ติ่มซำปลิว “น้ำตาล พิจักขณา” ไฟสุมอก ถูกชี้เป้า “ไผ่ พาทิศ” มีโลก 2 ใบ ลั่นเกิดขึ้นจริงคงช็อก ห่วงแม่ใส่ใจโลกโซเชียล บอกถ้าวันนึงไปต่อไม่ได้ คนรู้คนแรกควรเป็นคนรัก แต่ถ้าทำจริงถือว่าเก่งมาก คบหาดูใจ 13 ปี เชียร์ตัวเองให้ถูกขอวิวาห์สักที
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจหนักมาก หลังมีข่าวลือพูดถึงพระเอกไม่ยอมแต่งงานกับนางเอก เพราะมีโลก 2 ใบ ทำเอาหลายคนต่างพากันพุ่งเป้าไปที่คู่ของ “ไผ่ พาทิศ พิสิฐกุล” และ “น้ำตาล พิจักขณา วงศารัตนศิลป์” หลังคบหาดูใจมานานถึง 13 ปี แต่ยังไร้วี่แววแต่งงานสักที
ล่าสุด น้ำตาล พิจักขณา มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวละครใหม่ 3 เรื่อง กับงาน “ช่อง 3 FUN ทะลุกล่อง” เจ้าตัวก็รีบปฏิเสธอย่างไวเลยว่าไม่ใช่คู่ของตนแน่นอน บอกถ้า ไผ่ พาทิศ มีโลก 2 ใบถือว่าเก่งมากๆ
“วันนั้นโชคดีมาก ปกติพี่ไผ่ไม่ค่อยได้ไปกินข้าวด้วยกัน แล้ววันนั้นไปกินข้าวกับเพื่อนที่โรงแรมพอดี ก็นั่งกินกันอยู่ ซึ่งอยู่ดีๆ สักพักนึงคนก็โทรศัพท์เข้าของพี่ไผ่ ของเราก็ผู้จัดการโทร.มา คนก็ตามหาผู้จัดการกันใหญ่ เนี่ยเขาพูดแล้วว่าเป็นน้ำตาล-พี่ไผ่ เราก็ห๊ะ! วงก็แตกกันตั้งแต่ตอนนั้นเลย วันนั้นไปกินบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ ซึ่งติ่มซำแทบปลิว (หัวเราะ) เก่งมากคือแว็บแรกถ้าเป็นพี่ไผ่จริงๆ คือเก่งมาก แต่ตอนนั้นเราก็ยังขำๆ อยู่คิดว่าไม่ใช่
พอหลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน แจ็คกี้ (ชาเคอลีน มึ้นช์) โทร.มา บอกเราว่า เขาว่าน่าจะเป็นคู่เราเนี่ย เราก็เอ๊ะยังไง เราก็บอกว่าไม่ใช่หรอกกี้ เพื่อนเราก็บอกแกทุกคนมันก็มั่นใจกันอย่างนี้แหละว่าไม่ใช่เรา หรือว่าจะสักหนึ่งเปอร์เซ็นต์ดีที่เราทำใจไว้ก่อน เอาล่ะ เริ่มมีไฟสูมในอก พี่ไผ่กลับมาจากร้านลองมาคุยกันหน่อย มันก็มีหลายคนที่มันพูดหลากหลาย ด้วยความที่บอกว่าถ้าไม่ใช่เลยมันก็จะโอเค แต่นี่ระบุอะไรแบบนี้ แล้วประเด็นคือแม่เป็นคนใส่ใจโซเชียลมาก แม่ก็จะแบบยังไงๆ แล้วทุกคนก็จะถามแม่ เราก็บอกว่าไม่ใช่ๆ แต่ว่าพอเราโดนถามเยอะๆ มันกล่อมประสาทหรือว่าจะใช่”
บอกถ้า ไผ่ พาทิศ มีกิ๊กถือว่าเก่งมาก
“พี่ไผ่ก็บอกว่าไม่มี แล้วที่เราบอกว่าถ้ามีก็เก่งเกินเพราะว่าเรามีรหัสกันหมดเลย ทุกสิ่งทุกอย่างของเราก็มีรหัสของเขา ส่วนเขาก็มีรหัสของเรา หรือว่าอินสตาแกรมก็ล็อกอินสองเครื่อง ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่ไว้ใจกันนะคะ แต่ว่าบางทีเราลืมเอามือถือมา เราก็จะยืมของพี่เขาล็อกอิน ประเด็นเริ่มต้นคือพี่ไผ่ลืมก่อน แล้วก็เลยมาล็อกอินในเครื่องเรา ซึ่งเราก็ไม่ยอมลบ พี่ไผ่ก็บอกว่าไม่ลบก็ได้งั้นเอาของเธอมา มันก็เลยซวยมาถึงทุกวันนี้
ส่วนพี่ไผ่ก็บอกว่าไม่มีจริงๆ คือมันจะไปมีได้ยังไง ก็อย่างที่บอกว่าคือการที่เราได้เห็นการใช้ชีวิตของเขา ดังนั้นถ้าจะมีกิ๊กสักคนมันต้องเก่งมาก คือก็ต้องอยู่ในน้ำ อยู่ในป่า หรือบนฟ้า คือต้องเก่งมากจริงๆ
ถามข่าวนี้กระทบความสัมพันธ์ไหม เรามองเป็นเรื่องตลกมากกว่ามันวนมาถึงคู่เราได้ยังไง แต่ด้วยคำใบ้หลายๆ อย่างมันชี้มาทางนี้ หลายๆ คนพออ่านก็เกิดความสงสัย เดี๋ยวคนนั้นมาถามคนนี้มาถาม มันก็เลยเหนื่อยกับการที่จะอธิบายให้แต่ละคนฟังมากกว่าแล้วอย่างที่บอกมันเหมือนโดนกล่อมว่าจะใช่ไหม เราเลยเหลือไว้หนึ่งเปอร์เซ็นต์ เพราะบางคนก็บอกว่าใช่แน่ๆ ซึ่งเราก็งงว่าใช่แน่ๆ ยังไง”
