“คารีสา” อัดคลิปขอโทษพนักงานร้านอาหาร มาขอถ่ายคลิปตอนกำลังทานข้าว แฟนหนุ่มไม่อนุญาตให้ถ่ายด้วย รับไม่สบายใจ กลัวทำให้พนักงานรู้สึกไม่ดี ไม่อยากให้เรื่องเล็กๆ สะเทือนใจใคร เชื่อแฟนหนุ่มห่วงกลับภาพตนออกมาไม่ดี เผยแฟนไม่ชิน เพราะไม่ได้ถูกเทรนด์ให้เป็นดารา
ทำเอาหลายคนงงว่าทำไมนักแสดงสาว “คารีสา สปริงเก็ตต์” ถึงต้องออกมาอัดคลิปขอโทษพนักงานร้านอาหารด้วย ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดเผยแล้วว่าตนรู้สึกไม่สบายใจ ไม่อยากให้พนักงานคนนั้นคิดมาก และแฟนตนคงไม่ได้มีเจตนาจะไม่ให้ถ่าย แค่กลัวการถ่ายวิดีโอขณะกิน จะทำให้ภาพของตนออกมาไม่ดีเท่านั้นเอง
“หนูไปทานส้มตำ คือวันนั้นเป็นวันที่หนูวิ่งประมาณ 7 ที่ ไปช่วยเพื่อนหลายงาน ตอนเย็นก็ตั้งใจอยากจะกินส้มตำมาก และเราก็แต่งหน้าเต็ม พี่เขาก็เลยขอเข้ามาถ่ายวิดีโอตอนทานได้ไหมคะ แฟนเราก็บอกว่าไม่ได้ครับ เขาก็คงไม่ได้คาดหวังการถูกปฏิเสธ หน้าเขาเหมือนเสียใจ เราก็เลยสงสารเขา ก็เลยบอกเขาว่าถ้าเรากินเสร็จจะมาถ่ายกี่คนก็ได้ เดี๋ยวจะยืนให้ถ่าย แต่ที่แฟนตอบไปเขาคงเห็นว่าตอนนั้นเราอยู่กันสองคน ไม่มีผู้จัดการ ไม่มีผู้ช่วย เขาอาจจะรู้สึกว่าการถ่ายวิดีโอตอนกินข้าวเราอาจจะไม่สวย เดี๋ยวจะมีอะไรติดฟันอะไรแบบนั้น เขาก็เลยบอกว่าอย่าถ่ายวิดีโอเลย คือถ้ามีใครเข้ามาแล้วขอถ่ายรูปคู่ หนูก็ไม่เคยปฏิเสธนะ
แฟนหนูเขาไม่ชินมากกว่า เขาไม่ได้ถูกเทรนด์ว่าชีวิตส่วนตัวต้องเป็นชีวิตของคนอื่น เขาไม่ได้ถูกเทรนด์แบบเรามา เขาอาจจะรู้สึกว่าถ่ายวิดีโอมันก็ติดเขาด้วยนะ จะต้องยังไง เพราะเราแค่กินอาหาร หนูว่าตอนนั้นเขาก็คงไม่ได้ห่วงตัวเอง เขาเป็นห่วงเรา เขาพูดแทนเราว่าถ่ายวิดีโอน่าจะเป็นภาพที่ไม่สวยนะและเราเหนื่อยมาก อยากให้เรากินให้อิ่มก่อน และเขาก็ทราบดีว่าถ้าเราไม่อิ่ม เราไม่เคยจะน่ารักเลย (หัวเราะ) แต่เราเองนี่แหละที่ไปเห็นหน้าพนักงานที่เหวอนิดนึง จังหวะแหละ ปกติมีคนมาขอถ่ายรูปอยู่แล้ว แต่จังหวะนั้นคำขอร้องมันคือวิดีโอมากกว่า”
ห่วงความรู้สึกพนักงาน ยินดีขอโทษถ้าจะทำให้รู้สึกดีขึ้น
“ไม่รู้สิ ตอนนี้คนเศร้าง่าย ไม่อยากให้เรื่องเล็กๆ ไปสะเทือนใจใคร เดี๋ยวเขาจะจำนานเกิน เราก็เป็นห่วงความรู้สึกเขา เพราะเขาอาจจะไม่ได้จะมาถ่ายเราหรอก เขาน่าจะโดนสั่งมาอีกทีนึง คือหนูอยู่มานานจนหนูไม่ได้คิดเรื่องนี้ไปแล้ว หนูมาตั้งแต่ 14 อะไรที่อะลุ่มอล่วยได้ก็ทำให้คนที่เขามาหาเรา มาเจอเรามีความสุขที่สุด หนูคิดว่าสมัยนี้เราเจอนักแสดง ดารา อินฟลูเอนเซอร์ได้ง่ายมากขึ้น เพราะฉะนั้นจังหวะก็อาจจะนิดนึง แต่ก่อนอีเวนต์จะตื่นเต้นมาก แต่เดี๋ยวนี้มันเจอง่ายขึ้น อาจจะไม่ต้องไปรอกันตอนกินข้าวหรือหน้าห้องน้ำแล้ว หนูเคยเจอนะ หนูก็บอกว่าหนูอาจจะฉี่กระปริบได้ คุณพี่รอก่อน หนูเจอบ่อยมากหน้าห้องน้ำ
หนูพูดขอโทษตลอดนะ พูดขอบคุณมาตั้งแต่ 14 คนจะตกใจอะไรกัน ไม่มีอะไรจะบอกคนที่ไม่เข้าใจเรา ไม่มีใครเข้าใจเราในทุกมิติหรอก แต่เราก็ใช้ชีวิตแก้ไขไปในทุกวัน ไม่ว่าเขาจะมีความสุขหรือไม่มีความสุข ก็ค่อยๆ ทำไป หนูไม่ได้ถูกหรือน่ารักตลอด ก็มนุษย์แหละ ไม่ว่าจะเป็นดารา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ก็เป็นคนธรรมดา ไม่ได้ดีทุกวัน ไม่ได้น่ารักทุกวัน แต่มันไม่ได้เป็นสิ่งแปลก มันเป็นเรื่องปกติ อย่าไปคาดหวังอะไรมากมาย”
