“พิมพ์ พิมพ์มาดา” แฮปปี้ศัลยกรรมดึงหน้าครั้งแรก บอกอยากทำตอนนี้เพราะอยากสวยตอนนี้ ไม่ใช่รอเหี่ยวอายุ 60 แล้วค่อยทำ บอกไม่รู้ตอนนั้นร่างกายจะทำไหวหรือเปล่า อยากสต๊าฟหน้าเด็กไว้แม้รับบทแม่ ลั่นนอยด์คนมองเหมือนยังไม่ได้ทำ วอนรอให้เข้าที่อีกนิดก่อน
หลังจากที่ตัดสินใจเข้ารับการทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ในวัยเพียง 45 ปี จนคนตั้งคำถามว่ารีบทำไปทำไม อายุยังน้อย แถมหน้ายังดูอ่อนวัยเหมือนสมัยเข้าวงการ ล่าสุดนักแสดงสาว “พิมพ์ พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร” ได้ออกงานเคลียร์ประเด็นนี้ ในงานเปิดตัวแคมเปญ “Dimk to Share” ของดอยคำ ณ ลานกิจกรรม พารากอนชีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ลั่นทำตอนนี้เพราะอยากสวยตอนนี้
“ไม่ได้หลงกลพี่แหม่ม (วิชุดา พินดั้ม) คือตั้งใจจะไปทำ อยากสวยวันนี้ ไม่อยากจะ 50-60 แล้วค่อยทำ อยากทำให้เราดูดีในแบบตัวเอง แต่หลายคนก็บอกว่านี่ทำแล้วหรอไม่เห็นเปลี่ยนเลย
ก็คุยกับพี่แหม่มปรึกษามาเป็นปี เพราะโรงพยาบาลจริงๆ แล้ว เขาไม่ได้รับเคสรีวิว เป็นโรงพยาบาลที่แน่นอยู่แล้ว เราต้องแบบใช้เส้นพี่แหม่มเพื่อขอเขาไปทำที่นี่ แล้วคุณหมอเขาก็คิวยากมากก็จองคิวมาเป็นปีเหมือนกัน”
แฮปปี้ศัลยกรรมครั้งแรก
“ไม่เครียดเลยเพราะว่าตั้งใจแล้วก็รู้ลิมิตของเราที่จะทำคือทำแค่ไหนทำประมาณไหนก็เลยไม่ได้กังวลอะไร (ปรึกษาคุณหมอยังไง?) คือจริงๆ เราไปนั่งปุ๊บไม่ต้องพูดอะไรเลยคุณหมอบอกเราทันที จิ้มเลยว่าต้องทำอะไรเหมือนกับที่เราอยากทำทุกอย่าง จริงๆ เราก็แค่อยากยกให้มันดูสดชื่นขึ้นแต่ว่าให้มันเป็นโครงหน้าเราเดิม
ถามว่าย้อนวัยไปกี่ปี ก็ไม่กล้าพูด เราคุยกับแม่ทุกวันว่าแม่นี่มันดีแล้วใช่ไหม มันทำแล้วมันโอเคใช่ไหม คุณหมอบอกว่าให้รอ 3 เดือนถึง 6 เดือน แต่ตอนนี้มันแค่ 2 เดือนอยู่ เราเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่เช้าออกมาก็มืดเลยเหมือนกันนะ 5-6 ชั่วโมงเหมือนกัน”
นอยด์คนมองไม่เห็นเปลี่ยน
“ก็ยกช่วงข้างล่างเก็บคอนิดนึง แค่นี้ คือไม่ได้ทำเยอะทำผิว ถามว่าเจ็บมากไหม 3-4 วันแรกก็เอาเรื่องอยู่ กินข้าวไม่ได้พูดได้นิดหน่อย อย่างที่เราลงรีวิวไปคือมันเป็นอย่างนั้น หลังจาก 4 วันก็คือดีขึ้นเลย ทานได้เดินเล่นได้ปกติ
