xs
xsm
sm
md
lg

Nonnas จากเรื่องจริงฟูใจ สู่หนังที่เติมพลังบวกให้ชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา



เป็นเวลานานกว่า 15 ปี ที่ร้านเอโนเทกา มาเรีย (Enoteca Maria) เปิดให้บริการที่เกาะสแตเทน นิวยอร์ก โดยเอกลักษณ์ที่เป็นดั่งเครื่องหมายการค้าของร้านอาหารแห่งนี้ก็คือ “เชฟ” ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในวัยคุณย่าคุณยายด้วยกันทั้งนั้น

Nonnas หนังออริจินัลเน็ตฟลิกซ์ หยิบเอาเรื่องราวการเกิดขึ้นของร้านแห่งนี้มาทำเป็นหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจ และมันก็ทำออกมาได้งดงามน่าประทับใจ โดยมีนักแสดงชื่อดังอย่าง “วินซ์ วอน” รับบทนำในฐานะ “โจ สการาเวลลา” หรือ “โจอี้” หนุ่มเชื้อสายอิตาลีผู้ก่อตั้งร้าน รวมทั้งมีดาราหญิงรุ่นใหญ่อย่าง “ซูซาน ซารานดอน” ที่คว้าออสการ์นำหญิงยอดเยี่ยมมาแล้ว ร่วมแสดงด้วย และนักแสดงฝีมือดีระดับคุณย่าคุณยายอีกหลายคน

คำว่า “Nonna” หรือ “นอนน่า” ที่งานชิ้นนี้เอามาตั้งเป็นชื่อเรื่อง แปลว่า คุณย่าคุณยายในภาษาอิตาลี หนังได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของโจอี้ในการก่อตั้งร้านนี้ขึ้นมา เนื่องจากเขาสูญเสียแม่และยายไปแล้ว แต่ยังคงคิดถึง “รสมือ” ในการทำอาหารของพวกท่านเสมอ เขาตัดสินใจตั้งร้าน “เอโนเทกา มาเรีย” (ซึ่งเป็นชื่อแม่ของของเขา) ขึ้นมา ด้วยความระลึกถึงพวกท่าน เพราะเขาเชื่อว่า “อาหารคือความรัก ถ้าฉันยังทำอาหาร พวกเขา(นอนน่ากับแม่)ก็ยังอยู่กับฉัน”


ความรู้สึกของโจอี้คือ เขาอยากให้ร้านแห่งนี้เป็นเหมือนครอบครัว หลายคนอาจสูญเสียบุพการีที่รักไปแล้ว แต่ก็ยังคงคิดถึงบรรยากาศแบบครอบครัวที่มีคุณแม่และคุณย่าคุณยายทำให้อาหารอร่อย ๆ ให้กิน และร้านนี้ก็ “เสิร์ฟ” สิ่งนั้นให้กับลูกค้า ซึ่งก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่แค่เอามาเพียง “บรรยากาศความเป็นครอบครัว” แต่เมนูที่คัดสรรมาเสิร์ฟจากฝีมือการทำของ “เชฟนอนน่า” แต่ละคน ก็อร่อยเหาะ มัดใจลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม

ภายใต้รูปลักษณ์ของหนังที่เกี่ยวข้องกับอาหาร สิ่งที่ Nonnas หยิบยื่นให้กับคนดู คือความรู้สึกดี อบอุ่นหัวใจ มีความหวัง และเติมพลังให้กับชีวิต

หนังเล่าเรื่องแบบเรียบง่าย มีต้น มีกลาง และมีตอนจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ดูแล้วสบายใจ ในระหว่างทางอาจมีเรื่องราวความขัดแย้งระหองระแหงกันบ้าง มีอุปสรรคบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา และหนังก็เล่าแบบเป็นธรรมชาติ ไม่บิลด์หรือเค้นจนเกินเหตุ ซึ่งหนังหลายเรื่องที่สร้างมาจากชีวิตจริง ก็พยายามทำให้ “โอเวอร์” เกินจริง ด้วยมุ่งหมายจะสร้างความประทับใจและสะท้อนความยิ่งใหญ่ของเรื่องราวหรือบุคคลนั้น ๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับ Nonnas ที่แม้จะดูเรียบง่ายธรรมดา แต่ก็งดงามในความรู้สึก


เสน่ห์อีกอย่างที่หนังถ่ายทอดออกมาได้ดี คือในช่วงระหว่างรวมพลคุณย่าคุณยายที่จะเข้ามาเป็นเชฟให้กับร้านของโจอี้ แต่ละนางล้วนมีคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่น และอย่างน้อย คนสองคนก็เป็นเหมือนลิ้นกับฟัน กัดแซะกันตลอด แต่ก็แบบคนแก่ที่ไร้พิษภัย และสร้างสีสันอารมณ์ขันให้เกิดขึ้นได้อย่างดี แถมมีฉากที่แม่ครัววัยเก๋าทั้งสี่เปิดใจเล่าถึงชีวิตของตัวเองให้กันฟัง เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่ทั้งงดงามและดูเหงา ๆ อยู่ในที ตามประสาคนเฒ่าคนแก่ที่ผ่านโลกผ่านชีวิตมามากแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นหนังที่ดูง่าย เน้นความงดงามประทับใจ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งหนึ่งซึ่งหนังเรื่องนี้แฝงไว้อย่างแนบเนียน คือเรื่องของวัฒนธรรมอาหารอิตาลี ที่จะว่าไป เป็นการนำเสนอซอฟต์เพาเวอร์แบบไม่ยัดเยียด และมีคนไปรีวิวอยู่เรื่อย ๆ ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา

เชื่อแน่ว่า หลายคนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ย่อมต้องเกิดความอยากที่จะชิมอาหารอิตาเลียนขึ้นมาบ้างอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่อยากจะมีโอกาสสักครั้งในชีวิตไปลิ้มลองเมนูที่ร้านเอโนเทกา มาเรีย โดยเฉพาะเมนูเด็ดอย่าง “คาปูเซลเล” (Capuzzelle) หรือ “อบหัวลูกแกะ” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดของร้านนี้

ปัจจุบัน ร้านเอโนเทกา มาเรีย ยังคงคอนเซปต์เดิมคืออิ่มท้องและอิ่มใจ ท่ามกลางบรรยากาศที่เหมือนมีคนที่เรารักซึ่งจากไปมาทำอาหารให้กินอีกครั้ง แต่ยังขยับขยายด้วยการจ้าง “นอนน่า” หรือคุณย่าคุณยายจากหลายประเทศทั่วโลกให้มาเป็นเชฟสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เพื่อให้คนหลากหลายเชื้อชาติได้สัมผัสถึงความรู้สึกของ “รสมือ” ของนอนน่าของตนเอง















กำลังโหลดความคิดเห็น