xs
xsm
sm
md
lg

“ทับทิม” รับโมโหแทน “ไทด์” คนสะกิดทักมากับลูกสาว! ฝ่ายชายเผยไลฟ์สไตล์เปลี่ยน คบเด็ก ห้ามทำตัวแก่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ไทด์ เอกพันธ์” ยอมรับว่ากังวลเรื่องอายุ เพราะเดินไปด้วยกัน แต่มีคนสะกิดว่าลูกสาวสวยจัง บอกไลฟ์สไตล์เปลี่ยนตั้งแต่มาคบเด็ก ขอบคุณทุกคนที่เชียร์ให้แต่งงาน ลั่นต้องสร้างรากฐานให้มั่นคงก่อน เพื่อดูแล “ทับทิม” และครอบครัวโดยที่ไม่ต้องลำบาก หากผิดพลาดอะไรมาทับทิมจะเสียหาย ส่วนตนผ่านอะไรมาเยอะแล้ว ด้านทับทิม รับโมโหแทน ไทด์ถูกทักมากับลูก ลั่นให้บอกไปเลยว่าเป็นแฟนกัน

ควงคู่กันออกงานอีเวนต์ครั้งแรกสำหรับคู่รักต่างวัย “ไทด์ เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์” กับ “ทับทิม อัญรินทร์ ธีราธนันพันธ์” หลังสร้างความฮือฮาซุ่มปลูกต้นรักกันมาได้สักพักหนึ่งแล้ว และถึงแม้จะมีอายุห่างกัน 28 ปี แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ปัญหากับความรักครั้งนี้เลย

ล่าสุด ไทด์ เอกพันธ์ ควง ทับทิม ออกมาอัปเดตความรัก หลังมาร่วมงานเปิดตัวครีมทาฝ้า Dr.JiLL ในงานมหกรรม Dr.JiLL ณ อาคารเกษร ทาวเวอร์(GAYSORN TOWER) โดยเผยว่า ยอมรับว่ากังวลเรื่องอายุ เพราะเดินไปด้วยกัน แต่มีคนสะกิดว่าลูกสาวสวยจัง ลูกใช่ไหม ด้าน “ทับทิม” โมโหแทนกลัวไทด์จะรู้สึกไม่ดี ให้บอกไปเลยว่าเป็นแฟนกัน

ไทด์ : “ที่กอดทับทิมคือตื่นเต้น บางทีก็ไปซบคือมันช่วยได้เยอะเลยมันทำให้รู้สึกมีความมั่นใจขึ้น”

ทับทิม : “ก็ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบพวกเราสองคนและซัปพอร์ต จริงๆ ต้องบอกว่าดีใจที่หลายๆ คนได้เข้ามาทักทายมาร่วมยินดีกับเรา มันก็เป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกใจฟูเหมือนกัน”

รับกังวลเรื่องอายุ เพราะเดินไปด้วยกัน แต่มีคนสะกิดว่าลูกสาวสวยจัง
ไทด์ : “กังวล(หัวเราะ)”

ทับทิม : “คือเราไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงบ้างแต่สิ่งที่ทับทิมกับพี่ไทด์บอกตลอดก็คือเราใช้ชีวิตตามปกติเราไม่ได้ปิดบังไม่ได้อะไรเลย เราก็เลยพยายามทำอะไรที่เห็นอะไรแบบนี้ก็คิดว่าน่าจะสัมผัสได้มาตั้งแต่แรก”

ไทด์ : “กังวลเรื่องความแตกต่างของอายุ คือบางที่ที่เราเดินไปเราก็เดินไปกับเขาเป็นธรรมดา สักพักนึงมีคนมาสะกิดว่าลูกสาวสวยมาก ลูกใช่ไหมเนี่ย ทับทิบเขาโมโหแทน ทำไมไม่บอกเขาไปล่ะ เราก็ได้แต่ครับ คือด้วยความที่เราสนิทกันมาตั้งแต่เริ่ม เพราะเราสนิทกันมาตั้งแต่เริ่ม ร่วมงานกันมาไปไหนมาไหนก็สนิทกันเหมือนพี่กับน้อง ตอนนี้ก็เลยเหมือนเดิมทุกอย่างก็เลยเหมือนไม่ใช่แฟนประมาณนี้ ก็คิดว่าเป็นลูกสาวเพราะว่าเราก็เดินกับคุณแม่ด้วย (หัวเราะ)”

ทับทิม : “ไม่ได้ถึงกับขึ้นขนาดนั้น กลัวว่าพี่เขาจะรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า ก็เลยบอกว่าทำไมไม่บอกเขาไปล่ะ ก็บอกไปได้นะไม่ติดอะไร ก็สามารถบอกได้ กลัวพี่เขากังวลเรื่องอายุ”

ไทด์ : “ตอนนี้คือทุกคนทั่วประเทศรู้หมดแล้ว”

รับไลฟ์สไตล์เปลี่ยนตั้งแต่มาคบเด็ก
ไทด์ : “ตอนแรกๆ เขาก็สอน เราก็เต้นไม่ค่อยเป็น เขาก็สอนไม่มีอะไรมากคือก่อนที่ถ่ายจริงเขาก็บรีฟก่อน นับจังหวะ 1 2 3 4 5 6 ก็โอเค คือตอนนี้มีคลิปอีกหลายคลิปที่กำลังจะออกอีกเยอะเลย (หัวเราะ)”