พอทำเสร็จก็นอยด์เหมือนกัน เหมือนทุกคนก็รอดูว่าจะเป็นยังไง ก็นอยด์คนบอกว่าไหนทำแล้วเหรอ หลายคนไม่ได้เจอเรานานไม่รู้ว่าเราแก่ไปเยอะแค่ไหน ก็จริงๆ อย่างที่บอกมันทำไม่ได้เยอะมาก เพราะว่าเราไม่ได้ทำจากตอนที่เราอายุ 60 เราอยากทำวันนี้เพราะเราอยากดูดีตอนนี้เลย ถ้าดูดีขึ้นนิดนึงก็ดีใจแล้ว คือตอนนี้เรารู้สึกว่าในวัยเราร้อยไหมอาจจะเอาไม่อยู่ คือเจ็บทีเดียวไปเลย อยู่อีกสัก 5 ปี 10 ปี ก็น่าจะแบบดี”
วอนรอให้เข้าที่อีกนิดก่อน
“เดี๋ยวรอให้มันเข้าที่สัก 3-6 เดือน อย่างที่คุณหมอบอกก่อน ตอนนี้ก็ยังยิ้มไม่สุดเลยค่ะ ยังรู้สึกว่ายิ้มไม่ค่อยสุด ถามว่าคุณหมอว่ายังไงบ้างหลัวทำเสร็จ เราก็มีคุยกับคุณหมอบ้าง ก็ส่งรูปอัปเดตให้ดู คุณหมอก็บอกว่ารอเลยเดี๋ยวดี ไม่ต้องระวังอะไรเลย ไม่ต้องกลับมากินยา ไม่ต้องกลับมาพันหน้า ไม่มีอะไรเลยคุณหมอแค่ให้รอเวลาอย่างเดียว”
เผยตัดสินใจทำศัลยกรรมเพราะอยากดูดีวันนี้
“อย่างที่เราบอกว่า เราอยากดูดีวันนี้เลย เราไม่อยากรอต้องเหี่ยวย้อยแล้วถึงไปทำ เรารู้สึกว่าเราอยากยืดเวลาของเราตอนนี้ จาก 45 ไปถึงสัก 55 เพราะเราไม่รู้ว่าอีก 10 ปี ร่างกายเรายังจะพร้อมจะทำไหมหรืออะไรจะเกิดขึ้นเราพร้อมวันนี้
อย่างที่ทุกคนบอกว่า ติดว่าเราหน้าเด็ก ทุกคนก็จะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเอารูป Before และ After มาเทียบกัน คือเราก็หย่อนตามวัยเหมือนคนอื่น จริงๆ เล่นละครก็เป็นแม่เป็นอะไรถูกไหม ฉะนั้นตอนนี้เราก็คืออยากเป็นแม่ที่สดชื่นขึ้น ไม่ได้บอกว่าอยากจะกลับไปเล่นบทเด็ก
ถามว่าเรารู้สึกแก่ตอนไหน เราก็รู้ตัวเองว่าตรงนี้มันเริ่มหย่อนแก้มก็เริ่มห้อย ทุกวันส่องกระจกใครไม่ทำบ้างแบบยกกระชับดึงหน้าขึ้น แล้วเราคิดว่ามันดีขึ้นหมอน่าจะช่วยได้”
อยากสต๊าฟหน้าเด็กไว้
“ในความเป็นจริงมันก็ทำไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนแปลงไปตามวัย แต่เราก็ยื้อที่สุดเท่าที่จะยื้อได้ (มีแพลนอยากทำอะไรอีก?) ไม่แล้วค่ะ พี่แหม่มให้เราค่อยๆ ด้วยซ้ำ ตอนแรกเราบอกแม่ทำตาเติมตรงนั้นดีไหม แล้วพี่แหม่มบอกหยุดพอ พี่แหม่มจะคอยปรามเพราะว่าเขาผ่านมาแล้ว เป็นการทำหน้าครั้งแรก ในชีวิตคนเราคงทำไม่ได้หลายครั้ง เดี๋ยวรอให้ถึงวันนั้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
