“ใบเตย อาร์สยาม” เริ่มต้นใหม่กับ “ดีเจแมน” ในฐานะสามีภรรยา แต่ไม่กลับไปจดทะเบียนใหม่อีกครั้ง ปล่อยผ่านดรามาสามีกับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ไม่เข้าใจทำไมต้องตีกัน แต่ปัญหาใครปัญหามันให้ไปเคลียร์เอาเอง เผยดร็อปเซ็กซี่เยอะแล้ว ต้องตามโลกให้ทัน “น้องเวทมนต์” เจนอัลฟ่า ล้ำและแซบกว่าตน เป็นเด็กเม็ดเยอะ สามีไม่โอเคลูกไปสายแซบ
หลังจากที่ “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน ได้ออกมายอมรับว่าได้หย่าขาดกับสามี “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน” ไปแล้วในทางกฎหมาย คงสถานะแค่พ่อแม่ของลูก แต่หลังจากดีเจแมนถูกปล่อยตัวจากเรือนจำ ทั้งคู่ก็กลับมาอยู่ด้วยกัน และใช้ชีวิตครอบครัวหวานชื่น จนหลายคนคาใจกับสถานะ
ล่าสุด ใบเตย อาร์สยาม ก็ออกมาชี้แจงถึงสถานะความสัมพันธ์กับดีเจแมน หลังมาร่วมงานเปิดตัวรายการ “The Celeb Wars สงครามเซเลบ” ทางช่องเวิร์คพอยท์ เผยว่ากลับมาอยู่เป็นครอบครัวเพื่อดูแลลูก บอก “น้องเวทมนต์” แฮปปี้มาก ส่วนข่าวที่บอกว่าได้กลับไปจดทะเบียน ยืนยันยังไม่ได้จริง
“ก็ต้องปรับความเป็นครอบครัวกันพอสมควร หลักๆ เราก็โฟกัสที่ลูกสาว น้องเวทมนต์ เหมือนเขาก็มีความสุขมาก ตั้งแต่วันที่พี่แมนกลับมา แต่เหมือนว่าเราก็ต้องปรับในการดูแลลูกเหมือนกันคนละไม้คนละมือช่วยกันบาลานซ์ความเป็นครอบครัวให้มันเหมือนเดิมมากๆ ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าที่ผ่านมาเราก็เจอปัญหาอะไรมาเยอะมาก พอวันนี้มันกลับมาเป็นเหมือนต้องนับหนึ่งใหม่มันก็ต้องมีการดูแลหลายๆ อย่าง
หลักๆ คือการแบ่งหน้าที่แล้วก็ดูลูกเป็นหลักว่าใครไปรับไปส่ง ใครดูแลใครตื่นเช้าไปส่งลูกรายละเอียดมันค่อนข้างที่จะต้องมีการพูดคุยทั้งกับใบเตยและพี่แมนด้วยต่างคนต่างทำงาน ถามว่าปรับตัวยากไหม เอาจริงๆ พี่แมนปรับตัวได้ไวมากๆ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องอะไรใดๆ เลย ความเข้มแข็งเขามีเยอะมากๆ ในความเป็นผู้ชาย”
ยืนยันยังไม่ได้กลับไปจดทะเบียนสมรส
“ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ ตอนนี้ไม่ได้มองในเรื่องของกระดาษหรือว่าในเรื่องของใบสำคัญของการหย่าหรืออะไร มันก็ในมุมเราพอกลับมาเราก็โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก ถ้าลูกมีความสุข ณ วันนี้เรายังบาลานซ์ของความเป็นครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ เราก็อยากให้ประคับประคองไปอย่างนี้อยู่เพื่อความสุขของลูก
