“จูเน่ เพลินพิชญา” รับเรียนไม่จบปริญญาตรี เลือกงาน ลาออกจากมหา’ลัย เผยนั่งเรียน 4 ปีในมหา’ลัย ไม่ตอบโจทย์ชีวิต ลงเรียนคอร์สออนไลน์ใช้เวลาไม่นาน นำมาใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ขอบคุณครอบครัวไม่กดดัน ทั้งที่อยากให้เรียน รับไม่นึกว่าคนจะสงสัย อยากรู้เดินเข้ามาถามได้
อยู่ดีๆ ก็มีชาวเน็ตออกมาคอมเมนต์เรื่องการเรียนของ “จูเน่ เพลินพิชญา โกมลารชุน” ว่าเรียนไม่จบปริญญาตรี ซึ่งทำหลายคนกังขาว่าเจ้าตัวเรียนจบแล้วหรือไม่ ล่าสุดจูเน่เปิดใจในงาน CP-Meiji World Milk Day รับลาออกจากมหาวิทยาลัยเพราะรู้สึกว่าการเรียน 4 ปีไม่ตอบโจทย์ ขอบคุณครอบครัวไม่กดดัน
“การเรียนมหาวิทยาลัยของเรา คิดว่าทุกคนพอจะรู้กันบ้างช่วงที่เน่อยู่วง BNK ก็เรียนที่จุฬาฯ ไปด้วยก็ตัดสินใจว่าเราไม่สามารถดูแลทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันได้ ก็เลยทำการดร็อปแล้วมาโฟกัสที่งานก่อน จนวันที่เราจบการศึกษากับทางวงเราก็กลับไปเรียนต่อ แต่อันนี้คือส่วนตัวนะคะ คือพอเราได้มาทำงานแล้ว เราได้เห็นมุมมองชีวิตในแบบอื่นๆ รวมถึงโอกาสในการทำงาน ก็เลยมานั่งคุยกับตัวเองว่าการที่เราจะมานั่งใช้เวลาอีก 4 ปีในมหาวิทยาลัย อาจจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตที่เราต้องการจริงๆ ก็เลยออกจากมหาวิทยาลัยและเลือกที่จะทำงานมากกว่า เน่ก็ไปทางศึกษาลงคอร์สเรียนออนไลน์ ซึ่งเดี๋ยวนี้มันทำได้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลกเลย ไม่ต้องใช้เวลานาน เน่ก็เน้นเรียนที่เน่อยากจะรู้จริงๆ เอามาใช้ประโยชน์จริงๆ”
ไม่ซีเรียสเรื่องปริญญา ครอบครัวไม่กดดัน ทั้งที่อยากให้เรียน
“เน่ไม่ซีเรียสเรื่องปริญญา และขอบคุณทางบ้านมากๆ เขาไม่ซีเรียสเลย คุณแม่เน่เขาเป็นคนที่รักเรียนมากๆ เขาก็อยากจะให้เราเรียนนั่นแหละ แต่เขาไม่ชอบบังคับ เขาจะรู้เองว่าตัวเราต้องการอะไรมากที่สุด เวลาเราทำอะไรเราก็จะทำของเราเองโดยไม่มีใครมาขอเราอยู่แล้ว ดังนั้นในวันที่เราเดินกลับไปเรียน เน่ก็บอกแม่ว่าเน่ไปเทคคอร์สอินทีเรียนะ เขาก็ดีใจ เพราะเขารู้ว่าจนถึงวันนึงที่เราทำงาน เราได้เจอคนเยอะๆ เราก็จะรู้สึกเองว่าเราต้องการความรู้เพิ่มเติม เน่ก็เลือกที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานพร้อมกับเรียนไปด้วย ดีใจที่เดี๋ยวนี้มันมีหลายคอร์สให้เราได้ลอง โดยที่ไม่ต้องไปนั่งอยู่ 4 ปี 6 เดือนก็มี 1 ปีก็มี 2 ปีก็มี มันไม่รู้สึกกดดันตัวเองด้วย
คนถามเรื่องเรียนเราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรนะ เน่ว่ายุคสมัยนี้มันเปิดกว้างมากๆ พอสมควรแล้ว เข้าใจค่ะว่ามันก็คงจะยังมีคอมเมนต์ที่หลากหลาย มองว่าเหมาะสมไม่เหมาะสม ดีหรือไม่ดี แล้วแต่เลย แล้วแต่แต่ละคน ส่วนตัวเน่แทบไม่รู้มาก่อนว่ามันมีคนสงสัย ไม่มีใครเดินเข้ามาถาม ถ้าอยากรู้ก็บอกได้ค่ะ”
