แม้คนไทยจำนวนไม่น้อยจะเตรียมใจเอาไว้แล้วบ้าง สำหรับบทสรุปคดี “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” กับการตกเรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต ซึ่งใช้เวลาถึง 3 ปี วันนี้ (23 พ.ค.) ศาลนนทบุรีนัดฟังคำพิพากษา จำเลยทั้ง 4 คน ได้แก่ กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์, แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์, จ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร และ ภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษาอย่างละเอียด 2 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งศาลได้ยกฟ้องกระติก-แซน-เอ็ม ส่วน จ๊อบ ข้อหาแจ้งความเท็จ ปรับ 16,000 จำคุก 4 เดือน และข้อหาทิ้งปฏิกูลลงในแม่น้ำ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท โทษทั้งหมดให้รอลงอาญา 1 ปี
ขณะที่ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณียกฟ้องดังกล่าว เผยศาลอ่านคำพิพากษานานกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการอ่านที่ละเอียด สามารถตอบคำถาม และข้อสงสัยของฝ่ายโจทก์ได้ทุกประเด็น เป็นเหตุทำให้ยกฟ้องจำเลย
โดยหลังจากอ่านคำพิพากษาแล้ว ก็มีโอกาสได้คุยกับแม่ของแตงโม (ภนิดา ศิระยุทธโยธิน) ซึ่งทางทนายได้เตรียมใจมาแล้ว เนื่องจากปอ ตุนภัทร เลิศทวีวิทย์ และโรเบิร์ต ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ได้รับสารภาพ เพราะเป็นคนขับเรือ ซึ่งแนวทางของคดี ก็อาจจะส่งผลให้จำเลยทั้งหมดที่เป็นผู้โดยสาร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประมาท ไม่มีประจักษ์พยาน และแตงโมไปเสี่ยงภัยด้วยตัวเอง เดินไปตกเอง โดยแซนพยายามจะช่วยแล้ว แต่ช่วยไม่ได้ ซึ่งการสอบปากคำต้องอาศัยการสอบปากคำจากคนนอก ไม่เกี่ยวกับคนในเหตุการณ์ จึงเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง
ทั้งนี้ 3 คนที่อยู่บนเรือ ก็ได้ต่อสู้คดีว่าไม่ได้ประมาท เพราะเป็นผู้โดยสาร ซึ่งตามหลักกฎหมาย ไม่มีกฎหมายที่จะบอกให้ผู้โดยสารต้องมาดูแลกันเองขณะที่เมา แต่กฎหมายบอกเรื่องเมากับคนขับรถและเรือ ดังนั้นการเดินไปท้ายเรือแล้วเมา จึงเป็นการยอมเสี่ยงภัยด้วยตัวเอง
ส่วนกรณีหากยื่นอุทธรณ์ จะมีหลักฐานใหม่หรือไม่ ทนายเดชา ระบุว่า “ขนาดคดีประมาท ยังเป็นไปไม่ได้เลย ยังเอาผิดไม่ได้ อย่าไปพูดถึงเรื่องฆาตกรรม ดังนั้นคงต้องอุทธรณ์ในเรื่องของการประมาท”
