“แอฟ ทักษอร” เคลียร์ชัด หลังคนโฟกัสสีหน้าสัมภาษณ์คู่ “นนกุล” ยันร้องไห้เพราะซึ้งใจทุกคน วอนอย่าพาดหัวข่าวให้เข้าใจผิด รับอยากเข้าไปตอบคนที่คอมเมนต์กลับแต่กลัวเรื่องไม่จบ ลั่นไม่ฟ้องแค่แผ่เมตตาก็พอ
อยู่ๆ ก็โดนจับผิด สำหรับคู่รักต่างวัย “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” กับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง “นนกุล ชานน สันตินธรกุล” หลังฝ่ายหญิงหลั่งน้ำตากลางวงสัมภาษณ์ ซึ้งใจที่ทุกคนซัปพอร์ตในความรักของคู่ตน แต่งานนี้ไม่ก็วายเจอดรามา หลังชาวเน็ตสังเกตแววตาของนนกุลดูเปลี่ยนไป ไม่คลั่งรักเหมือนช่วงแรกๆ ถึงขั้นฟันธงไม่นานเลิกชัวร์
ล่าสุด แอฟ ทักษอร ได้ออกมาเปิดในถึงเรื่องนี้ ลั่นไม่รู้จะออกความเห็นยังไง สำหรับตนไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย มันมีแต่ดีขึ้น
“ก็ไม่รู้จะออกความเห็นยังไงเลย สำหรับเรามันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ถ้าให้พูดตรงๆ มันก็มีแต่ดีขึ้น ก็แฮปปี้ดีค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วเราคิดว่าเราอาจจะไม่ต้องอธิบายเองด้วยซ้ำ ถ้าไปอ่านในคอมเมนต์หลายๆ คนก็จะเข้าใจ เช่นเราอยู่ๆ ก็ซึ้งร้องไห้อยู่แล้วเขาจะยิ้มได้ยังไง ซึ่งมันมีหลายๆ เหตุผล
วันนี้มีโอกาสได้เจอทุกคนก็ดีค่ะ ก็อยากให้ทำความเข้าใจอีกครั้งว่า คือตอนนี้บางคนเอาไปพาดหัว ต้องขออนุญาตพูดตรงๆ เวลาพาดหัวสั้นๆ เพื่อจะล่อคนเข้ามาแล้วทุกคนก็มากระหน่ำเรา ซึ่งเราว่าอันนี้ก็อย่าทำอย่างนั้นกับเราเลยค่ะ คือมันอาจจะมีบางอันที่ทำให้เข้าใจผิดว่าร้องไห้เพราะเรื่องอื่น แต่จริงๆ อยากจะบอกอีกครั้งหนึ่ง ทำความเข้าใจว่าถ้าเศร้าไม่ร้องค่ะ ซึ้งก็เลยร้องค่ะ วันนั้นมันทำไมไม่รู้มันทำให้เรารู้สึกซึ้งใจ ไม่ว่าอะไรก็ตามทุกคนก็มีความเข้าใจและให้กำลังใจกันเสมอมา ไม่ต้องห่วงค่ะถ้าเศร้าเสียใจไม่ร้อง”
วอนอย่าพาดหัวข่าวให้เข้าใจผิด ยันร้องไห้เพราะซึ้งใจ
“ถามว่าข่าวนี้มีผลกระทบต่อเราไหม จริงๆ มันก็ไม่ได้มีผลกระทบกับความเป็นตัวตนของเราขนาดนั้น แต่เราเห็นบางอันก็เลยรู้สึกว่า เอ๊ะความจริงมันไม่ต้องมีก็จะดีกว่าไหม ถ้าเกิดว่าพาดหัวเช่นแบบว่า แอฟร้องไห้เพราะผู้ชาย หรือว่าแอฟยอมรับแล้วว่าทะเลาะกันแล้วก็ต้องขอโทษก่อนเสมอ ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตเรา อย่าพาดหัวแบบนั้นเพื่อให้คนเข้าไปอ่าน เขาอ่านก็จะมีอารมณ์เปล่าๆ แล้วมันก็ไม่มีอะไรจริงในนั้นเลย (ได้มีการคุยกับนนกุลไหม?) ไม่ได้ถึงขนาดต้องคุยกัน เราก็เห็นข่าวเห็นคอมเมนต์ก็อ่านของตัวเองค่ะ ไม่ได้คุยกันขนาดนั้น”
คิดอยากตอบกลับคอมเมนต์แต่กลัวไม่จบ เข้าใจว่าไม่สามารถทำให้ทุกคนรักเราได้
“เราก็ต้องยอมรับตรงๆ ว่า บางจังหวะก็อยาก แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวมันจะยิ่งไม่จบ สุดท้ายแล้วเราก็มีความเข้าใจว่า เราไม่มีทางที่จะทำให้ทุกคนรักและเข้าใจเราได้ ก็คงทำได้เท่าที่คนที่รักเราแล้วก็เปิดใจรับฟัง (ลงรูปจ้องตาหวานไปเลย?) ไม่ได้จำเป็น”
ถามว่ากับข่าวซีเรียสไหม คือถ้ามันเป็นประเด็นอะไรที่มันซีเรียส แล้วจะวิพากษ์วิจารณ์เรายอมรับฟังทุกความคิดเห็น แต่บางทีพอเป็นอะไรแบบนี้มันไม่ได้ซีเรียส แล้วไม่ได้มีมูลความจริงอะไรเลย บางคนพูดแรงแล้วก็ผ่านไป เรารู้ว่าเขาแค่เมนต์แค่นั้นแล้วก็ผ่านไป เราไม่เห็นประโยชน์ในการทำแบบนี้กับใครสักคน หมายถึงว่ากับคนอ่านด้วย กับตัวเราเองด้วย (มีจดชื่อไหม?) สมัยนี้เขาไม่จดชื่อแล้วเขาแคปไหม ไม่ฟ้องค่ะเอาไว้แผ่เมตตา”
