xs
xsm
sm
md
lg

“ชิน ชินวุฒ” ปกป้องเมีย ฟาดกลับชาวเน็ตแซะ “ลิลลี่” เสืxก! ไม่ขอโทษในสิ่งที่พิมพ์ออกไป (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชิน ชินวุฒ” ไม่ขอโทษ ด่าเกรียนคีย์บอร์ดเสืxก เผยเป็นใครก็ต้องออกมาปกป้องภรรยา บอกพิมพ์อะไรควรมีมารยาท ไม่ใช่ด่าลามถึงครอบครัว เชื้อชาติ ลั่นอยากด่ามาพูดต่อหน้า อย่าพิมพ์มันไม่เท่



หลังจากที่นักแสดงสาว “ลิลลี่ ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ” แฟนสาวของ “ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน” ออกมาโพสต์คลิปนาทีที่ร้องไห้แบบขาดสติหลังเครื่องบินเกิดตกหลุมอากาศ ซึ่งมีทั้งเพื่อนๆ แฟนๆ ที่ต่างเข้ามาแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจ แต่งานนี้ก็ไม่วายเจอดรามาทัวร์ลงฉ่ำ เมื่อมีคนคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ว่า กลัวแต่ยังให้เพื่อนถ่ายคลิปให้ เพื่อเอามาลงในช่องตัวเอง สรุปกลัวจริงหรือต้องการคอนเทนต์กันแน่

ล่าสุด ชิน ชินวุฒ มาร่วมงานประกาศรางวัล “นาฏราช” ครั้งที่16 โดยเจ้าตัวก็ออกมาฟาดเดือดตอบกลับเกรียนคีย์บอร์ดแทนภรรยา หลังถูกด่าลามถึงครอบครัว เชื้อชาติ ลั่นถ้าอยากด่ามาพูดต่อหน้า อย่าพิมพ์ มันไม่เท่

“จริงๆ ลิลลี่ก็น่าจะพูดไปหมดแล้ว เรารู้แหละอย่างที่ลิลลี่พูดเลย ว่าประสบอุบัติเหตุตอนขับรถเขาก็เลยมีความกลัวนิดนึง ก็ไม่ได้เป็นถึงขั้นอาการ Panic Disorder คือเรามีรุ่นพี่ที่บินไฟลต์เดียวกับลิลลี่ แล้วเขาบอกว่าคลิปที่เราเห็นประมาณ 2 นาทีใช่ไหม แต่รุ่นพี่เราบอกว่าทั้งไฟลต์ชั่วโมงหนึ่งมันเป็นอย่างนั้นทั้งไฟลต์ครับถ้าบอกเอาตรงๆ เลยนะใครไม่กลัวมีสติมาก คือเราเห็นรุ่นพี่เล่าให้ฟังด้วยเสียงสั่นมากๆ ตอนที่ลิลลี่โทร.หาเราแล้วก็คือคุยปกติ

จังหวะนั้นก็ได้แค่ปลอบใจเพราะเหตุการณ์มันผ่านมาแล้ว ตอนที่ลิลลี่คุยกับเราเขาก็เล่าให้ฟังแบบปกติเลย แล้วคือคลิปนั้นโดนถ่ายโดยผู้ช่วยลิลลี่คงไม่มีใครบ้ามั้งกำลังกลัวแล้วมาหยิบถ่าย

ที่รู้เรื่องเพราะรุ่นพี่ไลน์มาบอกครับว่าลิลลี่บินไปขอนแก่นเหรอ เราบอกใช่พี่ เขาบอกว่าอยู่ไฟลต์เดียวกับเราเลย แม่xโคตรน่ากลัวเลย เพราะตอนแรกเราก็ไม่คิดว่ามันขนาดนั้น ซึ่งความกลัวของแต่ละคนมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ไม่ได้คิดอะไรพอรุ่นพี่เล่าให้ฟัง คือรุ่นพี่เราเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ ยังกลัวเลย ก็เลยโอเคเขาน่าจะเจอค่อนข้างแรงมาก

อย่างที่บอกว่าตอนลิลลี่โทร.หาเราปกติแล้ว เราฟังแล้วเขาก็ส่งคลิปมาให้ดูว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วเขาก็เล่าให้ฟังปกติบอกว่าเธอเมื่อกี้เรากลัวมาก มันขึ้นลงแบบตัวลอย เราก็ถามเขาว่าตอนนี้โอเคแล้วใช่ไหม เขาก็บอกว่าโอเคแล้ว”