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ บอกว่าตั้งแต่คบเด็กไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป คือมันก็ต้องให้เข้าไปกับน้องเขาด้วยไม่ใช่ว่าเราทำตัวแก่แล้วน้องเขายังวัยรุ่นยังสาวสวย แล้วถ้าเราไปเดินกับเขา บางครั้งเราก็ต้องให้เกียรติเขานิดนึง เขาเรียกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามเขา บางทีเขาอาจจะทักทำไมเดี๋ยวนี้ใส่เสื้อผ้าวัยรุ่นจัง มีแฟนเด็กเหรอประมาณนี้ไง เราก็ต้องเป็นไปตาม เดี๋ยวนี้ก็คนถามเรานะ ถ้าอยากจะร้องเพลงให้แฟนฟังจะร้องเพลงอะไร เราก็ขึ้นเลย (ร้องเพลง) แฟนผมน่ารักจังเลยครับเจอแบบนี้ก็ตายดิครับ (หัวเราะ)”

ยิ้มรับคนเชียร์ให้แต่งงาน
ไทด์ : “คือที่มารักน้องเขามันเป็นธรรมชาติจริงๆ ไม่ได้คิดอยากจะจีบมาก่อนหรือคิดเป็นแฟนมาก่อน เพราะเราทำงานร่วมกันคือพี่น้อง แต่มีวันนึงรู้สึกว่าจิตใจเรามันห่อเหี่ยวเหลือเกินเกี่ยวกับที่เราอยู่คนเดียวอยู่กับลูกๆ ก็มีน้องเขาเข้ามามันก็ รู้สึกว่าจากที่เราเคยคิดว่าเขาเป็นน้องก็อยากให้เขาเข้ามาดูแลเรา มันมีความรู้สึกว่าเวลาที่ได้อยู่ใกล้แล้วมันอบอุ่น มีความสุข คือการแสดงออกด้วยสายตาของน้องเขาเวลาที่เราไปแจกของลงพื้นที่น้ำท่วมต่างๆ กู้ภัยต่างๆ เวลาที่เราเหนื่อยเขาเป็นคนที่วิ่งเอาน้ำมาให้ ไม่ว่าจะเป็นโอเลี้ยง ชาดำเย็น เอามามาให้เราดูด โดยตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนะ ก็เอามาให้เราดูดถึงที่และเวลาที่เราดูด เขาก็จะมองสายตาเรา แล้วมันคิดไปเองจริงๆ เราก็คิดไปว่าทำไมความรู้สึกน้ำไม่เท่าไหร่ แต่สายตามองตาเขาแล้วเรารู้สึกว่ามันชื่นใจ เราก็เก็บความรู้สึกนี้มานาน เก็บเล็กเก็บน้อย เก็บความรู้สึกจนกระทั่งวันนึงเราต้องบอกเขา”

ทับทิม : “เราไม่เคยทำคอนเทนต์หวานๆ เลยนะ”

ไทด์ : “ก็มีคนคอมเมนต์บ้าง ก็ได้แต่อมยิ้ม ก็มีคุยกันบ้าง แต่ว่าเราก็ต้องมาดูเรื่องการทำงาน จริงๆ แล้วผมเป็นผู้ชายซึ่งต้องให้เกียรติน้องเขา ต้องทำอะไรที่เป็นหลักรากฐานที่สำคัญให้ครอบครัว ถ้าเกิดทำอะไรที่โดยที่ไม่ตรอง หรือใช้แต่อารมณ์ของตัวเอง บางทีผิดพลาดอะไรขึ้นมา น้องเขายังโสดอยู่ แต่เรามันผ่านอะไรมาเยอะแล้ว เราก็ต้องให้เกียรติน้องเขา อยากให้มันมีหลักฐานอะไรที่มันสำคัญก่อนที่มันจะสามารถดูแลน้องและครอบครัวน้องให้มีความสุขสบายโดยที่ไม่ต้องลำบากที่มาอยู่กับเรา มันก็เลยต้องใช้เวลานิดนึงก็ต้องสร้างหลักฐานมันมั่นคง”

ทับทิม : “โดยส่วนตัวจริงๆ ถ้าถามความรู้สึกมันก็เป็นความรู้สึกของผู้หญิงหลายๆ คน เรียนจบแล้วมีการงานที่มั่นคง อาจจะมองอีกสเต็ปหนึ่งไปในเรื่องของชีวิตครอบครัวที่อาจจะต้องดูถึงเรื่องความมั่นคงมาก อย่างของทับทิมตอนนี้ก็ต้องบอกว่าจริงๆ ต้องยอมรับนะคะว่ามองหาในเรื่องของความมั่นคงเป็นหลักเลย มันคืออนาคตของเราทั้งหมด เพราะฉะนั้นเชื่อว่าถ้าวันนึงถ้ามันถึงเวลาแล้วเราก็จะรู้เองว่ามันโอเคพร้อมแล้ว”











กำลังโหลดความคิดเห็น