“โยกเยก เชิญยิ้ม” หมุนเงินเก็บในวันที่ไม่มีตลกให้เล่น ปรับการใช้ชีวิตไม่ให้ฟุ่มเฟือย ส่วนภรรยาผ่าซีสต์แล้วอาการดีขึ้น บอกอีก 6 เดือนพยายามจะมีลูกอีกครั้ง รับทำทุกทางทั้งธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ พ้อเด็กคงไม่อยากมาเกิดกับครอบครัวตน
หายหน้าจากวงการบันเทิงไปพักใหญ่เลยทีเดียว สำหรับนักแสดงตลกร่างสูง “โยกเยก เชิญยิ้ม” หรือ “อัครเดช รอดวินิจ” ที่ตอนนี้บอกเลยว่างานในวงการตลกซบเซาจนน่าใจหาย ทำให้ต้องผันตัวไปเป็นพ่อค้าขายออนไลน์แทน
ล่าสุด โยกเยก เชิญยิ้ม ก็ได้ออกมาอัปเดตชีวิตล่าสุด หลังจากที่ไม่ได้เล่นตลกแล้ว ก็ไปรับงานละคร ซีรีส์ และถ่ายรายการบ้าง รวมถึงไปขายของออนไลน์กับเพื่อน
“อย่างที่รู้กันงานในวงการมันซบเซา เราก็ต้องหาทางอื่นด้วยการขายของออนไลน์กับเพื่อนๆ บ้าง งานในวงการค่อนข้างเงียบ แต่ไม่ได้เงียบขนาดนั้น ก็ยังมีรับเชิญซีรีส์ มีรับเชิญละครบ้าง อย่างช่วงงานพีกๆ ต้องวิ่ง 2-3 กอง ทำงานทุกวันถ่ายทุกวัน พอมายุคนี้มันก็ผ่านมานานล่ะ ก็ต้องเข้าใจมันเป็นไปตามยุคสมัย ยุคนี้มันเป็นยุคออนไลน์ มันทำให้คนไปสู่ออนไลน์เยอะ และมันทำให้งานละครลดน้อยลง
เงินที่เก็บมา ก็มีออกไปใช้บ้าง แต่เงินเก็บมาใช้ตั้งแต่โควิดแล้ว พอผ่านโควิดไปก็เก็บๆ แต่ช่วงนี้ก็ต้องเอามาใช้บ้างหมุนบ้าง ถ้าถามว่าอาทิตย์หนึ่งมีงานกี่วันในวงการบันเทิงไหม บางอาทิตย์ไม่มีเลยนะ (ถามตัวเองไหมทำไมเกิดขึ้นกับชีวิตเรา?) ถ้าถามตัวเราเองแล้วก็ไม่รู้จะไปหาคำตอบที่ไหนก็ต้องไปหาคนอื่น ก็เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจสังคมที่เป็นอยู่”
บอกถึงงานจะน้อยลง แต่ไม่ต้องไปซีเรียสชีวิต ปรับการใช้ชีวิตไม่ให้ฟุ่มเฟือย
“งานตลกตอนนี้ก็น้อย คือมันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ออกงานไปเล่นตลกทุกวัน ตอนนี้ที่จะเป็นเล่นตลกก็คือต้องรวมตัวเฉพาะกิจ อย่างเช่นมีการไปต่างจังหวัด มีงานฟุตบอลอะไรแบบนี้ ไม่ต้องหนีตาย ก็ต้องรับสภาพมันไป เราต้องเข้าใจสิ่งที่มันเกิดก็ไม่ต้องไปซีเรียสกับมัน
วงการตลกสำคัญอยู่ไหม ก็ยังสำคัญ แต่ไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน ตลกก็ยังสำคัญเพราะว่าคนเราต้องมีเสียงหัวเราะ ไม่หัวเราะเลยชีวิตมันจะหม่นหมอง ถ้าถามว่าสักวันหนึ่งมองตลกเป็นตำนานไหม บอกเลยว่ามันเป็นตำนานแล้วตอนนี้ ตอนนี้ตลกหลายๆ คนเป็นตำนานแล้ว
ตอนนี้ในตัวเรา เรารู้สึกว่างานของแสดงดาราตลกมันน้อยลง เราก็แค่ปรับตัวใช้ชีวิตไม่ฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน แล้วก็อยู่กับปัจจุบันอยู่กับออนไลน์ให้ได้ เรายังอยู่ได้ทุกคนก็ต้องอยู่ได้เราว่านะ”
นอกจากนี้ โยกเยก ยังอัปเดตอาการป่วยของภรรยา หลังตรวจพบซีสต์ในรังไข่
“ตรวจเจอซีสต์ พยายามจะมีลูกกันตลอดแต่ว่าคือพอหลังๆ เขาปวดท้องประจำเดือนบ่อยๆ เราก็สงสัยเพราะปกติเขาไม่เคยปวด เราก็เลยให้เขาไปตรวจพอไปตรวจก็ไปตรวจซีสต์ประมาณ 10 เซนฯ ก็ผ่าออก แล้วก็ไปเจอเนื้องอกบ้างนิดหน่อย ก็ถือว่าการผ่าตัดครั้งนี้คือการเคลียร์มดลูกอีกรอบนึง แล้วจะลุยต่ออีกรอบหนึ่ง เรายังไม่หมดหวังในการมีลูก”
บอกอีก 6 เดือน พยายามมีลูกอีกครั้ง
“อุปสรรคไม่รู้จากอะไรเลยเราหาไม่เจอ เราก็โทษตัวเราด้วยอาจจะเป็นเพราะเรา เพราะเราต่างคนต่างก็ทำงาน แต่เราก็ไม่รู้มันเดาไม่ถูกเลย พอไปตรวจหมอว่าเป็นซีสต์ซึ่งหมอบอกว่านี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราไม่มีลูก เป็นซีสต์ที่รังไข่ 10 เซนฯ ก็ถือว่าใหญ่อยู่ ซึ่งหมอบอกว่าหลังจากนี้อีกไม่เกิน 6 เดือน ก็ไปปรึกษาคุณหมอเรื่องมีบุตรยากได้เลย แต่เราก็ไม่ได้วิทยาศาสตร์มากจะให้ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด”
รับยากมีลูกมาก แต่เขาคงไม่อยากมาเกิดกับเรา
“หลังผ่าตัดอาการปกติครับ ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ได้เกือบเดือนแล้ว ก็ยังมีเจ็บแผลบ้างแต่ก็ยังไปทำงานได้ การมีลูกไม่กังวลเลย ทีแรกกังวล แต่ตอนหลังไม่กังวลทำใจแล้ว ไม่มีก็ปล่อยไป (แสดงว่าลองมาทุกวิธี?) ใช่ ทั้งธรรมชาติ ขอพร วิทยาศาสตร์ แสดงว่าเด็กไม่อยากเกิดกับเรา เราก็ให้กำลังใจเขาบอกนี่แหละไม่เป็นอะไรนะลูกไม่อยากมาเกิดกับเรา เขาก็โอเค เขาเข้าใจ ถ้าไม่มีลูกจริงๆ ก็อยู่กันแบบนี้ ผู้ใหญ่หลายท่านก็บอกว่าก็ดีไม่ต้องมี ไม่ต้องกังวลอะไร ก็ตั้งใจที่อยากมีแต่ไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้ก็ยังรับงานอยู่ครับ จ้างได้เหมือนเดิมครับ”