ไม่ได้กลับไปจดทะเบียน ไม่ค่ะ (ตอนนี้ก็คือใช้คำว่าสามีภรรยาได้แต่แค่ไม่ได้จดทะเบียน?) ใช่ค่ะ ถามว่าปรึกษากับพี่แมนแล้วไหม เอาจริงๆ ไม่ได้มีการปรึกษาอะไรเลย เราทำทุกอย่างในแบบสิ่งที่ตามความรู้สึกและเป็นธรรมชาติในการกลับมาแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่”
บอกตอนนี้ขอโฟกัสลูกและงานเป็นหลัก
“ใช่ค่ะ โฟกัสที่น้อง โฟกัสที่งาน แล้วการเริ่มต้นกับชีวิตครอบครัวแบบใหม่ในการดูแลทุกๆ อย่างสำหรับคนในครอบครัวค่ะ หลักๆ ก็คือลูกที่ต้องแบ่งหน้าที่กันเยอะมาก ต้องวางแผนกันเยอะมาก”
รับเป็นคนกลางอึดอัดใจ ปัญหาระหว่าง “ดีเจแมน” กับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์”
“(หัวเราะ) ขอไม่ตอบในเรื่องนี้ เพราะเอาจริงๆ เราแทบไม่ได้ทราบเรื่องราวเบื้องลึก เรารู้สึกว่าสุดท้ายแล้ว ณ วันนี้ก็เป็นเรื่องราวของเขาทั้งสองคน แต่คิดว่าในอนาคตพอเวลาผ่านไปก็คงทำให้อะไรหลายๆ อย่างค่อนข้างคลี่คลายไปในทางที่ดีหรือเข้าใจกันมากขึ้น
จริงๆ ไม่ค่อยได้คุยดีเทลตรงนี้กับทั้งสองฝั่งเขารู้สึกว่ามันเลยจุดที่เราคอนโทรลอะไรหลายๆ อย่างได้แล้ว มันไม่ใช่เป็นเรื่องของเราโดยตรงแล้ว เพราะว่าในวันที่เป็นเรื่องเป็นราวกัน เราก็ไม่ทราบว่าการสื่อสารของเขาทั้งสองฝั่งในหลายๆ ปีที่ผ่านมาเป็นแบบไหนเป็นยังไงก็เพิ่งมารู้ ณ จุดๆนั้น ก็เลยรู้สึกโอเคก็ขอปล่อยผ่านเลยแล้วกัน เอาฉันออกไปจากตรงนี้
ถามว่าอึดอัดไหม เราเป็นคนกลางค่ะ คนนึงก็พี่ในวงการที่เจอกันมาตั้งแต่เด็ก อีกคนนึงก็แฟน เราก็เอ๊ะทำไมต้องมาตีกันไม่เข้าใจ ก็คิดว่าเดี๋ยวเวลาคงทำให้หลายๆ อย่างดีขึ้นแล้วกันค่ะ”
ยันความสัมพันธ์กับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังเป็นพี่ชายที่น่ารักเหมือนเดิม
“คือไม่เคยมีอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงเลยกับพี่ฟิล์มก็เหมือนรู้จักตามผ่านๆ มา 15 ปี ที่เคยรู้จักกันแบบไหน ณ วันนี้ก็ยังเป็นพี่ชายเหมือนเดิมที่น่ารักมากๆ คือเรื่องปัญหาต่างๆ เราก็รู้สึกว่า บางทีชีวิตความเป็นใบเตย ต้องแยกแยะอะไรเยอะมากเลย เพราะว่าบางทีมันก็ไม่เกี่ยวกับเราเลย ก็เลยรู้สึกว่าปัญหาใครปัญหามันเนอะ ก็คิดว่าปลายทางก็คงอยากให้เวลา ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”
เชื่อเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
