คุณไม่แคร์ ฉันก็ไม่แคร์! “ลูกเกด” ปัดซดเกาเหลา “เต้ กันตนา” แค่ไม่ได้คุยกัน ทักทายตามมารยาท

“ลูกเกด เมทินี” โต้จัดประกวดหาโมเดลก็อปปี้รายการ The Face Thailand บอกไม่ใช่เจ้าของรายการ ยืนยันไม่ได้มีปัญหา “เต้ กันตนา” บอกคุณไม่แคร์ ฉันก็ไม่แคร์ ที่ผ่านมาแทบไม่ได้คุยกัน ทักทายกันตามมารยาท วางดรามาหันมาตั้งใจทำงานดีกว่า

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม” ออกมาประกาศชัดเจนว่าไม่คัมแบ็กตำแหน่งเมนเทอร์ The Face Thailand ซีซั่น 6 ขณะที่ “เต้ กันตนา” ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก ก็ออกมาอัดคลิปบอก “I don’t care” งานนี้ทำเอาหลายคนสงสัยถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่ามีปัญหากันหรือเปล่า

ล่าสุด ลูกเกด เมทินี ก็ออกมาชี้แจงประเด็นดรามา หลังมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว “Thai Face Top Model” เฟ้นหาสุดยอดโมเดลไทยแท้ ตัวจริงหน้าจริง ณ ห้องวิมานจูเนียร์ บอลรูมโรงแรมดุสิตธานี เผยเจอหน้าทักทายได้ปกติ

“อยากให้โอกาสคนที่ด้อยโอกาสมากๆ โครงการนี้อยากจะให้โอกาสคนที่ไม่มีโอกาสเลย อาจจะเป็นคนที่อยู่ต่างจังหวัด เราจึงอยากเจอยิ่งกว่าเพชร เรารู้สึกว่ามันต้องมีกฎเกณฑ์ว่า 1 ขออนุญาตเป็นคนไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับวงการนี้ลูกครึ่งก็อาจจะหมดสิทธิ์ แล้วก็ไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อน เราอยากให้โอกาสคนที่ด้อยโอกาสจริงๆ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องมีกฎนี้ เรื่องภาษาเราไม่ได้ไปโฟกัสว่าจะพูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่ได้ เดี๋ยวเราเทรนให้เรามีครูมาสอนอยู่แล้ว

คนที่ไม่มีประสบการณ์เลยยิ่งดี จริงๆ แล้วเราเปิดโอกาสให้กับทุกคน แต่ตอนนี้แน่นอนมันเป็นเรื่องของการแข่งขัน เพราะฉะนั้นการที่เขามาตรงนี้เขามีประสบการณ์มันก็ช่วยเขาอยู่แล้วแหละ มันก็ไม่ได้ปิดถึงแม้ว่าเราอาจจะเป็นไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่เคยศัลยกรรมมาก่อน แต่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงหรือแฟชั่นแล้ว ซึ่งเขาก็มาได้เราก็ไม่ปิด เราก็อยากจะให้โอกาสคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรเลย

ง่ายๆ โบท็อกซ์ได้ ฉีดฟิลเลอร์ได้ จมูกทำมาแล้วคางทำมาแล้วอันนี้ไม่ได้ คือห้ามมีดถลกหนัง เสริมหน้าอกได้ไหมก็ได้ สมมติว่าถ้าเป็นแบบ LGBTQ หรือ Transgender ยังไงก็ต้องมีการผ่าแล้ว อันนี้มันก็เป็นเรื่องของสรีระ แต่เรื่องของใบหน้าเราอยากจะให้ออริจินัล แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชายไปทุบไปผ่าอะไรมาแล้วนี่ห้าม”

โต้ก็อปปี้รายการ The Face Thailand บอกไม่ใช่เจ้าของรายการ
“แน่นอนว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับรายการ The Face Thailand จริงๆ แล้วมันจะชื่ออะไรได้บ้าง เพราะว่าเราหาคนไทย เราต้องการที่จะส่งคนไทยสู่ตลาดนอก แล้วแน่นอนการที่จะเป็นโมเดลมันก็ต้องมีใบหน้านะคะ แน่นอนเราสู่เข้าวงการแฟชั่นเพราะฉะนั้นต้องเป็นเรื่องของหน้า บอกได้เลยว่ารายการของเรารายการนี้การแข่งขันนี้ถึงแม้ว่าจะคล้ายกันแต่จุดประสงค์มันต่างกัน โครงการนี้ไม่ได้เน้นที่เมนเทอร์ไม่ได้เน้นที่ครู แต่เราสอนเน้นที่ตัวเด็กที่เข้าโครงการนี้เพราะว่าโครงการนี้เราต้องการที่จะพัฒนาคนที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดนอก

เพราะฉะนั้นวงการแฟชั่นแน่นอนคือทั้งสองรายการก็คือ The Best ของวงการแฟชั่นหรือว่าบันเทิงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็จะเห็นหน้าเดิมๆ ถ้าคิดถึงแฟชั่นคิดถึงแคตวอล์กคนก็จะต้อง เมทินี กิ่งโพยม ถ้านึกถึงแฟชั่นในเรื่องของสไตลิสต์ก็ต้องเป็น อาร์ต อารยา อินทรา ถ้าในเรื่องของการถ่ายแบบก็ต้องเป็น ใหญ่ อมาตย์ นิมิตภาคย์ เพราะฉะนั้นหนีไม่พ้น”

