“ดีเจมะตูม เตชินท์” แฮปปี้รัก 4 ปี บอกอายุห่าง 10 ปีไม่ใช่ปัญหา ไม่ซีเรียสเรื่องแต่ง ให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า ดีใจอีกฝ่ายพาไปเปิดตัวกับครอบครัว เผยสภาพจิตใจ “ดิว อริสรา” ดีขึ้นตามลำดับ ปัดไม่ทราบสาเหตุที่ยังไม่กลับไทย แต่ยังไงก็ต้องกลับมาแน่เพราะบ้านอยู่ที่นี่
หลังจากที่ “ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร” ออกมาโพสต์ภาพเปิดตัวแฟนหนุ่มหวานฉ่ำรับวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา จนสร้างความฮือฮาให้เพื่อนๆ และแฟนๆ อยู่ไม่น้อย
ล่าสุด มะตูม เตชินท์ ก็ออกมาเปิดใจถึงความรักครั้งใหม่ โดยเผยว่า คบหากันมากว่า 4 ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงโควิด ยันไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่ได้เปิด แฮปปี้ดีมากๆ ดีใจอีกฝ่ายพาเจอครอบครัว
“เราไม่เคยปิดนะครับ คนนี้เป็นยังไง ก็เรียกว่าเป็นจิ๊กซอว์ที่เพอร์เฟกต์ เราผ่านชีวิตความรักที่มันโลดโผนมาเยอะ วิ่งตามก็มี โดนตามก็มี แต่อันนี้มันเหมือนมีพื้นที่ให้มันพอดีมากกว่าเป็นผู้ใหญ่ด้วย
เ ต้องเรียกว่ามรสุมโควิดดีกว่าส่งเขามา มันต้องมีบ้างแหละหลังมรสุมมันจะมีสายรุ้งสวยงามรออยู่ เขาเป็นสายรุ้งเส้นนั้น คุยกันน่าจะเข้า 4 ปี ถามว่าทำไมคนถึงเพิ่งรู้ เอาจริงๆ เราไม่ได้ปิด แต่เราไม่ได้เปิด เพราะว่าตัวของทางพี่เขาไม่ได้อยากเปิด จริงๆ ที่ลงรูปก็เป็นเฉพาะโอกาสสำคัญดีกว่า เพราะเรารู้สึกอย่างวาเลนไทน์แบบนี้มันก็ควรให้เกียรติเขาเฉยๆ
จริงๆ เราจะมีพื้นที่ให้กันในเรื่องของเนื้องานเพราะว่าในวงการเราก็ยังเล่นกับผู้ชายปกติอะไรอย่างนี้ได้ เราเล่นกับคนได้แต่สุดท้ายแล้วเราก็รู้ว่าเราต้องกลับไปนอนที่ไหน นอนบ้านสิครับเราซื้อบ้านเราต้องนอนบ้าน”
เผยเวลาลงรูปคู่ต้องขออนุญาตอีกฝ่ายก่อนเสมอ
“จริงๆ พี่เขาก็มีเกร็งๆ แต่เราก็ขออนุญาตทุกครั้งนะครับ ขอลงได้ไหมสำหรับวันพิเศษ เราไม่ได้ลงเพื่ออยากให้ใครรู้ว่าเรามีสถานะอะไร แต่เราลงเพื่อให้รู้ว่าเขามีตัวตน
ถ้าถามว่าเขาโอเคใช่ไหมกับการเป็นที่รู้จักอยู่ในสื่อคนจับตามอง คนนี้ไม่เท่าไหร่ครับ เราว่ามันเป็นข้อดีด้วยนะครับการที่เขาไม่ได้ชอบ เพราะว่าอย่างที่เราคบกับใครมา เราจะรู้เลยว่าคนนี้อยากจะอยู่ในโพสิชั่นไหนในสื่อเราจะรู้ลำดับ แต่คนนี้จะเป็นคนที่ข้างหลังเลย เป็นคนถือกล้องเลยขออยู่หลังกล้องไม่อยู่หน้ากล้อง เขาขอไม่เห็นหน้า พี่เขาอายุเยอะแล้วด้วยเขาก็เลยแบบไม่กล้า อายุห่างก็เกือบ 10 ปีครับ”
บอกชอบแฟนที่อายุมากเพราะรู้สึกอบอุ่น
“เราไม่เคยคบเด็ก เรามีแฟนแต่ละคนคืออายุเยอะกว่าเรา 5 ปี อัปหมดเลยไม่เคยต่ำกว่านั้นเพราะชอบ คือชอบเด็กแต่หมายถึงชอบด้วยกายหยาบทุกคนเป็น แต่เรื่องของการวางอนาคตมีชีวิตด้วยกัน ผู้ใหญ่เขาจะมีมายด์เซ็ตบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากพัฒนาตัวเองและเติบโตไปในทุกวันกับเขา
มีแฟนรุ่นใหญ่ ก็ดีครับ ประสบการณ์เยอะดี อบอุ่นมากดีเหมือนได้นอนตื่นมาอยู่ในตู้เซาหน้าทุกคนมันอบอุ่น การที่มีคนไม่ได้เป็นแค่แฟนแต่เป็นทุกอย่างให้เราเป็นแบบเพื่อนก็ได้ เป็นพี่ เป็นที่ปรึกษา เป็นทุกอย่างมันดีนะครับ เราใช้คำว่าเหมือนเป็นคู่ชีวิตดีกว่ามันเลยแฟนไปแล้วด้วยซ้ำ”
