กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าในโลกออนไลน์ หลังจาก “บีเบล” ยูทูบเบอร์ล้านซับ เจ้าของช่อง BeBell วัย 26 ปี ได้ออกมาโพสต์ภาพอัลตราซาวด์ ประกาศเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
-บีเบลขอความร่วมมือ ไม่พูดหรืออธิบายอะไรเกี่ยวกับฝ่ายชายหากไม่จำเป็น จะเดินหน้าต่อโดยไม่กล่าวโทษใคร อยากโฟกัสที่ตัวเองและลูก
-ในติ๊กต๊อก บีเบลเผยว่า คนที่บอกจะไม่ทำให้เราเสียใจในวันแรก กลายเป็นคนที่ทำให้เราเสียใจที่สุด ถึงเวลาต้องยอมปล่อยบางอย่างเพื่อมีความสุข และสิ่งที่มีค่ากว่า
-บีเบลอัดคลิปเล่าไทม์ไลน์การตั้งครรภ์ และพ่อของลูก ยอมรับท้องตั้งแต่ต้น ก.พ. พยายามใช้ชีวิตปกติ แต่เบื้องหลังแสนสาหัส เพราะกำลังตั้งครรภ์
-ตัดสินใจเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ส่วนพ่อของเด็กรู้จักมาช่วงเวลานึง เป็นคนสนิทกันมาก่อน พัฒนาความสัมพันธ์ทีหลัง อาจไม่ได้เปิดตัว เรามีเหตุผลของเรากับเขา ไม่พร้อมเปิดตัวกัน
-เขาอายุน้อยกว่า ตอนคบกันเบลมีความสุขดี จนรู้ว่าเบลตั้งครรภ์ ก็ตัดสินใจจบความสัมพันธ์ เราได้ลองใช้ชีวิตในพาร์ตกำลังจะเป็นครอบครัว
-เบลได้รู้ตัวว่าเขามีความคิดไม่ตรงกับเบลเลย เราเข้าใจไม่ตรงกันเลยสักเรื่อง
-เขาไม่มีความพร้อมในบทบาทครอบครัว
-เบลเหนื่อยและท้อมากในช่วงเวลานั้น
-ครั้งสุดท้ายที่ตัดสินใจเดินออกมา มันมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมสำหรับคนที่กำลังตั้งท้อง กระทบจิตใจและร่างกาย ทำให้เลือกตัดสินใจออกมา
-พยายามสุดๆ ในฐานะคนที่รักกันทำแล้ว และในฐานะคนที่กำลังเป็นแม่ เลือกโฟกัสลูกมากๆ เพราะทุกอย่างส่งผลกระทบถึงลูก ทั้งความเครียด ความเสียใจ เป็นช่วงเวลาที่ทรมาน
-ที่ผ่านมา ครอบครัวเบลและเขาได้รู้เรื่องนี้ ตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ก็บอกพ่อแม่ตัวเอง และให้เขาไปบอกพ่อแม่เขา
-ไม่ได้รับผลตอบรับจากครอบครัวเขา เหมือนที่เราควรได้จากครอบครัวของแฟน เราได้คุยกันหลายครั้งว่าเราสองครอบครัว
-ล่าสุดเขาและครอบครัวไม่ได้ตัดสินใจอย่างชัดเจน
-พ่อเบลติดต่อฝ่ายชายถามเรื่องความรับผิดชอบและค่าใช้จ่าย จะแบ่งกันอย่างไร พ่อเบลเสนอไปให้กับทางพ่อของเขา ทางนั้นปฏิเสธว่าไม่มีอะไรจะคุยกันแล้ว
-พ่อเบลก็พิมพ์ไปหาเขาอีก ก็ไม่มีการตอบกลับอะไรอีกเลย
-ผู้ชายก็ไม่ได้ติดต่อเบล
-เบลกับครอบครัวเหนื่อยมากๆ แล้ว พยายามเปิดอกคุย คุยตรงไปตรงมา ครอบครัวเบลใจเย็นมากๆ เบลรู้สึกแย่แทนพ่อแม่ ลูกสาวโดนแบบนี้แต่ก็ต้องใจเย็น
-วันนี้เบลกับครอบครัว เลือกปล่อยวาง ไม่อยากอะไรกับเขาแล้ว ทั้งผู้ชายและครอบครัว
-การรับผิดชอบเรื่องแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องไปร้องขอ
-ที่ปิดเรื่องการตั้งท้อง หวังว่าฝ่ายชายจะรับผิดชอบ ระหว่างเราจะมีอะไรดีขึ้น แต่สุดท้ายเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดของเบล ค่อนข้างทำร้ายจิตใจเบลมากๆ ช่วงเวลาที่เบลคาดหวังกับตรงนั้น
-ทนไม่ไหวแล้ว ก็เลยเดินออกมาดีกว่า มันส่งผลถึงเด็ก ทั้งอารมณ์ ความเครียดต่างๆ ไม่อยากให้ตัวเองและลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น
-ที่เบลบอกทุกคน แค่อยากให้รับรู้ว่าเราตั้งครรภ์ ชีวิตหลังจากนี้เราจะเปลี่ยน เบลอยากให้ลูกมีตัวตนในชีวิตเบล ไม่ได้อยากจะปิดเขาไว้ แล้วตัวเองใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไร อยากให้เขาเป็นพาร์ตนึงในชีวิต ไปเที่ยวไปไหนด้วยกันได้ตามปกติ
-ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
-ตอนนี้มีความสุขดี ทุกคนซัปพอร์ตดีมาก เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ไม่เป็นไร มีความสุขดีกว่า ดีใจที่คนรอบข้าง และครอบครัวเข้าใจกับสิ่งที่เบลตัดสินใจออกมา
-มันยากกว่าจะผ่านมาได้ แต่ก็ผ่านมาได้
-การออกมาจากตรงนั้น แฮปปี้มาก วันที่โพสต์ไอจี เหมือนปลดล็อก ในที่สุดจะได้ใช้ชีวิตของเบลสักที
-เรื่องฝ่ายชาย ไม่อยากไปเจาะจง หรือพูดรายละเอียดถึงเขา เพราะเชื่อว่าใครทำอะไรไว้ก็รู้อยู่แก่ใจ ถึงเขาจะคิดได้ คิดไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องของเบลแล้ว เพราะเบลปล่อยเขาไปแล้ว จากนี้โฟกัสแค่ลูก
-หวังว่าชีวิตของเบลจะเป็นบทเรียน หรืออุทาหรณ์ให้ทุกคน จะเป็นคนที่เข้มแข็งต่อไป
-เรื่องดังกล่าว กลายเป็นประเด็นร้อนจนขึ้นเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) มีการขุดและเปิดหน้าฝ่ายชาย เชื่ออีกฝ่ายกำลงจะเดบิวต์เป็นศิลปิน
-หลังบีเบลประกาศเรื่องดังกล่าวในวันที่ 5 พ.ค. เป็นวันเดียวกันค่ายเพลงแห่งหนึ่ง ประกาศยุติบทบาทของเด็กฝึกหัดในค่าย ให้เหตุผลอีกฝ่ายมีความรับผิดชอบส่วนตัวที่ต้องไปจัดการอย่างเร่งด่วน มีผลตั้งแต่ 5 พ.ค. เป็นต้นไป
-มีการโยงว่าหนุ่มรายดังกล่าว คือพ่อของเด็กในท้องบีเบล
