“ประจักษ์ชัย” เปิดใจไม่เคยคิดลิขสิทธิ์ “อาม ชุติมา” เลยสักครั้งเดียวตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้วหลังจากไปเคลียร์กันในรายการโหนกระแส แต่ข่าวไม่ครบทำให้ตนกลายเป็นแพะรับบาปมาตลอด บอกทุกวันนี้เข้าหาธรรมะแล้ว สวดมนต์แผ่เมตตา ปลดล็อกทุกอย่าง ได้เคลียร์ใจกับอาม ทำให้ตายตาหลับแล้ว จากนี้ขอเป็นพระเอกบ้าง อย่าให้ต้องเป็นโจรอีกเลย เผยเตรียมผุดโปรเจกต์ “เนส-อาม-ลำไย” รับประกันยิ่งใหญ่แน่นอน
หลังจาก “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ผุดงาน The Grand Fest Concert 4 ภาค ขึ้นมา ทำให้แฟนๆ ได้เห็นภาพของ “ลำไย ไหทองคำ” สุพรรณษา เวชกามา กับ “อาม ชุติมา โสดาภักดิ์” กลับมาร่วมร้องเพลงเวทีเดียวกันอีกครั้ง และอีกหนึ่งคนสำคัญอย่าง “นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ที่เกิดประเด็นเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง ผู้สาวขาเลาะ จนเกิดกระแสว่าอามในฐานะคนแต่งเพลงกลับเอาเพลงตัวเองไปร้องไม่ได้ ต้องไปเคลียร์กันในรายการโหนกระแสเมื่อ 8 ปีก่อน มาวันนี้ “นายห้างประจักษ์ชัย” ได้ออกมาเปิดใจว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ข่าวที่ออกไปทำให้ตนกลายเป็นแพะรับบาปมาโดยตลอด
“ถ้าออกสื่อขนาดนี้แล้ว ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้วกับชีวิตของนักร้องหรือมนุษย์คนไหน ผมเข้าทางธรรมะแล้ว อะไรที่ปล่อยวางได้ อะไรที่อภัยให้กันได้ ใครอยากได้ดีตามที่อาจารย์บอกสอน เรียนกันมา ผลักดันกันมา ให้เกียรติกัน อวยกัน ชื่นชมกันเป็นสิ่งที่ดีมากกว่า ขี้เกียจไปกระแหนะกระแหนแซะใครแล้ว มันเลยจุดที่ผมจะต้องมาเครียดกับดรามาต่างๆ ผมนอนตามเวลา กินตามเวลา พักผ่อน ท่องเที่ยวแค่นั้นเอง
เรื่องลิขสิทธิ์ ตั้งแต่น้องร้องเพลงมา เราไม่เคยเอาค่าลิขสิทธิ์ใดๆ เลย แม้แต่ทุกรายการในทีวี ไม่เคยนะครับ แต่บางครั้งที่สื่อออกไปเหมือนว่าทางค่ายไปเก็บลิขสิทธิ์ ซึ่งทางค่ายไม่เคยไปเก็บลิขสิทธิ์น้องอามเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็เป็นการให้เกียรติตั้งแต่เมื่อ 8-9 ปีที่เราจบที่รายการโหนกระแส ก็ไม่เคยไปเรียกเก็บลิขสิทธิ์เลย มิสแกรนด์ขอลิขสิทธิ์ไป รายการทีวีทุกรายการทุกช่องขอลิขสิทธิ์ผมมา ผมก็ไม่เคยเอาค่าลิขสิทธิ์เลย นี่คือความสัตย์จริง แต่บางทีบอกว่าเพลงตัวเองแต่งมาแท้ๆ ทำไมร้องไม่ได้ อันนี้มันเป็นการสื่อสารที่ผมก็กลายเป็นแพะรับบาปของสังคม ผมก็บาดเจ็บมาตลอด 8 ปี แต่ผมไม่อยากพูด ก็คิดแค่ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
บอกรอวันนี้มา 8 ปี จากนี้นอนตายตาหลับแล้ว
“บางทีพูดไม่จบไง พูดจริงแต่ไม่ได้พูดหมดในข้อมูลที่ให้ไป ก็อาจจะคิดว่าผมเป็นนายห้างที่เป็นนายทุน ซึ่งต้องเอาเปรียบนักร้องในสังกัด ผมก็จะบอกว่าผมไม่ใช่นายทุนครับ ผมเป็นผู้ลงทุน ผมก็เป็นครูเพลงที่ใฝ่ดี ที่รักลูกน้องในองค์กรทุกคนแค่นั้นเอง ไม่ได้หวังจะเอาเปรียบอะไรใคร เพราะเราก็มาจากดินด้วยกันหมด ไม่ได้หวังว่าจะไปทำนาบนหลังคนกับใครสักอย่าง แต่บางทีในกระแสโซเชียลที่มันร้อนรุ่มอาจจะมีดรามา อาจจะมีเอฟซีฝั่งโน้นฝั่งนี้และมีการขยายผล สิ่งที่ผมทำได้ก็คือสวดมนต์ท่องชินบัญชร แผ่เมตตา จบที่เราเบาที่สุด ผมก็รอวันนี้มา 8 ปีเพื่อให้สวรรค์เปิดทางให้ผม
