“นัท มีเรีย” แฮปปี้ กลับไปฉลองวันเกิดพ่อบุญธรรม 70 ปี ซึ่งเป็นการจัดงานวันเกิดครั้งสุดท้าย บอกที่ผ่านมาคุณพ่อชวนตนมาตลอดกว่า 13 ปี แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเพราะติดงาน ครั้งนี้เคลียร์คิวให้ว่างจึงได้ไปทริปนี้ ลั่นเป็นทริปเยียวยาจิตใจ ได้ไปทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ได้ทำ ชีวิตมีความสุข
หลังจากที่ประกาศโสดแยกทางอดีตสามี “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” ไปพักใหญ่ แต่หลายคนก็จับตาว่ายิ่งโสด ยิ่งสวยไม่เกินจริง สำหรับ “นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้” ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาอัปเดตงานที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพลง ละคร ส่วนทริปล่าสุดที่ไปเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์ ร่วมงานวันคล้ายวันเกิดคุณพ่อบุญธรรมในวัย 70 ปี หลังจากที่ไม่ได้ไปนานเป็น 13 ปี บอกแฮปปี้มาก
“งานตอนนี้ก็มีประมาณหนึ่ง แล้วก็มีคอนเสิร์ตอยู่บ้าง แล้วก็มีภาพยนตร์อยู่ในแพลตฟอร์มหนึ่ง ช่วงประมาณเดือน 7-8 ประมาณนี้ค่ะ ตอนนี้ถ่ายเสร็จแล้วค่ะรอกำลังตัดต่ออะไรอยู่ เป็นภาพยนตร์ใน Netflix เอาแค่นี้ก่อนได้แค่นี้ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าคนตาไวๆ เห็นอาจจะมีโปรโมตไปแล้วนิดนึง
ความน่าสนใจที่ทำให้รับเรื่องนี้ เพราะว่าหนึ่งเข้าทางค่ะนี่ใบ้แล้วนะ สองเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่ค่อยได้เห็นกันในภาพยนตร์ที่เห็นๆ มันแตกต่าง คาแรกเตอร์ก็มีความใกล้เคียงบ้างไม่ใกล้เคียงบ้าง แต่ว่ามีคำว่าเข้าทางแล้วกัน คำว่าถนัด
สำหรับภาพยนตร์ก็ห่างมาหลายปีเหมือนกัน หลายปีมากๆ ก็ต้องมีหลัก 10 เพราะว่าอยู่วงการมา 25 ปี เหตุผลที่รับงานน้อยเพราะว่าอาจจะจังหวะโอกาสมากกว่า คือก่อนหน้านี้มีติดต่อเข้ามาบ้าง แต่มันอาจจะยังไม่ตรงกับเรา เราไม่อยากนำเสนอในสิ่งที่เรารู้สึกว่ายังไม่ใช่ แต่อันนี้บังเอิญมันถูกทุกข้อก็เลยพอดี เราว่ามันอยู่ที่เวลาคือวันเวลาหมุนให้มาจูนเจอกันก็เลยเกิดเรื่องนี้เกิดขึ้น”
เผยยังรับงานละครอยู่ แต่ขอเป็นบทที่น่าสนใจและแสดงความสามารถออกมาได้
“อย่างงานแสดงก็ยังมี อย่างละครที่เล่นให้คุณแอน ทองประสม ไป ก็สักปีสองปีมา ก็ค่อยๆ มีแต่ก็ต้องให้มันเหมาะกับเราด้วย บางทีบางเรื่องมาบทก็ไม่ได้ง่ายที่บางคนอาจจะคิดว่าเราไม่เล่นหรือเปล่า บางคนอาจจะมองว่าเราไม่รับหรือเปล่า แต่จริงๆ ก็ยังรักวงการบันเทิงยังได้ทุกแขนงอยู่ แค่ว่าให้เหมาะแค่นั้นเอง
หลักในการรับงานคือชอบถูกใจ จริงๆ ไม่ต้องเป็นนางเอกคือตัวที่มีความสำคัญ จริงๆ อาจไม่ต้องเยอะก็ได้หรือว่าขอให้มันเป็นเรื่องราวน่าสนใจ มีความได้แสดงความสามารถอะไร หรือเรื่องที่มันแปลกใหม่แบบที่ไม่เคยเล่นอย่างนั้นก็ได้”
ปัดเฟดตัวออกจากวงการละคร
“เขาก็น่าจะเห็นเราเน้นไปทางร้องเพลง คนเห็นเราในทางออนสเตจมากกว่า เขาก็เลยอาจจะยังไม่ได้นึกถึง แต่ตอนนี้ก็ยินดีค่ะ ได้ทำงานเราก็อยู่วงการมานาน ก็เริ่มจากเล่นหนัง เล่นละคร พิธีกร ก็ทำมาทุกอย่างแล้วเหมือนกัน แต่แค่ว่าช่วงไหนที่เราได้ทำอะไรมากเป็นพิเศษเท่านั้นเอง”
แฮปปี้ไปร่วมงานวัดเกิดพ่อบุญธรรมที่สวิตเซอร์แลนด์