ส่วนเรื่องข่าวดีแค่มองๆ ไว้แต่ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น
“ใช่ครับ แต่เราใช้ชีวิตแบบมีสตินะ มันไม่ได้หมายความว่าปีนี้เรามีความสุขแล้วปีหน้ามันจะมีเราต้องตั้งรับกับเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นด้วย ในอนาคตมันอาจจะไปไม่ถึงสุดทางก็ได้ แต่ ณ วันนี้ถือว่าเป็นชีวิตที่ลงตัว
จะแต่งงานไหม ตั้งแต่เขามี พรบ.สมรสเท่าเทียมใช่ไหม ก็แอบมีการแชร์ลิ้งก์ไปให้ดูบ้าง แต่เขาก็ส่งรูปหมากลับมา จริงๆ เรามองว่าการสมรสเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ ต่อให้ประเทศเรามันมีกฎหมายรองรับก็จริง แต่ว่าสุดท้ายแล้วถ้าเกิดตัวเขาไม่เราก็จะไม่ไปบังคับอยู่แล้ว เพราะว่ามันก็เปลืองเงินนะการจัดงานแต่ง
การส่งลิงก์ไปให้ดูแบบว่าผ่านแล้วนะเธอ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดี เราก็พาเขาออกงานบ่อย เราก็พาเขาไปงานพี่วู้ดดี้ (วุฒิธร มิลินทจินดา) พยายามบิวต์ไป (อยากแต่งแล้ว?) ใจเรายังไงก็ได้จริงๆ ไม่ได้ซีเรียส เราจะแต่งหรือไม่แต่งมันไม่ได้มีผลกับความสัมพันธ์ของเราและเขาอยู่แล้วด้วย เพราะว่าต่อให้ไม่มีพรบ.สมรสเท่าเทียม เราก็ยังจะเป็นคนที่คุยกันคบกันอยู่ดี เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องการแต่งไม่แต่งไม่สำคัญ อยู่ที่ว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตเหมือนแต่งหรือเปล่า”
รับช็อกอีกฝ่ายพาไปเปิดตัวกับครอบครัว
“ยังไม่กล้าถามมากกว่า เพราะเนื่องจากว่าตัวเขาเองก็ยังมีครอบครัวที่บ้านมีผู้ใหญ่เราก็เลยยังไม่กล้าไปถาม เอาจริงถ้าเราเป็นผู้หญิงมีนมผมยาวเราก็อาจจะเข้าไปแบบเออหน้าตัดชุดไทยเข้าไปสวัสดีค่ะคุณพ่อมอบกระเช้าอะไรแบบนี้ แต่พอเราเป็นด้วยกายหยาบเราสูงกว่าเขาด้วยซ้ำอะไรอย่างนี้ เราก็เลยไม่ได้จะแบบฉันจะไปเป็นสะใภ้บ้านแม่
ไปเจอครอบครัว ก็มีไปเปิดตัวที่ตรุษจีนเรียบร้อย มันไม่ได้เรียกว่าเปิดตัวหรอกครับเหมือนเขาพาไปวันสำคัญของครอบครัวเขา แล้วเราก็ช็อกไม่คิดว่าจะพาไป คือตัวเขาเองไม่ได้เปิดตัวกับที่บ้านด้วยว่ามีสถานะทางเพศอะไร แล้ววันที่เขาเอาเราไปนั่นคือเขาเปิดทั้งเรื่องเพศและเรื่องเราไปเลย เหมือนกับอีเวนต์เดียวแล้วรวบสอง แต่เราทำหน้าไม่ถูกดีนะไม่ใส่กี่เพ้าไปไม่งั้นเรื่องใหญ่เลย
ฟีดแบ็กกับครอบครัวเขาน่ารักมากๆ ขอบคุณครอบครัวด้วยครับที่เปิดประตูรับเราอย่างดีมาตลอด 4 ปี เรื่องไฟเขียวไฟแดงไม่ได้อยู่ที่ครอบครัวอย่างเดียว มันอยู่ที่เราสองคนอยู่แล้ว ก็แฮปปี้แต่ยังไม่ได้มีข่าวดี ใจเย็นๆ นะครับยังไม่มีข่าวดี ก็คือยังใช้ชีวิตกันแบบวันต่อวันเดือนต่อเดือน เพราะว่าเราก็โหมงานหนักมาก คือปีนี้โปรเจกต์เยอะมากด้วย ไปเป็นผู้จัดอีกด้วยมันก็เลยทำให้เราแบบไม่ได้เน้นเรื่องพาร์ตส่วนตัวเท่าไหร่ ใครเห็นเราเดินไปไหนมาไหนกับผู้ชายขาวๆ ฝากเอ็นดูและเมตตาเขาด้วยครับ”
เผยส่งพวงหรีดแสดงความอาลัยคุณพ่อ “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ยันเพื่อนก็คือเพื่อน เรื่องข่าวไม่ยุ่ง
