xs
xsm
sm
md
lg

นึกถึงใจผัวเขาด้วย! “อั้ม อธิชาติ” ฉะคนกุข่าวมั่วซุ่มคบ “เมย์ วาสนา” ย้ำโสดสนิทวันนี้ไปยันอนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อั้ม อธิชาติ” วอนสื่อหยุดโยงข่าวมั่ว ยัน “ไฮโซเมย์ วาสนา” แค่เพื่อนร่วมธุรกิจ บอก “มดดำ คชาภา” รู้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าเมย์คนไหนก็ไม่ใช่แฟน จะพูดอะไรนึกถึงผัวเขาด้วย ฟาดแรงคนจับผิดเสียงคนในคลิป บอกสอนหมาเขายังฟัง เขายังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ย้ำสถานะโสดสนิทไปยันอนาคต

ตั้งแต่เลิกรากับอดีตภรรยาอย่าง “นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้” ก็มีข่าวกับสาวๆ ทั้งในและนอกวงการออกมาให้จับตามองอยู่ตลอด สำหรับพระเอกหนุ่มกล้ามล่ำ “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” ล่าสุดอั้มลงคลิปในโซเชียล ก็มิวายโดนจับผิดว่าเสียงผู้หญิงปริศนาในคลิปนั้นใช่เสียงของ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” หรือเปล่า

ล่าสุด อั้ม อธิชาติ มาร่วมงาน “Good Health Great Heart เฮลธ์ตี้ทั้งตัว หัวใจแฮปปี้” ณ โรงพยาบาลพญาไท 3 เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงกรณีดังกล่าว พร้อมเคลียร์ข่าวลือเรื่องมือที่ 3 “เมย์ วาสนา อินทะแสง” ว่า เป็นเพื่อนร่วมงานกัน ซึ่งมดดำ คชาภา ก็รู้ตั้งแต่แรกแล้ว

“จริงๆ ก็เป็นสิ่งที่เราก็อยากพูด พี่เมย์ก็อยากพูด เพราะว่าอะไรข่าวที่ลือกันไปจนแบบมี 1 อย่างนี้ แต่ลือกันไป 8-9-10 ใช้คำที่ว่าฉันรู้ว่า ฉันแน่ใจ ฉันมั่นใจ ซึ่งเราก็บอกทุกครั้งแล้วว่าความจริงมันคือเท่านี้ มีอะไรมาพิสูจน์กับเรา ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรที่จะมาพิสูจน์ ซึ่งเราก็บอกว่ามันเท่านี้ อย่างพี่มดดำ (คชาภา ตันเจริญ) ก็จะรู้จัก เพราะว่าเราก็ต่างทำงานด้วยกัน ก็เจอกันในบางงาน ก็คุยกันก็เท่านั้นเอง

จะเรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน แล้วเป็นโรงงานซึ่งเราผลิตอาหารเสริม เราก็ต้องคุยกับโรงงานหลายที่อยู่แล้ว เพื่อดูว่าเราเหมาะกับอะไร แล้วโจทย์ของโรงงานในแต่ละที่อะไรที่ตอบโจทย์เราได้บ้าง แล้วก็อย่างที่บอกเราก็คุยงานกันในระดับปกติ มดดำก็จะรู้ตั้งแต่ต้น เพราะตอนที่มีข่าว มดดำก็ยังบอกเลยว่ามาอีกแล้วข่าวพวกนี้ คือเขาก็ดูอยู่ทุกขั้นตอน”

