ก่อนที่สมาชิก BTS จะออกจากกรมในเร็ว ๆ นี้ ค่ายเพลงและต้นสังกัดอย่าง HYBE กลับต้องเผชิญกระแสข่าวฉาว เมื่อมีรายงานว่าผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท บังชีฮยอก อาจถูกอัยการสอบสวนในข้อหาฉ้อโกงการลงทุน
ตามรายงานของ KED Global ในปี 2019 บังชีฮยอกได้แจ้งผู้ถือหุ้นว่า HYBE ไม่มีแผนจะนำบริษัทเข้าตลาด แต่กลับเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการ IPO (การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ) ในภายหลัง
สำนักงานตำรวจนครบาลกรุงโซลได้ยื่นคำร้องต่ออัยการเพื่อขอออกหมายค้นและยึดเอกสารที่สำนักงานใหญ่ HYBE โดยมีรายงานว่าสำนักงานกำกับดูแลการเงิน (FSS) พบหลักฐานว่าบังชีฮยอกให้ข้อมูลผิดพลาดกับผู้ถือหุ้น
ในปี 2019 หลังจาก HYBE แจ้งผู้ถือหุ้นว่าไม่มีแผนจะเข้าตลาด บางส่วนตัดสินใจขายหุ้นออกไป ขณะเดียวกันบังชีฮยอกกลับไปลงนามในข้อตกลงลับกับกองทุน PEF ในประเทศ เช่น STIC Investments Inc., Estone Equity Partners และ New Main Equity เพื่อแบ่งผลกำไรจากการเข้าตลาดในอนาคต ซึ่งข้อตกลงนี้ไม่เคยถูกเปิดเผยจนกระทั่งราคาหุ้น HYBE ตกฮวบหลัง IPO โดยนักลงทุนต้องขาดทุนหนักจากการขายหุ้นในช่วงนั้น แต่บังชีฮยอกกลับได้รับผลกำไรราว 400,000 ล้านวอน (ประมาณ 289.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากข้อตกลงลับดังกล่าว ซึ่งอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายเปิดเผยข้อมูลตามพระราชบัญญัติตลาดทุนของเกาหลี
หากบังชีฮยอกถูกดำเนินคดีและศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานเปิดเผยข้อมูลเท็จและแสวงหากำไรโดยมิชอบ เขาอาจถูกจำคุกอย่างน้อย 5 ปี หรือหากมูลค่าผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องเกินกว่า 5,000 ล้านวอน อาจถูกลงโทษสูงสุดถึง จำคุกตลอดชีวิต ตามที่กฎหมายกำหนด
ขณะเดียวกัน อัยการได้บุกค้นสำนักงานใหญ่ HYBE ในกรุงโซลไปแล้ว จากคดีแยกต่างหากที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลวงในของอดีตพนักงาน ซึ่งต้องสงสัยว่าใช้ข้อมูลลับทำกำไรราว 240 ล้านวอนจากการซื้อขายหุ้นอย่างผิดกฎหมาย