ปัดลิลลี่เป็นแพนิก
“ลิลลี่ไม่ได้บินครั้งแรก แต่อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรกเพราะฉะนั้นก็เลยตกใจเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้อีกเลย ลิลลี่ไม่ได้เป็น Panic Disorder แต่ว่าด้วยประสบการณ์ของตัวเองที่เคยประสบอุบัติเหตุจากการเดินทางมันเลยทำให้เขาเกิดอาการตอนนั้น ซึ่งต้องบอกว่ามันคือการหายใจ มันคือตกใจมากๆ สภาพเขาเราคิดว่าอยู่บนอากาศเป็นอะไรไม่ได้เจอหน้าครอบครัว ไม่ได้เจอหน้าสามี เราเชื่อว่าหลายๆ คนถ้าคิดแบบนั้น แล้วเจอเหตุการณ์แบบนั้นเราเชื่อว่าทุกคนกลัวหมด”

ลั่นถ้าอยากด่ามาพูดต่อหน้า อย่าพิมพ์ มันไม่เท่ ควรมีมารยาทนึดนึง
“ปกติเราว่าต่างคนต่างความคิด ประสบการณ์ของคนเราไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการที่เราตีความแต่ละเรื่องที่เราเห็นมันก็ไม่เหมือนกันแล้วประเด็นที่เราไปพิมพ์ตอบ ก็เป็นเพราะว่าไม่มีใครชอบให้มาด่าภรรยาตัวเอง มันก็เป็นเรื่องปกติ แล้วมีบางคนมันก็เกินไปมากๆ เหมือนกัน ไปถึงเรื่องพ่อแม่ ไปถึงเรื่องเชื้อชาติ ถ้าคุณจะพูดก็พูดกันต่อหน้าคุณอย่าพิมพ์ไม่เท่

มันเกิดทั้งไฟลต์ 45 นาที เขาไม่ได้เป็นคนถ่ายผู้ช่วยเขาเป็นคนถ่าย เอาจริงๆ ต่อให้เรามาพูด แก้ตัวเพื่อภรรยาหรือเปล่า เอาแบบนี้เอาเป็นว่าแล้วแต่ทุกคนจะคิดดีกว่า เพราะมันเป็นสิทธิของแต่ละบุคคลที่จะคิดยังไง คนอยากถ่ายคอนเทนต์ก็เป็นเรื่องของคนถ่ายคอนเทนต์เช่นเดียวกัน คนอยากพิมพ์ก็เป็นเรื่องของคนพิมพ์ แต่ส่วนตัวถ้าถามเราเพราะเป็นสิทธิ์ของทุกคนเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่เราพูดเราก็พูดตามสิ่งที่เราคิดเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วมันเป็นเรื่องที่ผ่านไป ก็ผ่านไปแล้ว

แต่อันนี้ก็เป็นวิจารณญาณแล้วกัน หรือว่าเราจะพิมพ์ไปว่าใครอะไรยังไง ให้ดูก่อนสิ่งที่เขาทำ เขาทำมาจากเจตนาอะไร เขาทำเพราะอะไร เขาทำเพื่ออะไร ก่อนที่เราจะดูแค่ 30 วินาที แล้วก็พิมพ์เลย ก็ฝากด้วยแล้วกัน เราเชื่อว่าเป็นภรรยาใครก็อยากปกป้องทุกคน ไม่ซีเรียสแต่แค่บางอันก็เกินไป เราว่าเราอยู่ในวงการมานานแล้วมั้ง แล้วการที่คนมีความคิดวิพากษ์วิจารณ์มันก็เป็นเรื่องปกติ แต่แค่อย่าเกินเลยอยู่ในขอบเขต แล้วก็มีมารยาทนิดนึง”

ไม่ฟ้อง-ไม่ขอโทษ ซัดแหลกเกรียนคีย์บอร์ดอย่าเสืXก ด่าลิลลี่
“ไม่ฟ้องครับเสียเวลาครับ เราใช้ชีวิตกันต่อแบบดีๆ ดีกว่า เราไม่จำเป็นต้องไปยึดติดอะไรขนาดนั้น ที่เราตอบคอมเมนต์กลับไปเพราะตั้งใจครับ ก็คิดแบบที่พูด ในเมื่อเขาคิดแบบที่เขาพูด เราก็คิดแบบที่เราพูด ก็ไม่ผิดเปล่า เขาพิมพ์มาคำเดียวไง เขาพิมพ์คำว่าปลอม เราก็เลยพิมพ์คำว่าเสืxก นึกออกไหมถ้าเขาพิมพ์มากกว่านั้นเราอาจจะพิมพ์มากกว่านั้นแต่พอเขาพิมพ์มาแค่นั้นเราก็ตอบแค่นั้นก็จบไป ซึ่งเราก็ไม่ได้กลับไปดูอีกเลย แล้วก็ไม่ขอโทษครับในสิ่งที่พิมพ์ไป”







กำลังโหลดความคิดเห็น