เผยข่าวกระทบคนรอบข้าง เป็นแค่เพื่อนร่วมงานในธุรกิจ บอกอยากเห็นสื่อออกมาขอโทษกับเรื่องที่ไม่จริงบ้าง
ที่บอกว่ามีข่าวมันไม่กวนใจ แต่พูดแล้วไม่จบ พูดแล้วไม่ฟัง มันเดือดร้อนคนอื่น แล้วเราก็ต้องบอกว่าในยุคนี้เป็นยุคที่มีข่าวสารกันขนาดนี้ เรายังฟังเรื่องเล่านินทาและพูดต่อๆ กันจนกลายมาเป็นเรื่องสนุกอยู่อีกหรือ โดยเฉพาะสื่อในยุคนี้ เราก็ต้องบอกว่าเรามีเครื่องมือมากมายในการใช้ ถ้าอะไรที่มันไม่ถูกเราก็อยากให้สื่อได้ขอโทษบ้าง คนพูดได้ขอโทษว่าฉันเข้าใจผิดนะ เรื่องนี้ฉันพูดไปโดยฉันไม่รู้ เราอยากให้มันเกิดเรื่องราวแบบนี้ในสื่อบ้าง เพราะว่าอย่างที่เราบอก เรามีสื่อที่มันเป็นท็อกซิกเยอะ คำพูดคนก็เยอะ ฉะนั้นเราก็มองว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งที่เราอยากจะไปลดในส่วนนั้น เช่นตัวเราเองสังเกตได้ว่าปกติเวลาเราจะมีเรื่องอะไรเราจะไม่พยายามเอาอะไรที่ไม่ดีไปใส่”

วอนสื่อหยุดโยงข่าว บอกมั่วไปหมดแล้ว
“ไม่ได้มีการสนิทสนมอะไรเกินไป เพราะจริงๆ ก็ต้องบอกว่าในการคุยงานทุกครั้งเราอยู่ท่ามกลางคนมากมาย เพราะฉะนั้นเราก็ค่อนข้างระวังตัว ไม่เคยอยู่สองต่อสอง มดดำก็จะรู้ดี เราประชุมงาน 10 กว่าคน แต่บางคนที่ลือไป เอาภาพแค่ 2 คนในระหว่างประชุมงานที่นั่งกันอยู่ 10 คน ถามว่าถ่ายกล้องแค่นี้แล้วเห็น 2 คน แล้วก็ไปลือกันมันถูกต้องหรือเปล่า

มันก็เชื่อมกันจนมั่วไปหมด เราต้องบอกอย่างนี้ไม่ว่าจะเป็นข่าวของคุณเมย์เองก็ตาม รวมถึงไม่ว่าจะเป็นข่าวช่วงที่แล้วที่นักข่าวเจอเราก็สัมภาษณ์เรื่องเพื่อนเรา วันนี้ผัวเขาก็เลยมาด้วยเลย เขาก็มาเยี่ยมแหละเขามาทำงาน เป็นอีกหนึ่งที่โดนโยง ก็บอกแวะมาเจอหน่อย เขาเนี่ยก็คือเป็นผัวเป็นเมียตามปกติเลย แวะมาเยี่ยมมาทักทาย”

บอกคนโฟกัสเสียงจนไม่ดูหมาแล้ว
“คืออย่างนี้เราทำเพจสุนัข และเราก็อยากแชร์ข้อมูลสุนัข ซึ่งมันก็ต้องมีคนพากย์ แล้วคนพากย์ก็พากย์มาตั้งแต่ตอนที่พี่ไปน้ำท่วม พากย์ไปทุกอย่าง ซึ่งก็เป็นผู้ช่วยของเรา เป็นผู้ช่วยคุณมดดำ รู้จักกันมาเกือบ 20 ปีได้มั้ง ทุกคนก็จะบอกว่าเอ๊ะเสียงนี้คุ้นๆ นะ เสียงคุณเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ หรือเปล่า ฉันว่าใช่แน่ๆ เลย ไม่ดูหมาเลยนะ ฟังแต่เสียงอย่างเดียว ซึ่งทุกอย่างเราเขียนไว้หมดตั้งแต่ข้อความ บางคนเข้าใจผิด เราก็เข้าใจได้ เราก็เขียนบอกเป็นใคร บางคนยังเข้าใจผิดก็ถ่ายคลิปให้ดูว่าอันนี้เป็นคนนี้นะอย่าไปพาดพิงคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องก็ยังเข้าใจผิดอยู่