“ไปเที่ยวบ้านเกิดที่สวิตเซอร์แลนด์ แล้วพอดีมีวันเกิดของคุณพ่อบุญธรรม เขาบอกเขาจะจัดปีนี้ปีสุดท้ายแล้ว เขาจัดมาหลายปีแล้ว เหมือนแบบเพราะอายุ 70 เขาก็อยากจะแบบเลขสวยๆ แล้วปิดจ็อบไม่อยากจัดแล้ว ซึ่งเขาก็ชวนเราทุกปีเพราะว่าเขามาเมืองไทยทุกปี ปีละครั้งสองครั้งเขาก็ชวนทุกปีเลยว่าเราไปสวิตเซอร์แลนด์อีกนะ เราก็บอกได้ค่ะซึ่งผ่านไปเกือบ 10 ปีแล้วก็ยังไม่ได้ไปสักที จนเขาต้องบอกว่าปีนี้เราต้องมานะ ก็เลยได้ไปพอดีแบบเราก็เคลียร์งานได้พอดี
ไปในรอบ 13 ปีค่ะ บรรยากาศสวยมากมันเป็นบางเมืองที่เราก็ไม่เคยไป เราก็ได้ไปร่อนเครื่องร่อนที่มีคนนั่งด้วย เราก็บอกว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะต้องไปเล่นให้ได้ เราคิดว่าถ้าจะเล่นต้องไปเล่นที่สวิตฯ แล้วก็ได้ไปอากาศดีพอดีวันสุดท้ายที่อากาศดี ก็เลยได้ร่อนข้างบน สนุกมากลอยบนฟ้าสูงมาก ตอนแรกเขาบอกว่าว่างที่นึง พอไปถึงงานเขาบอกว่าว่าง 2 ที่ พอ 2 ที่ก็หาเพื่อนไม่มีใครเล่นเลย ถามฟ้าโปรด เขาบอกว่าไม่เล่น ซึ่งคุณครูที่เป็นเจ้าของเขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะพาขึ้นไป เขาบินมา 35 ปีแล้ว
แล้วเขาถามว่าอีกคนหนึ่งที่บอกว่า 2 คน ครูอีกคนนึงอายุ 25 บินมาแค่ 5 ปี ฟ้าโปรดเลยบอกให้เราไปเล่นกับคุณครูที่อายุน้อย ฟ้าพูดเอามาสเตอร์ไปเลย เขาเลยบอกก็ได้พอขึ้นไปก็เม้าธ์มอยมีความสุข เขา 9 ขวบเอง ซึ่งคนสวิตฯ เองเขายังบอกไม่กล้าเล่นเลย ก็คืออากาศมันดีด้วยมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อยากให้ทุกคนได้ลองประสบการณ์ใหม่ๆ มันค่อนข้างปลอดภัย มันไม่ได้ร่อนแบบหวือหวา มันไม่ได้เล่นแบบไวกิ้งมันลอยไปบนท้องฟ้าอิสระเหมือนอยู่กับนก มันได้ความอิสระเรียกว่าทำอะไรที่มันข้ามขีดจำกัดของเราที่เราคิดว่าความกลัว ซึ่งมันจะกลัวตอนที่เราเริ่มต้นเราจะคิดไปเองว่ามันจะต้องอย่างนี้อย่างนั้น เขาบอกให้เราวิ่งไปแบบนี้ พอลอยไปแล้วให้วิ่งถี่ๆ อีกสักหน่อย พอเราถึงปุ๊บก็ให้เรานั่งลงไปที่เบาะเหมือนนั่งเก้าอี้นั่งลอยสวยๆ
ดูสดใสเต็มอิ่มกับบรรยากาศ พร้อมเดินหน้าสู้กับงาน อากาศดีเต็มอิ่ม แล้วก็อาหารด้วย อยู่เมืองไทยไม่ค่อยได้กิน อยู่เมืองไทยก็กินอาหารแบบคลีนๆ หน่อย กินผักเยอะๆ แต่พอไปโน่นได้ขนมปังได้ชีสก็เลยเอ็นจอยหน่อย สวิตฯ อะไรอร่อย ก็เป็นฟองดูว์ชีสช็อกโกแลต ของเขาจะขึ้นชื่อ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีอะไรน่าเที่ยวเยอะ แล้วก็ไปดูหมี ถามว่าอยากไปอีกไหม ไว้ก่อนก็ได้ค่ะ เบรกก่อนสัก 2-3 ปีค่อยไป”
ขอเดินหน้าโฟกัสความสุข
“ไปรอบนี้เหมือนไปจอยจริงๆ ได้ไปเที่ยวเหมือนได้ไปพักผ่อน ไม่ได้ไปทัวร์ ไปกันเองขับรถเอง มีได้เจอญาติ ได้เจอคนรักๆ มันเป็นเอเนอร์จี้ที่ดี จริงๆ ถ้าเรามีโอกาสแค่ได้ไปเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลกนี้ หรืออาจจะเป็นที่ที่คุณอยู่อาจจะเปลี่ยนที่เปลี่ยนจังหวัดเจอภูเขาเจอต้นไม้เราว่าธรรมชาติเยียวยาเราได้ มันเหมือนแค่เราไปเสพไปทำตัวเบาๆ ง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรที่ไหนก็ดีหมด
ตอนนี้เหมือนโฟกัสความสุขของตัวเองไหม โฟกัสความสุขเดินหน้า มันเหมือนทุกคนจริงๆ ก็ต้องเป็นแบบนี้กันอยู่แล้ว เราก็ไม่ต้องมานั่งคิดอะไรมาก เราคิดแค่ว่าวันนี้ปัจจุบัน เราว่าปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญแต่คนแค่ลืม แค่เราเตือนบ่อยๆ ว่าถ้าเราอยู่กับปัจจุบันโมเมนต์นี่แหละที่สุดแล้ว
กับเพื่อนๆ หลายคนต้องเทคแคร์มากขึ้นไหม จริงๆ แอนกับเราติดต่อกันตลอดอยู่แล้ว ล่าสุดไปทานข้าวกันก่อน แล้วเราก็ไปต่างประเทศ ตอนนี้แยกย้ายกันเที่ยวนะ เหมือนไปเที่ยวแล้วกลับมามีความสุข”
