และฉันจะไม่หายไปไหน ฉันยังมีเป้าหมายอีกมาก และหวังว่าทุกคนจะเดินเคียงข้างฉันต่อไป...รักทุกคนค่ะ"