และสิ่งที่สำคัญที่เราเห็นคนเข้าใจผิดก็ส่วนหนึ่ง แต่สื่อนี่แหละ สื่อที่เขาเข้าใจผิด เนื้อข่าวไม่มีอะไรเลย มาขึ้นพาดหัวให้มันน่าสนใจเมียใหม่ อั้ม อธิชาติ พาดเพื่อเรียกเอนเกจเมนต์ แต่ในเนื้อข่าวไม่มีอะไร แล้วอย่างคราวนี้ผู้ช่วยเราก็ชื่อเมย์เหมือนกัน เขาก็บอกว่าฝากคำนึงถึงนักข่าวหรือคนที่ลงข่าวจะพาดหัวอะไรนึกถึงผัวที่บ้านเขาด้วย เขาก็เดือดร้อนตรงที่ว่าผัวเขาก็ต้องโดนเพื่อนมาถาม แล้วก็ต้องมานั่งตอบ ต้องบอกว่าในเนื้อข่าวที่เขาลงมันไม่มีอะไรแต่ถ้าไม่มีอะไร พาดหัวให้มันไม่มีอะไรได้ไหม”

บอกควรใส่ใจเรื่องที่มีประโยชน์มากกว่าข่าวลือ
“คือคนสนใจน้องหมาก็มีเยอะแหละ เราก็เลยบอกว่าดูหมาให้เป็นหมาเนอะ ดูสุนัขให้เป็นสุนัข ให้ดูว่าสุนัข เราสอนเขายังฟัง เขายังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เราเป็นมนุษย์เราดูหมาเอาข้อมูลไปใช้ไหม เลี้ยงหมาแล้วเป็นยังไง ซึ่งก็บอกว่าในข้อมูลที่เราดู เราทำเพจหมาเราก็ฟังคนอื่นนะ บางคนแนะนำว่าต้องเลี้ยงแบบนี้ ให้อาหารแบบนี้ เราก็รับฟัง แต่ที่มันไม่น่าฟังก็ต้องบอกว่าก็ไปดูที่อื่น เราต้องบอกว่า ณ ปัจจุบันนี้เรื่องราวพวกนี้มันไม่ได้มีประโยชน์ เรื่องราวที่เราควรใส่ใจและเราควรพูดถึงที่มันมีประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อสังคม ต่อสิ่งรอบข้าง ให้นำความคิดเห็นเราที่มันเกิดขึ้นไปเกิดประโยชน์ให้มันมีอีกเยอะ พวกนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เช่นนั่งถกเถียงกันว่าเสียงใคร ใช่แน่ๆ เลย เมียแน่ๆ ฉันคอนเฟิร์ม”

ไม่กังวลคนจับตาความสัมพันธ์อยู่ใกล้ใครคนนั้นเป็นข่าว
“ไม่กังวล มันเลี่ยงไม่ได้ ถ้าถามว่าสมมติว่าเราไม่มีคนรอบข้างเป็นผู้หญิง รอบข้างเป็นผู้ชายจะมองว่ายังไง พี่อั้มบาร์โฮสแน่นอน พี่อั้มเป็นเกย์แน่นอน ไม่อยากมีเสน่ห์ อยากให้มีความเข้าใจกัน เข้าใจผิดได้นะเราไม่ว่าแต่เข้าใจผิดแล้วแก้ให้ด้วย ไม่ใช่พอเขาแก้แล้ว ไม่สนใจ ก็ไปข่าวอื่นแล้วนะ คำขอโทษไม่เคยมี ซึ่งเราต้องบอกว่าเราเป็นสื่อกันนะ เราเจอกันมาตั้งแต่เด็กๆ ในยุค 90 เรามีอะไรเราก็ขอโทษกันได้ เราผิดเราก็ขอโทษ เราพลาดเราก็ขอโทษนะ ฉะนั้นนักข่าวรุ่นเก่าก็จะมีวันนี้เราพลาดเราขอโทษ เราอยากให้มีแบบนี้ เพราะทุกวันนี้สิ่งที่เราเห็นคืออะไร ที่มันไม่ใช่ในแบบที่คุณคิดก็จะย้ำเรียกคนมา สุดท้ายแล้วมันเกิดอะไรขึ้น มันเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันตลอดเวลาในสังคมมันไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีเลย เราอ่านเรายังเหนื่อยเลย”