“วันที่ยายเราเสียพวงหรีดของ ดิว อริสรา มาเป็นเจ้าแรกๆ เลย โอเคเรื่องส่วนตัวของเพื่อนเรามันก็คงเป็นคดีความที่เขาจะต้องไปแก้ไขกันเอง ใครทำอะไรไว้ก็ต้องไปแก้ไขในสิ่งนั้นเราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรให้ใครได้ แต่วันนี้ดิวเขาไม่ได้แค่สูญเสียแค่ภาพลักษณ์และชื่อเสียง แต่เขากลับสูญเสียคนสำคัญในครอบครัวเขาไปซึ่งเราก็อยากจะเป็นกำลังใจ ไม่ใช่แค่เราด้วยซ้ำคือเพื่อนๆ ในวงการหลายคนก็ส่งไป หรือแม้กระทั่งคู่กรณีเขาเองก็ยังส่งไปเพราะว่าเราทุกคนไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไรกันก็ตามสุดท้ายแล้วเราโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้วต้องแยกแยะ นี่คือเรื่องของครอบครัวยังไงก็ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งกับทางครอบครัวทองบริสุทธิ์ด้วย”
สภาพจิตใจเพื่อนดีขึ้นตามลำดับ
“มีคุยบ้างครับ สภาพจิตใจของเขาดีขึ้นตามลำดับ แต่ว่าเดือนที่ผ่านมาเราไม่ได้คุยเลยเพราะเรายุ่งๆ อยู่ เหมือนพอมีเรื่องราวของคดีความเราก็ไม่กล้าเข้าไปพูดคุยอะไรเยอะ แต่ว่าก็มีส่งกำลังใจให้กับทุกฝ่ายทั้งตัวพี่ดิวและทางคู่กรณีด้วย
จริงๆ ไม่ได้ห่วงเพราะเรารู้สึกว่าทางออกมันมีอยู่แล้วสำหรับทุกคนสำหรับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นของดิว คู่กรณี หรือพี่เมย์ (วาสนา อินทะแสง) แต่ว่าส่งกำลังใจดีกว่าเพราะว่าเราเองวันที่เขาสนิทกันหรือยืมของอะไรกันเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นเราก็เลยพูดอะไรไม่ได้ แต่ ณ วันนี้ในฐานะเพื่อนคนนึงส่งกำลังใจครับ
ตอนคุยกับเขาก็ไม่มีร้องไห้ครับ กำลังใจเขาดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ กับเราไม่มีแต่กับคนอื่นไม่รู้เพราะดิวกับเราจริงๆ มันคือเพื่อนแบบในวงการคืออาจจะแบบไม่ได้โทร.คุยถามสารทุกข์สุขดิบเหมือนกับ ดจตห. (ดีเจต้นหอม) อะไรแบบนี้ อาจจะไม่ได้ถึงจุดแบบนั้น แต่ว่าถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันเสมอแล้วก็ส่งกำลังใจให้กับน้องอยู่แล้ว”
บอกที่ผ่านไม่เคยให้ใครยืมเงิน มีแต่ให้เลย
“มีคนมายืมเงินเราตลอด แต่ไม่ใช่กรณีนี้อยู่แล้วครับ เราไม่ค่อยให้ใครยืมเงินด้วยครับ เพราะตัวเราเองไม่ค่อยมีเงินให้ใครยืม เพราะตัวเราเองก็จะหมุนไม่ทัน เอ้าไปหามาสิเราไม่มีลูกหนี้เพราะเวลาใครยืมเงินเรา เราให้ เราไม่ให้ยืม เราให้เลย สมมติขอยืม 20,000 โอเคเราให้เลย 10,000 เอาไปเลยแล้วเราไม่เอาแล้ว”
ปัดไม่ทราบสาเหตุที่ยังไม่กลับมา แต่ยังไงก็ต้องกลับมาแน่เพราะบ้านอยู่ที่นี่
“อันนี้ยังไม่ทราบเลยครับ เหตุผลอยู่ที่ดิวต้องให้ดิวตอบเองเรื่องนี้เราอาจจะตอบไม่ได้ ว่าทำไมถึงยังไม่ได้กลับมา แต่ว่ายังไงก็ต้องกลับมาครับบ้านเขา ก็ไม่ได้คุยอะไรแค่ส่งกำลังใจอย่างเดียวเลย เราเป็นพลังบวกให้เพื่อนอย่างเดียว เพราะว่าเขาก็เจอพลังลบเยอะแล้ว เราเป็นพลังบวกดีกว่าเพราะฉะนั้นพี่ๆ อย่ามาเป็นพลังบวกเชิงลบกับเราเลย ก็ไม่ได้มีถามว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ เพราะถ้าถามเดี๋ยวก็หลุดมาถึงตรงนี้ก็เลยไม่ถามครับ”