ไม่ระแวงเพราะไว้ใจ
“ไม่มีเลยอย่างที่บอกว่าพอเคลียร์กันจบไป เราก็จบ คือเขาไม่มีท่าทีอะไรให้เราระแวง คือพี่ไผ่ให้ความไว้ใจและให้พื้นที่เราเต็มที่ เราอยากจะดูอะไร เราอยากจะเห็นอะไร คือเรามีทุกอย่าง ยกเว้นบัตรเครดิตเขา ซึ่งเราอยากได้อยู่
ด้วยข่าวด้วยอะไรก็แล้วแต่เรามีความรู้สึกว่า เริ่มแรกเลยเราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรา แล้วที่สำคัญก็คือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ก็จะ 13 ปีแล้ว เขาไม่ได้เปลี่ยนไปในทิศทางที่มันไม่ดี มีแต่จะดีขึ้น แล้วตอนนี้เริ่มถอยหลังจากสิ่งเร้าต่างๆ เมื่อก่อนคบกันแรกๆ ก็ยังมีไปเที่ยวไปปาร์ตี้ด้วยกันบ้าง ตอนนี้พี่ไผ่ก็คือไม่มี
แจ็คกี้อยากจะตีซี้กับแฟนเราก็ต้องเขาป่าไปดูน้ำตกด้วย เหมือนไม่ได้ซี้กันที่เขาจะชวนมาดื่มมาแล้ว ดังนั้นเราก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าเราจะมีจุดที่มันเสี่ยงหรือว่ามีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันเอ๊ะ คือถ้ามันเคยมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เราย้อนกลับไป แบบสมมติวันนี้มีข่าวแล้วเรารู้สึก อ๋อ วันนั้นแน่เลย วันนี้แน่เลยแบบนี้มันก็จะเป็นอีกแบบนึง แต่อันนี้คือมันไม่มีถ้าทำให้มันมีมันก็จะเกิดจากเรานี่แหละ สังคมรุมเร้าอยากได้คำตอบ และคนก็ไปคาดคั้นจากเขาด้วย พี่ไผ่ก็จะบอกว่าพี่ไม่มี ญาติพี่น้องเราที่สนิทกับเขาก็คือถามตรงๆ ว่ามันใช่ๆ ไหม”
รับถ้าไผ่มีโลกสองใบช็อกแน่นอน
“พี่ๆ ต้องไปเยี่ยมเรา เพราะเคยคุยกับแจ็คกี้ว่า ถ้าเป็นพี่ไผ่จริงๆ เราคงช็อก ซึ่งแจ็คกี้บอกว่าไม่เป็นไรน้ำตาล ข้างๆ เราคือแจ็คกี้ คือแจ็คกี้ก็คงนั่งช็อกแล้วนั่งมองเพดานไปพร้อมๆ กัน มันเกิดขึ้นได้ยังไง ก็คงจะเป็นแบบนั้นเพราะว่าไม่มีกลิ่น ไม่มีเค้าโครง ซึ่งทุกคนก็บอกว่าไม่มีอะไรเลย”
ลั่นหากมีโลก 2 ใบ คนแรกที่ควรบอกคือคนที่รัก
“สำหรับเรา เรามองว่ามันคือการไม่ให้เกียรติคนรักกัน คือถ้าวันหนึ่งความสัมพันธ์มันจะไปต่อไม่ได้แล้ว คนที่ควรจะรู้คนแรกก็คือคนที่คุณคบอยู่ ดังนั้นถ้ารู้สึกว่าความรักของเรามันไม่เหมือนเดิม ฉันไม่ได้มองเธอเหมือนคนเดิมอีกต่อไปแล้ว แล้วรู้สึกว่าความสัมพันธ์นี้ไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ในฐานะแฟนไปสู่อนาคตไม่ได้แล้ว คนที่ควรจะรู้เป็นคนแรกก็คือแฟนเรา ดังนั้นเวลารักกันก็ต้องให้เกียรติคนที่เรารักเพราะว่าคนๆ นั้นเขาไม่ได้ผิด เขาจะผิดก็คือแค่อาจจะไปต่อด้วยกันไม่ได้ หรือว่าเรามองมุมมองความรักเส้นทางมันไปต่อด้วยกันไม่ได้ ดังนั้นต้องให้เกียรติคนที่เรารักมากที่สุด”
ลุ้นข่าวดีหลังคบมาราธอน 13 ปี
“ถามว่าคบ 13 ปี มีแววแต่งงานไหม ไม่นานๆ เดี๋ยวรอเขาพูด ก็รอดูว่าจะเป็นยังไง หลายคนเชียร์ ก็นั่นแหละ เราก็เชียร์ตัวเองอยู่ ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่คนอื่นเชียร์เราเราก็เชียร์ตัวเองอยู่เพราะว่าอายุอานามมันก็ได้แล้ว อายุได้แล้ว พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าหรอก”