ข่าวลือไม่ส่งผลกระทบธุรกิจ
“ถ้าโดยหลักของการขายไม่มี เพราะว่าจริงๆ อย่างที่เราบอกเราไม่ได้ทำอะไร ทุกอย่างเราสามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน ถ้าเกิดเรามีอะไรเราก็จะบอกว่าอันนี้เข้าใจผิด อันนี้ความผิดเรา เรายอมรับ แต่อันนี้มันไม่ใช่ แล้วอีกอย่างหนึ่งคือพวกนี้มันเป็นเรื่องที่คนเข้าใจตีความกันไป ผู้ช่วยเราเขาอยู่ตรงนี้ ญาติคนที่เขาเข้าใจผิดเขาก็มาตรงนี้ คุณเมย์ที่มีข่าวเขาก็บอกไปแล้วว่ามันไม่มีอะไร เพราะถ้าวันนี้เรามีเราคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ เราคงเล่าให้เราฟังแล้วว่าคนนี้ใช่คนนี้ไม่ใช่”

ลั่นไม่ว่า “เมย์” คนไหนก็ไม่ใช่แฟน
“ถ้าใช่ก็จะบอก ไม่ต้องลือ ไม่ต้องบอกว่าฉันรู้ดี ฉันอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะสิ่งที่พี่บอกว่าพี่เองไม่ได้อะไรเท่าไหร่ แต่บางทีคนอื่นเขาเดือดร้อน ครอบครัวเขาล่ะคนนี้ก็ต้องมานั่งตอบล่ะ อาจจะคิดเป็นเรื่องสนุกนะแต่ในใจเราลึกๆ เขาโดนผลกระทบ เขาสนุกหรือเปล่า คนลือมันลือกันสนุก คุณแค่สนุกในการพูด แต่คนอื่นที่ต้องได้รับผลมันมีหรือเปล่า

เป็นห่วงคุณรอบข้างเหมือนกัน จริงๆ ก็เป็นห่วงทุกคนแหละ เราก็มองว่ามันก็เป็นห่วงสังคมอย่างหนึ่งด้วยตรงที่ว่าเรื่องราวแบบนี้มันจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ หรือเปล่าในสังคม มันไม่ใช่แค่เรื่องพี่เราเห็นในทุกวันนี้ถูกไหม เรื่องผัวเมีย เรื่องลือมันกลายเป็นว่าเมื่อเห็นที่ไหนปุ๊บมันจะเหมือนกันทุกอย่าง ไปขยุ้มอยู่ตรงนั้น นักข่าวต่างๆ ที่มีมากมาย วันนี้มันน่าจะเป็นเรื่องแผ่นดินไหว อุบัติภัยต่างๆ มันเกิดขึ้นมากมาย มันใกล้กับชีวิตเรามาก เรื่องนี้เราควรจะต้องพูดถึงกันมากกว่าหรือเปล่า เรื่องนี้พูดเสร็จปุ๊บมันช่วยเราได้ไหม มันช่วยครอบครัวเราได้หรือเปล่า แล้วควรจะใส่ใจมากกว่าเรื่องคนอื่นไหม”

ย้ำสถานะยังโสดสนิท
“โสดสนิท (หัวเราะ) คืออย่างนี้เมื่อวานก็โสดเนอะ วันนี้ก็โสด พรุ่งนี้ก็โสด อดีต ปัจจุบัน อนาคตพี่ตอบครบแล้ว เมื่อวานก็ไม่มีใคร วันนี้ก็ไม่มี พรุ่งนี้ก็ไม่มี แต่ไม่ต้องถามแล้วอนาคตล่ะ อนาคตเราตอบแล้วพรุ่งนี้เราไม่มี”



























กำลังโหลดความคิดเห็น