xs
xsm
sm
md
lg

“เขมทัตต์” นายกสมาพันธ์ฯ เคลียร์ดรามาเวที “นาฎราช” รางวัลงอกถึง 52 สาขา ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เขมทัตต์” นายกสมาพันธ์ฯ เคลียร์ดรามาเวที นาฎราช รางวัลงอกถึง 52 สาขาไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร หวังเพียงให้ผู้ผลิตหน้าใหม่ได้มีพื้นที่เติบโตต่อยอดไปยังตลาดนานาชาติ ย้ำไม่มีใครรู้ผลล่วงหน้า

วงการโทรทัศน์ไทยเตรียมพร้อมต้อนรับค่ำคืนอันทรงเกียรติอีกครั้ง กับงานประกาศผลรางวัล “นาฏราช ครั้งที่ 16 ประจำปี 2568” จัดโดยสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งมีรูปแบบมาตรฐานการจัดมาจากเวทีออสการ์ เพื่อยกย่องและเชิดชูบุคลากรทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังผู้สร้างสรรค์ผลงานโทรทัศน์อันโดดเด่นตลอดปีที่ผ่านมา
งานประกาศผลรางวัลนาฏราชถือเป็นหมุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทย ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและให้กำลังใจผู้ผลิตรายการและนักแสดงที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพสู่สายตาผู้ชมทั่วประเทศ โดยในปีนี้ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ทำการพิจารณาผลงานอย่างละเอียดถี่ถ้วน ครอบคลุมหลากหลายประเภทและรูปแบบของรายการโทรทัศน์ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดผลงานใน 52 สาขา อันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย โดยผลรางวัลแบ่งเป็นสาขาต่างๆ รางวัลเกียรติยศ , รางวัลประเภทละครโทรทัศน์ , รางวัลประเภทรายการโทรทัศน์ , รางวัลประเภทรายการออนไลน์

งานนี้ทำเกิดดรามา ผู้ชมมีคำถามทำไมรางวัลถึงออกลูกออกหลานมากมายจาก 12 สาขาในปีแรกๆ เพิ่มมาถึง 52 สาขา รางวัลนี้เอื้อประโยชน์ใครหรือเปล่า ความขลังของรางวัลจะยังคงอยู่สมกับเป็นเวทีออสการ์เมืองไทย? ด้าน “เขมทัตต์ พลเดช” นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ “วัชระ แวววุฒินันท์” นายกกิตติมศักดิ์ (ในฐานะประธานจัดงานนาฏราช) และ “สุรพล พีรพงศ์พิพัฒน์์” ที่ปรึกษาสมาพันธ์ฯ มีคำตอบให้กับเรื่องนี้

”รางวัลนาฎราชเป็นรางวัลคุณภาพของเมืองไทย และเราเปิดกว้างมากทั้งละครและซีรีส์ ทั้งช่องหลัก ช่องดิจิทัล สตรีมมิ่ง ส่วนซีรีส์วายเองก็เริ่มได้รับรางวัลกันแล้วนะในละครเย็นกับละครดึก คนดูเองก็ยอมรับ โหวตเตอร์เราประมาณ 10% เป็นLGBT เขาจะเก็ตตรงนี้เยอะมาก สังคมเปิดกว้างขึ้น เราจะเห็นกันได้ชัดเจนเลยว่าซีรีส์เหล่านี้ไม่ว่าจะวายหรือยูริเป็นละครสะท้อนสังคม บอกถึงทิศทางที่จะไป และซ้อนคุณธรรมอะไรบางอย่างตรงนั้นไว้ด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องรักใคร่อย่างเดียว คนเขียนบทค่อนข้างเข้าใจบริบทของสังคมในยุคสมัย จึงทำให้เกิดความนิยมมากขึ้น”

แจกรางวัล 52 สาขาไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร หวังเพียงให้ผู้ผลิตหน้าใหม่ได้มีพื้นที่เติบโตต่อยอดไปยังเวทีนานาชาติ
ทุกอย่างทั้งยุบได้เพิ่มได้ตามความเหมาะสม เราอาจจะต้องมาคุยกับในกรรมการและสมาคมว่าบางอย่างยุบรวมได้ไหม เคยมีคนในวงการละครบอกว่าละครเย็นรวมกับละครค่ำหลังข่าวไหม แล้วสู้กันไปเลย เราก็บอกว่าทำแบบนั้นไม่ยาก แต่การที่จะทำให้มีคุณภาพรายการกับทำให้มีผู้ผลิตหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมันยากกว่า สมาพันธ์ก็เป็นตัวแทนเปิดเวที ตรงนี้มันก็คล้ายๆ ไก่และไข่อยู่นะ จะแก้ปัญหาอยู่เหมือนกัน