“คือจะบอกว่าเอาจริงๆ เรื่องนี้แทบไม่ได้คุยดีเทลกันเลย เพราะตัวพี่แมนเองเขาค่อนข้างจะโพรเทคว่าเดี๋ยวตรงนี้เขาจัดการเองให้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาไป เขาก็คงเข้าใจด้วยแหละว่าเราเป็นคนกลางมากๆ ก็ไม่อยากให้เรามากระทบ เอาจริงๆ เรารู้สึกว่าเราก็เครียดเยอะมากๆ แล้วกับชีวิตที่ผ่านๆ มา
แสดงว่าถ้าจะให้เป็นกาวใจเราก็เต็มที่ ไม่รู้จะกาวใจยังไง เอาจริงๆ เป็นเรื่องที่งงในงงหลายๆ อย่างมาก ก็รู้สึกว่าโอเคความเป็นชีวิตใบเตยต้องปล่อยผ่านได้แล้ว ก็มาโฟกัสที่งานแล้วทำงานหาเงินตั้งใจเลี้ยงลูกให้ดี เรื่องของคนอื่นก็น่าจะเป็นเรื่องของคนอื่นไปให้เขาจัดการกันเอง
ใบเตยก็รู้สึกว่าอย่างที่บอกว่า ณ วันนี้ก็ยังงงกับหลายๆ อย่างแต่ในเมื่อมันมาถึงจุดนี้แล้ว เราก็รู้สึกว่าพอเขามีอะไรแบบนี้กันมาเวลาผ่านไปก็คงทำให้อะไรหลายๆ อย่างแบบไปคุยกันหลังบ้านหรือไกล่เกลี่ยกันอะไรยังไงเราก็คงแล้วแต่พวกเขาเลย”
ดร็อปเซ็กซี่ ต้องตามโลกให้ทัน มั่นใจ “น้องเวทมนต์” โตขึ้นแซบกว่าแม่แน่นอน
“เอาจริงๆ ก็ไม่หรอก ก็ความเป็นใบเตยแหละเนอะ ในการทำงานของเราทุกคนก็จะเห็นอยู่แล้วเวลาขึ้นเวทีก็เป็นตัวเราเองตลอดทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม ไปงานต่างๆ หลักๆ เอาจริงๆ ณ วันนี้ดีใจพอมีติ๊กต๊อกเราขึ้นร้องเพลงใส่ชุดทุกคนก็จะได้ฟังทั้งเสียงได้เห็นทุกอย่างก็จะเข้ามาคอมเมนต์ไปมาก็ดีใจมากๆ ก็อยากให้ดูผลงานกันต่อๆ ไป เดี๋ยวจะมีผลงานใหม่ๆ อีกหลายชิ้นมาให้ได้ชมค่ะ
หลายคนมองว่าเซ็กซี่ขึ้น ก็ไม่เลย ในส่วนตัวใบเตยรู้สึกว่าเราดร็อปลงเยอะมาก คือเอาจริงๆ นะวันนี้ต้องพยายามตามโลกให้ทันมากๆ แต่ด้วยความที่เป็น ใบเตย ตอนนั้นมัน 20 ปี ตอนนี้เราต้องมานับหนึ่งใหม่ต้องเป็นคอนเทนครีเอเตอร์ มาเป็นติ๊กต๊อกเกอร์ในวัยที่จะ 40 ปีแล้ว เราก็ไม่สามารถจะทำทุกอย่างได้เหมือนเดิมหรอกค่ะ แต่เรารู้สึกว่าถ้าเรายังมีใจรักในตรงไหนเราชัดเจนในเรื่องของความเป็นนักร้องในสไตล์การเต้นของเราก็คงพรีเซ็นต์ตรงนี้ได้ดีที่สุดอยู่แล้ว ในทางโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ทุกคนเห็นใบเตยก็ยังเป็นใบเตยที่ทุกคนเห็นค่ะ แต่คิดว่าลูกสาวไม่กี่ปีก็คงจะแซบกว่าแม่เยอะ”
เวทมนต์มาเพื่อฆ่าใบเตย
“เอาจริงๆ ตอนแรกเราก็รู้สึกว่าเอ๊ะเขาจะแบบยังไงนะ แต่วันนี้รู้สึกว่าเขาต้องยิ่งกว่าเราแน่ๆ เพราะว่า น้องเวทมนต์นะวันนี้เขาโตมากับครีเอเตอร์เขาค่อนข้างได้เห็นอะไรต่างๆ ไวมากๆ การเต้นถ้าทุกคนดูติ๊กต๊อกจะรู้เลยว่าเขาน่าจะยิ่งกว่า ใบเตย อาร์สยาม
