“ลอร์ด สยม” ยอมรับรายได้ละครพื้นบ้านน้อยลง แต่ไม่ถอดใจ ยืนหยัดจะสู้ต่อไป

“ลอร์ด สยม สังวริบุตร” สปอยแฟนๆ อย่าพลาดตอนจบละครพื้นบ้าน แม่ปลาบู่ ให้รอดูผลบาป-ผลบุญของตัวละคร แย้มเรื่องต่อจากนี้จะเป็นละครพื้นบ้านใหม่ๆ แบบที่ทุกคนเรียกร้อง แต่ยังคงกลิ่นอายละครพื้นบ้านไว้ เผยได้รับผลกระทบรายได้หดหาย แต่ไม่ท้อ เข้าใจยุคสมัยความเป็นไปของวงการโทรทัศน์ จะยืนหยัดทำตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ

มาร่วมงานเป็นวันวิสาขบูชาที่วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐมทุกปี เพื่อเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์ สำหรับ “ลอร์ด สยม สังวริบุตร” กรรมการผู้จัดการบริษัทดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น บริษัทในเครือของดาราวิดีโอ จึงได้มีโอกาสอัปเดตละครพื้นบ้าน แม่ปลาบู่ ที่ถูกพูดถึงอยู่ไม่น้อย โดยปัจจุบันละครพื้นบ้านของบริษัทสามเศียร นอกจากจะออกอากาศที่ช่อง 7 แล้วยังสามารถดูได้ที่ยูทิวบ์ช่อง samsearn official อีกด้วย โดย ลอร์ด สยม ได้พูดถึงกระแสละคร แม้ปลาบู่ ว่า…

“ละครแม่ปลาบู่ เดินทางมาถึงครึ่งเรื่องแล้ว ฟีดแบ็กค่อนข้างดี อยากให้ชมช่วงท้าย ดูผลบาปและผลบุญของตัวละครในเรื่อง ในแง่ของละครจักรๆ วงศ์ๆ หรือละครพื้นบ้านเรามักจะเวียนเรื่องทำบางเรื่องที่เด็กไม่ได้ดูกันมานานแล้วอย่างเรื่อง 4 ยอดกุมารก็กำลังจะเวียนกลับมา อย่างตอนนี้เราเวียนเรื่องแม่ปลาบู่กลับมา จริงๆ ก็คือเรื่องปลาบู่ทอง มันเป็นละครที่ให้ความรู้สึก ให้ชีวิต เพราะเราทำละครบู๊ ระเบิดกันมามากแล้ว กลัวผู้ชมจะเบื่อ ก็เลยเปลี่ยนรสชาติละคร และในเรื่องต่อๆ ไปเราก็ต้องเปลี่ยนอารมณ์เหมือนกัน

ละครพื้นบ้านที่เวียนมาทำ แต่ละเวอร์ชั่นก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เราไม่ได้ไปคัดลอกจากของเดิมมา 100% แต่ละครั้งเรานำมาเขียนใหม่หมดเลยเพราะเราอยากให้บทเป็นไปตามยุคสมัย เวอร์ชั่นเดิมการเดินเรื่องจะช้าหน่อย ปัจจุบันการเดินเรื่องจะกระชับขึ้นและมีเหตุผล แฟนๆ ติชมอะไรมาเราก็นำมาปรับปรุง เราไม่ได้ทำละครในแบบที่เราอยากทำ เราทำละครเพื่อผู้ชมว่าเขาอยากชมอะไร แบบไหน เราจะทำมันออกมา แต่เราก็ยังคงคอนเซ็ปต์ละครพื้นบ้านอยู่ กลิ่นอายละครพื้นบ้านจะไม่หายไป”

ละครพื้นบ้านเรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้ชมกันมาก่อนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชม
“มีผู้ชมถามมาว่าทำไมไม่ทำเรื่องใหม่ๆ บ้าง เดี๋ยวเรื่องหน้าจะได้ชมแล้ว เราทำเรื่องใหม่กันมาก็กำลังทำกันอยู่ เราไม่อยากให้ละครพื้นบ้านตายหรือหายไป ถ้าจะบอกว่าต้องอนุรักษ์ละครพื้นบ้านก็แสดงว่ามันใกล้จะตายแล้ว แย่แล้ว เราต้องร่วมกัน ช่วยกันครับ ทำของไทยๆ เพื่อให้คนไทยได้ดูกัน ผมก็ยังจะทำ จะยืนหยัดทำตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ มีละครใหม่ๆ ที่เรายังไม่ได้ทำอีกเยอะ โดยเฉพาะเรื่องหน้าเราก็ทำตอบสนองผู้ชมที่อยากดูแนวใหม่ๆ บ้าง”

แม้รายได้จะไม่เหมือนเดิมแต่ก็ไม่ท้อ เพราะเข้าใจสภาพเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของโลก
“รายได้ละครพื้นบ้านในยุคนี้เอาตรงๆ ว่าแตกต่างกันมาก เราก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้เรียกว่าทั้งวงการเราก็ต้องสู้ คุณพ่อทำมานานแล้ว พอถึงรุ่นเราก็ต้องสู้ต่อไปเพื่อจะทำออกมาให้ดี เราทำอยู่และจะยังทำต่อไปครับ รายได้น้อยก็ไม่ถอดใจครับ เราเข้าใจบ้านเมือง เข้าใจเศรษฐกิจที่เป็นอยู่มันเป็นแบบนี้รวมถึงเศรษฐกิจโลกด้วย โลกมันเปลี่ยนไป เราก็หมุนตาม ระบบโทรทัศน์เปลี่ยน มีออนไลน์ เราก็ทำทั้งโทรทัศน์และออนไลน์ควบคู่ให้มันกลมกลืนเข้าหากัน”