“พีช พชร” เผยยังเหลืองานวิจัยเพื่อจบ ปีหน้าเตรียมรับปริญญาโท ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ได้เจอคนหลากหลายมากขึ้น ได้แลกเปลี่ยนความรู้ ได้นำมาปรับใช้กับธุรกิจตัวเอง เตรียมดันธุรกิจร้านข้าวซอยให้กลายเป็นอาหารไทยอีกเมนูที่คนต่างชาติได้รู้จักเพิ่มขึ้น
ช่วงนี้อาจจะเห็นหน้าค่าตาไม่บ่อยนัก สำหรับพระเอกหนุ่ม “พีช พชร จิราธิวัฒน์” เพราะทั้งธุรกิจที่ทำอยู่ และต้องบินไปกลับที่ประเทศอังกฤษ เพราะเจ้าตัวกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้าน Majer Programme Management ที่ University of Oxford ซึ่งล่าสุดหนุ่มพีชมาร่วมงาน Webull Money Festival 2025 ณ โซน Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็เผยว่าปริญญาโทตอนนี้ยังเหลืองานวิจัย และปีหน้าก็เตรียมรับปริญญาแล้ว
“จริงๆ ยังเหลืองานวิจัยเพื่อจบอีกครับ ยังอยู่ระหว่างการรีเสิร์จงานวิจัยครับ เกือบ 2 ปีที่ผ่านมาก็เหนื่อย แต่ก็ดี ได้ประสบการณ์ใหม่ ได้เจอคนที่เขาหลากหลาย แบ็กกราวด์บางคนเราอาจจะไม่ได้เจอประเทศเรา บางคนเขาได้ทำงานในสาขาอาชีพอื่นที่มันน่าสนใจ เราก็ได้เรียนรู้จากเขา ก็หวังว่าจะได้เอาความรู้กลับมาใช้ประโยชน์ครับ จริงๆ ก็ไม่ได้เชิงเป็นนักธุรกิจทั้งหมด เพราะผมศึกษาด้านเชิงการจัดการ ก็จะมีคนที่จัดการในเรื่องอื่น อย่างเช่นเรื่องการจัดการรถไฟ เราก็จะได้พอเข้าใจว่าการก่อสร้างเป็นยังไง ขั้นตอนต่างๆ มันก็ดีสำหรับเรา เราได้เรียนรู้จากมุมมองที่มันหลากหลายก็มีประโยชน์ครับ
ถ้าช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้คิดว่าเป็นช่วงที่หนักที่สุดเลย เพราะทำหลายอย่างพร้อมกัน แต่ก็สนุก ได้รู้จักคนเยอะ ได้เจออะไรที่แตกต่าง อย่างเราทำงานที่ทำอยู่ปัจจุบัน ทั้งงานแสดงหรืองานออฟฟิศมันก็เป็นแบบที่เราชินแล้ว แต่พอเราเปลี่ยนก็เหมือนเรากลับไปเรียนหนังสือใหม่ ก็แปลกดี ถ้ารับปริญญาก็เป็นปีหน้าครับ”
บอกอยากให้เมนูข้าวซอยกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูของไทยให้คนต่างชาติได้รู้จักมากขึ้น
“ธุรกิจตอนนี้มี POTATO CORNER แล้วก็มีร้านข้าวซอยโซ-อิ Khao-So-i ตอนนี้เราเปิดเป็นป๊อปอัพครับ แต่เราจะเปิดเป็นร้านจริงๆ คิดว่าน่าจะช่วงเดือนกันยายนนี้ครับ ผลตอบรับดีครับ จริงๆ ทางทีมเราไม่ได้คาดคิดว่าจะมีการต่อคิวยาวขนาดนี้ ทำให้คนต่างชาติเข้าใจอาหารไทยได้ ผมว่ามันก็เป็นความภาคภูมิใจของเรา ว่ามันไม่ใช่แค่ผัดไท ไม่ใช่แค่ส้มตำที่ไปได้ แต่ตอนนี้มันมีเมนูเพิ่มเติมของเราที่มันเพิ่มเข้าไปได้ในวงกว้างขึ้น คนสามารถเข้าใจข้าวซอยได้ ผมว่ามันเป็นสเต็ปที่ดีสำหรับอาหารไทย และหวังว่าจะมีอาหารไทยอย่างอื่นที่ไปได้อีก”