เผยช่วงนี้เป็นช่วงของการประกวดหลายเวที ลั่นไม่คิดอยากประชัน-ตีกัน
“เวทีนี้ไม่ใช่เวทีของเรา รายการ The Face Thailand ก็ไม่ใช่ของเรา เราคือเป็นครูแล้วก็พร้อมที่จะสอนพร้อมที่จะถ่ายทอดวิชาที่เราเก็บเกี่ยวกันมา ถ้าถามว่า Thai Face Top Model ทำไมถึงต้องเป็นช่วงนี้ เพราะว่าผู้ที่ได้เป็นตัวแทนแล้วก็ได้ไปเมืองนอกเพื่อจะได้ทันแฟชั่นวีกในช่วงของ for กับ winter เพราะฉะนั้นเรารอไม่ได้จะมาจัดในท้ายปีไม่ได้นะคะ เพราะว่าเราจะต้องพร้อมที่จะส่งน้องไปแคสติ้ง

สำหรับรันเวย์ของ For winter เราไม่ได้คิดที่จะออกมาเพื่อจะมาประชันรายการ มาตีกัน แต่ในช่วงนี้มันจะมีอีกหลายเวทีโครงการที่จัดการประกวดพร้อมกัน ฉะนั้นน้องๆ ที่ใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนางแบบหรืออยากจะเข้าก้าวสู่วงการ คุณก็จะมีหลายเวทีมีหลายช่องอยู่ก็เลือกดีๆ แล้วกันนะคะ ลองเลือกดูว่าแนวไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด

แสดงว่าผู้เข้าประกวดก็คือคนละทางกันเลย แน่นอนอยู่แล้ว คือไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันเวทีไหนก็ตาม เราเชื่อว่าแกนของแต่ละเวทีแตกต่างกันอยู่แล้ว มันอยู่ที่ผู้บริโภคหรือน้องๆ ที่จะมาประกวดคือเขาอยากจะไปเส้นทางไหน”

คุณไม่แคร์ ฉันก็ไม่แคร์ ปัดมีปัญหา เจอกันก็ทักทายตามมารยาท
“ฉันก็ไม่แคร์เหมือนกัน ก็เพิ่งเห็นคลิปเมื่อเช้า เพราะมีคนส่งมาให้ดู ความสัมพันธ์เอาเป็นว่าต่างคนต่างตั้งใจทำงานที่ตัวเองรัก ไม่ได้มีความรู้สึกไม่ดี เราไม่ได้รู้สึกโกรธหรือไม่ชอบหรืออะไรน้องเต้ แต่แค่ว่าในเรื่องของธุรกิจหรืองานแค่นั้นเอง แต่เวลาเจอทักทายกันคุยกันไหม เราคุยเราไม่ได้โกรธกัน เราไม่ได้อะไรกันแค่นั้นเอง (แสดงว่าข้างหลังก็จอยๆ กัน?) เราก็คงไม่ได้จอยกัน เราก็คงไม่ได้โทร.กัน ก็คือเจอกันทักทายกันตามมารยาท”

เผยอนาคตอาจจะมีโอกาสกลับมาร่วมงานกันได้
“ที่ไม่ได้เดินพรมแดงด้วยกันก็เพราะเราก็ต้องเดินกับทีมของทิชาอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ได้เจอกันแบบจะจะ เราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องเต้ได้ไป จนมาเห็นข้างในฮอลล์เพราะว่าโต๊ะก็อยู่ไม่ได้ไกลกัน ก็ทักทาย ก็คุยกัน ก็เซย์ฮัลโหลกันก็แค่นั้น

หลายคนคิดว่าเกาเหลากันเพราะว่าไม่พูดกัน ก็ไม่ได้พูดกัน ไม่ได้คุยกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว จริงๆ มันไม่ได้มีดรามาอะไรหรอก มันไม่ได้มีอะไรเลย เอาเป็นว่าอย่างที่เราบอก ทั้งคู่ตั้งใจทำงานแล้วก็ต้องการ The Best ของรายการให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้นวันหนึ่งมีโอกาสได้ร่วมงานกันไหมก็อาจจะมี ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้มีดรามาอะไรหรอก ก็ขอให้โชคดี”

รอติดตามชม The Face แน่นอน
“คิดว่าแฟนๆ ของ The Face ก็มีความคาดหวังสูงมาก เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่าทางรายการ The Face Thailand ไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ จะมีคนที่พอใจกับไม่พอใจ คือตอนนี้ทุกคนหายใจเข้า The Face หายใจออก The Face เพราะฉะนั้นก็รอดูว่าเขาจะนำเสนออะไรมา เราก็ไม่รู้เราก็ไม่ได้อยู่ในโปรเจกต์นี้ ก็มีติดตามอยู่แล้ว ก็เป็นกำลังใจให้กับทั้งเต้แล้วกันตนาด้วย แล้วก็เมนเทอร์ใหม่ซึ่งเราเองก็ไม่รู้เป็นใคร ต้องรอดูรอเชียร์”

บอกอยากให้เด็กที่มีความใฝ่ฝันเข้ามาลองประกวด
“สำหรับบุคคลที่ใฝ่ฝันว่า อยากจะเป็นโมเดลผู้หญิง ผู้ชาย LGBTQ หรือ Transgender ไม่จำกัดเพศอายุ 18 ถึง 30 เคยฝันว่าอยากจะเป็นนางแบบ อยากจะเป็นนายแบบ อยากจะอยู่ในวงการแฟชั่นมาสมัครค่ะ เพราะว่างานนี้ได้แต่ความรู้ล้วนๆ เลย มาสมัครกันเยอะๆ เราจะไปทุกภาค อีสาน เหนือ กลาง ใต้ เราจะเฟ้นหาไปเองทุกภาคด้วย เพราะฉะนั้นเจอกันนะคะอันนี้คือหาของจริงที่จะไปสู่ตลาดนอก”