“หน่อย บุษกร” รับหมดไฟเป็นผู้จัดละคร เสียดายแต่ไม่ยึดติด ชีวิตต้องสู้ ปิดก็ต้องปิด เข้าใจโลกเปลี่ยน ตนยังชอบดูอะไรสั้นๆ แต่ไม่หมดไฟเล่นละคร พลิกบทบาทเล่นเป็นคนดี หลังจากร้ายมาตลอด เผยครอบครัวลงจอยกทีมรับงานแสดง
ประกาศเลิกเป็นผู้จัดละครแล้ว สำหรับ “หน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์” หันกลับมารับจ้างเล่นละครแทน โดยยอมรับว่าหมดไฟในการเป็นผู้จัด ด้วยโลกหมุนเร็วสไตล์ที่เป็นไม่ตรงกับความต้องการตลาดในตอนนี้ จึงตัดใจกลับมารับงานแสดงดีกว่า
“ใช่ค่ะ เหมือนเราหมดไฟ ต้องยอมรับว่าเราอยากไปทำอะไรที่เราอยากทำ ก็คิดถึงการเล่นละคร ด้วยช่วงที่เจอวิกฤตละครด้วย เราก็เลยได้มาคุยกับตัวเองว่าสิ่งที่เราอยากจะทำมันก็คงไม่ได้ ไม่ตรงความต้องการของตลาด ทั้งหมดนี้คือฟางหมดเลย ตอนนี้บริษัทก็ไม่มีแล้ว คืนทุกอย่างไปหมดแล้ว
ก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เราแค่ทำใจยอมรับ เสียดายไหมมันก็เสียดายเป็นธรรมดา เพียงแต่เราไม่ยึดติดว่าต้องสู้ ต้องทำ ก็ยอมรับว่าปิดก็ต้องปิด ก็คุยกับเคนเราก็เห็นตรงกัน เขาเห็นด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันเป็นอะไรที่เครียดนะ มันไม่เหมือนกับเราเล่นละคร เราก็ทำบทของเรา รับผิดชอบเล่นตามบทของเราแล้วก็กลับบ้านไปโล่งๆ สบายใจกว่า เป็นผู้จัดมันก็ตั้งแต่เลือกเรื่อง ขายงาน หาทีมงาน เป็นรายละเอียดเยอะ
ตอนนั้นเราทำเพราะเราอยากทำ มันมีความสุข ตอนนี้โลกมันก็เปลี่ยนไป เราเองยังอยากไปดูอะไรที่มันสั้นๆ เลย ก็เลยต้องยอมรับ ตอนนี้ก็กลับมารับละคร รับไว้แล้ว 3 เรื่อง มีหนังด้วยอีก 1 เรื่องก็เล่นทีละเรื่องไล่ๆไป มีผู้จัดหลายคนที่เขาก็นึกถึงเรา”
แม้จะหมดไฟในการเป็นผู้จัด แต่ไม่หมดไฟในการเล่นละคร นอกจากตนแล้ว สามี “เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” ก็รับเล่นหนังด้วย
“สนุกนะ คือชอบมาตั้งแต่เรื่องย่อแล้วว่ามันทันสมัยดี ได้เจอน้องๆ พี่ๆ ในวงการ เป็นอะไรที่สนุกดี ก็ห่างละครมา 3 ปี ถามว่าเลือกเยอะไหม ก็อ่านแล้วชอบ มีเรื่องนึงพลิกบทบาทเล่นเป็นคนดีนะ จากที่ร้ายมาตลอด (เคนจะกลับมาหน้าจอด้วยไหม?) เคนเขามีหนัง น่าจะใกล้ๆ แล้วมั้ง
ยังไม่เคยหมดไฟกับการเป็นนักแสดง เหมือนเราเคยขี่จักรยานได้ พอเรามาจับจักรยานอีกครั้งมันก็ไปได้ ปั่น ถีบ สนุกเลย ตอนที่เล่นมันกลับมามีความสุข เหมือนเป็นความสุขของเราอีกแบบนึง”
“จุน” ลูกชายคนเล็ก ลงจอเล่นหนัง
“ตัวเล็กเกิดจากว่าเขาติดต่อตัวพี่ให้ไปแคส แม่ก็ให้ไปแคส เราคนทำงานเราจะรู้ว่าบางทีต้องเรียกมาดูตัว พูดคุยกันก่อน มันเป็นเรื่องของเสน่ห์ การพูดการจา ก็ให้น้องคุนไปแคสแล้วเอาจุนไปเป็นเพื่อน ปรากฏว่าจุนได้ พอได้ลองจุนกลายเป็นชอบ พอได้ไปอ่านบท ต่อบทแล้วเขาสนุก ตัวพี่ชอบเบื้องหลัง ตัวน้องชอบเบื้องหน้า บางทีพี่จะเป็นคนถ่ายให้น้องเป็นนักแสดงให้พี่ (กลายเป็นอุตสาหกรรมครอบครัว?) แต่เป็นครอบครัวที่ติสต์มาก แม่รู้สึกว่าบางทีอะไรง่ายๆ มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ แต่เขาเป็นเด็ก15-16 ปีที่คิดไปในอีกแบบนึง ก็มีความสุขอีกแบบของเขา”