ก็ยินดี ถือว่าเป็นครั้งที่ผมจะได้นอนตายตาหลับแล้วล่ะครับ ทำดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทุกวันนี้ผมก็ปลดล็อกทุกอย่าง ความขุ่นข้องหมองใจ น้อยเนื้อต่ำใจอะไร พี่ๆ น้องๆ นักข่าวเสนอข่าวอะไรไปบางทีผมก็น้อยใจ บางทีเสนอไม่หมด บางทีก็ให้ผมพูดออกซะเต็มหมัดเลย บางทีก็เอาไปออกนิดเดียว บางทีอารมณ์พาไป ก็น้อมรับหมด หลังจากนี้ก็ไม่ได้โทษใครแล้ว ถือว่าเราปากไวมากไป ต่อไปก็จะไม่ปากไวอีก ก็ขอบพระคุณทุกท่านที่ดูแลผมมาตลอดครับ จะเป็นพระเอกแล้วนะต่อจากนี้ ให้ผมเป็นพระเอกบ้าง อย่าให้ผมเป็นโจรมาก
ก็ดีใจครับ ในวันที่เราลำบากมาด้วยกัน ก็อยู่ด้วยกันตั้งแต่บ้านเช่าหลังละ 5,500 จนวันนี้ทุกคนมีบ้านหลังละ 10 กว่าล้าน ดีใจหมด ที่พูดไปไม่ได้ลำเลิกบุญคุณอะไรครับ แค่ชื่นชมว่าการก้าวย่างในวันนั้นเราลำบากกันมา จนมาถึงความสำเร็จวันนี้ก็ดีใจด้วย แต่เราก็คือเส้นทางหนึ่งที่หอบหิ้วกันมา ถึงจะได้สำเร็จมาวันนี้ เราก็แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง บางทีมองว่าเราไปลำเลิกบุญคุณด้วยเงิน 2,000 อยู่ในป่ายาง คือด้วยความที่เราเป็นครู เราก็เปรียบเปรยอุปมาอุปไมยบ้าง
แต่ในบริบทของผม คาแรกเตอร์ของผมเวลาสัมภาษณ์เหมือนคนจริงจัง ดุดัน ความน่ารักก็เลยหายไป ซึ่งต่อไปนี้ผมก็คงจะไม่สัมภาษณ์ด้วยบุคลิกท่าทางเกรี้ยวกราด ด้วยบุคลิกของผมคนที่เรียนจบนิติศาสตร์มา เป็นนักต่อสู้ทางการเมือง เป็นนักกฎหมายมา บางทีการต่อสู้ทางเชิงกฎหมายมันต้องเข้มข้น แต่พอมาถึงวงการบันเทิง วงการมายาแล้ว เราเปลี่ยนมายด์เซ็ต เปลี่ยนบริบทเราไม่ทัน แต่จากนี้ผมเข้าใจบริบทของวงการมายา วงการบันเทิงแล้ว ผมต้องอยู่ให้เป็น เย็นให้พอ และปลงให้ได้”
เตรียมทำโปรเจกต์รวม “ลำไย-อาม ชุติมา-เนสกาแฟ ศรีนคร” รับประกันความยิ่งใหญ่แน่นอน
“ก็ตั้งใจอยากจะทำงานเฟสที่เป็นอินดี้จริงๆ มีลำไย มีเนส มีอาม 3 คนนี้เขาเป็นเพื่อนกัน นอนห้องเดียวกัน ซุกหัวนอนอยู่ห้องเดียวกัน ก็ถ้าเกิดเป็นไปได้ เมื่อก่อนผมคิดคนเดียวไม่ได้ แต่หลังจากนี้บอสณวัฒน์และเฮียหน่อยเป็นคนคิดโปรเจกต์นี้ ก็สามารถมาจอยกันได้ และจะทำเล็กก็ไม่ได้แล้วทีนี้ เพราะโปรเจกต์ของมิสแกรนด์ ไหทองคำ และหมอลำไอดอล น่าจะทำอะไรที่มันเรียกว่าโลกไม่จำ ถ้ามันธรรมดา ก็อยากจะทำอะไรใหญ่ๆ
ซึ่งวันนี้เราเลยลดละความรู้สึกอะไรบางอย่างที่มันค้างคาในใจกันไป เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของวงการเพลง เราอยากมาจับมือกันมากกว่า มีแน่นอนครับ ผมอยากจะเปิดทั้งเนส อามและลำไยน่าจะเกิดขึ้น นอกจากเฟสตรงนี้ก็อาจจะมีโปรเจกต์อื่นที่อาจจะตั้งขึ้นมาเองของทีมงานของเรา 3 ท่าน
ก็ขอบคุณทุกท่านนะครับที่ให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ที่ให้กำลังใจหรือคอมเมนต์ที่เป็นแนวทางที่ทำให้เราบาดหมางกัน แต่ก็ขอให้จบภายในวันนี้เถอะนะครับ เราก็ตั้งใจที่จะมาร่วมงานกันแล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการก็เฝ้ามองอยู่ ถ้าเป็นไปได้ในวันนี้ก็ขอบคุณพี่ๆ สื่อทุกท่านที่ดูแลเรามาดีโดยตลอด และติดตาม ไม่ว่าผมจะโดนอาฟเตอร์ช็อกบ้าง ดรามาบ้าง ซึ่งมันเป็นวิถีของคนดัง ถ้าไม่ดังหรือไม่มีดรามามันก็จะไม่เกิดกระแสขึ้นมา เพราะฉะนั้นผมก็ต้องบริหารดรามาให้เป็นดรามามาร์เก็ตติ้งให้ได้มากที่สุดครับ”