(ความขลังมันลดลงไหมจาก 12 รางวัลตอนนี้ออกลูกออกหลายมาถึง 52 รางวัล?) คนดูก็อยากจะเชียร์ แต่คนที่ดูถ่ายทอดสดเหนื่อยแล้ว ถึงเที่ยงคืนกันแล้ว ปีนี้เราจะถ่ายทอดสดตั้งแต่ 6 โมงเย็น ของประเทศเกาหลีก็นาน 4 ชั่วโมง การเพิ่มรางวัลของเราไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับใคร เป็นเพียงการเปิดพื้นที่ให้กับผู้ผลิตหน้าใหม่ ก็เลยมีจำนวนรางวัลตามที่เห็น

ถ้าดูจากละครนะ เวทีออสการ์ลงดีเทลมากกว่านี้อีกนะ สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะมีแต่ยังไม่มีเข้ามาส่งประกวดคือสกู๊ปข่าว การใช้ไอทีเทคโนโลยี อาทิ กราฟิกดีไซน์ ซีจีข่าว ลักษณะขององค์ความรู้ด้านข่าวและสาระตรงนั้นยังไม่ค่อยมี เกมโชว์ วาไรตี้ก็ไปเรื่อยๆ ยังไม่มีความแตกต่าง เราอยากให้มีการพัฒนาเพื่อให้มีคอนเทนต์ที่แตกต่างมากขึ้น ช่วงที่ผ่านมาคอนเทนต์ไทยเป็นที่นิยมในเอเชีย แล้วเดี๋ยวเราจะมีการเปิดตลาดกับเกาหลี เราก็เป็นแค่เวทีหนึ่งที่อยากจะส่งเสริมให้ผู้ผลิตไทยได้เปิดโอกาสฉายแววความสามารถของเขา”

เสน่ห์รางวัล นาฎราช ที่ไม่มีเวทีไหนเหมือนคือคนในวงการบันเทิงโหวตให้กันเอง และไม่มีใครรู้ผลก่อนงาน รู้พร้อมกันตอนประกาศรางวัล
“เสน่ห์ของนาฎราช คือ เป็นรางวัลเดียวที่เป็นความภูมิใจของคนที่ได้รางวัลเนื่องจากเป็นรางวัลที่คนในวงการบันเทิงโหวตให้กันและกัน คนในวงการจะมีความเป็นศิลปินเยอะ เขาจะมีองค์ความเป็นตัวของตัวเองเยอะ แต่เมื่อเขานิยาม ยอมรับคนหนึ่งแล้ว นั่นแสดงว่าคนที่เขายอมรับจะรู้สึกภูมิใจ มีเกียรติยศมากกว่าที่กรรมการที่เป็นใครก็ไม่ทราบมาให้รางวัลเขา

เห็นชัดๆ เลยคือ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ปีที่แล้วได้รับรางวัลผู้ประกาศข่าวชายยอดเยี่ยม หนุ่มดีใจมาก เพราะหนุ่ม กรรชัย มาจากการเป็นดารา แล้วแกก็ค่อยๆ เขยิบมาเป็นพิธีกร ทุกคนก็อาจจะมองแค่ก็เป็นดาราแล้วมาเป็นพิธีกร แกก็พยายามทำงานของแก เขาตั้งใจทำงานอย่างดี จากพิธีกรรายการแกเขยิบมาเป็นผู้ประกาศข่าว ก็เกิดคำถามกันอีกว่าจากดารามาเป็นผู้ประกาศข่าว แต่ก่อนคนจะมาเป็นผู้ประกาศข่าวก็ต้องมีที่มาที่ไป แต่แกก็ยังยึดมั่นในสิ่งที่แกอยากทำให้กับสังคม ให้กับคนดูในแบบของแก

ที่ผ่านมาแกก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงมาบ้าง จนกระทั่งปีที่แล้วแกได้รับรางวัล แกดีใจมากที่ได้รางวัลจากเวทีนาฎราช เพราะมันหมายความว่าคนในวงการเดียวกันยอมรับแกแล้วว่าแกคือสื่อทางด้านข่าว เมื่อก่อนแกอาจจะถูกมองเป็นนักข่าวตัวปลอมหรือเปล่า มันแสดงให้เห็นว่ารางวัลนาฎราชคือความภูมิใจของคนทำงานผู้ประกอบวิชาชีพจริงๆ ที่คนในวิชาชีพเดียวกันเห็นคุณค่าและให้รางวัล

และเรายังคงย้ำคำเดิมว่าไม่มีใครรู้ผลล่วงหน้าก่อนเลยจริงๆ ใครมาถามก็บอกไม่ได้เพราะไม่รู้จริงๆ รู้พร้อมผู้ชมในวันที่ประกาศ มันก็คือเสน่ห์อีกแบบหนึ่ง”

อย่าพลาดชมการถ่ายทอดสดงานประกาศผลรางวัล “นาฏราช ครั้งที่ 16 ประจำปี 2568” ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 19:30 น. เป็นต้นไป ทางช่องวัน 31 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสียงเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับผู้สร้างสรรค์ผลงานโทรทัศน์ไทย และร่วมสัมผัสความยิ่งใหญ่ของงานประกาศรางวัลที่ทุกคนรอคอย









กำลังโหลดความคิดเห็น