แสดงว่าเกิดมาฆ่าใบเตย เอาจริงๆ ก็เอาตามที่เขาชอบ วันนี้แค่ได้เชยชมว่าเขาสวย คือเป็นคนรักสวยรักงามมาก น้องเวทมนต์ ตอนนี้แต่งหน้าทำผมทุกวัน ชอบเต้นมีแบบแลบลิ้นปลิ้นตาแบบดาวติ๊กต๊อกอะไรอย่างนี้ เป็นเด็กเจนอัลฟ่าแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าเขาน่าจะล้ำกว่าเราเยอะ”
รับคุณพ่อแมนหวงลูกสาว บอกไม่โอเคลูกไปสายเซ็กซี่
“คุณพ่อไม่ค่อยโอเค พี่แมนรู้สึกบ่นทุกครั้งที่ลูกมาเต้นแล้วทำท่าเซ็กซี่ พี่แมนหวงมาก พี่แมนเขารู้สึกอันตรายแล้ว ทำไมเราให้ลูกเล่นแบบนี้ คือพ่อพยายามคอนโทรล แต่สุดท้ายใบเตยว่าถ้าเขาเป็นตัวของเขาถ้าเขาชอบแบบนั้น เขาแค่ 4 ขวบ เขาเต้นตามร้องเพลงตามได้จำเนื้อเพลงได้ทุกอย่างก็อยู่ในสายเลือดแหละค่ะเอาจริงๆ แล้ว
แล้วเวลาพาเขาไปขึ้นเวทีตามงานต่างๆ เขาชอบมากขอขึ้น อย่างงานวันนี้อยากมามาก ชอบดูชอบเห็นคนทำคอนเทนต์ ชอบเห็นคนเต้น (รับงานคู่ไหมค่ะ?) ตอนนี้ยังค่ะ เราอยากให้เขาโฟกัสการเรียนเป็นหลัก ถ้าเห็นก็คงได้เห็นเขาใน ติ๊กต๊อกคอนเทนต์ต่างๆ ที่เราสามารถทำให้เด็กน้อยได้”
ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบและเอ็นดูลูกสาว
“จริงๆ ใบเตยก็ได้เห็นคอมเมนต์ติติงเราก็เอามาพิจารณา แต่เราก็รู้สึกว่าสุดท้ายส่วนใหญ่เวทมนต์วันนี้ค่อนข้างมีคนที่ชื่นชอบและเอ็นดูเขามากกว่าคุณแม่เองอีก วันนี้เราไปไหนมาไหนทุกคนเลยถามแต่ลูกสาวตลอด เรารู้สึกว่าการเป็นเขามันก็คงจะน่ารักแล้วแหละ อันไหนที่ปรับได้ที่มันรู้สึกว่ามันเกินงามไปหน่อยหรือว่ามันเป็นสาวไปหน่อย เราก็อยากบอกพี่เลี้ยงว่าให้คอนโทรลให้เขาเป็นธรรมชาติในอายุแบบเขาอย่าให้มันเกินไปกว่านี้ก็บอกตลอด
อย่างชุดเขาเลือกเองหมด เดี๋ยวนี้ตื่นมาคุณแม่จะใส่ชุดนี้ คุณแม่หนูจะใส่ชุดนั้น คือเม็ดเยอะมาก เป็นเด็กเม็ดเยอะมาก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างพอเขาเห็นเราแต่งแบบไหน อย่างวันนี้ตื่นมาบอกคุณแม่สวยจังเลยอยากใส่ พอเขาเห็นเราแล้วเขาได้เห็นได้ซึมซับก็คงจะชอบเห็นคุณแม่ทุกวันแต่งหน้าทำอยู่กับช่างแต่งหน้าทำผมที่เป็น LGBT ทุกวัน เขาอยู่กับสิ่งนี้เขาก็จะซึมซับ เอาจริงๆ แล้วรู้สึกว่าให้เขาได้เห็นแม่มีชีวิตการทำงานแบบไหนบ้าง ใบเตยว่าโตขึ้นเขาน่าจะไปปรับใช้กับตัวเองได้แล้วมองรู้ว่าอันไหนดีอันไหนไม่ดี คุณแม่ทำแบบไหนแล้วดี คุณแม่แต่งแบบไหนแล้วสวย เราว่ามันเป็นอะไรที่ฝึกการพัฒนาเขาในระดับนึง
ถามว่าอยากได้ลูกสาวเรียบร้อยหรือว่าเปรี้ยว เราปล่อยเขาตามธรรมชาติเลย ให้เป็นแบบไหนก็ได้ สุดท้ายแล้วก็อยากให้เขาเป็นคนที่เอาตัวรอดด้วยตัวเองได้ แล้วก็มีไหวพริบปฏิภาณที่ดี แล้วก็เป็นเด็กพูดจาเพราะแค่นี้เราก็ดีใจแล้ว”
