“เมย์ วาสนา” เผยได้ของคืน 2 ชิ้นแล้ว ที่เหลือให้เวลา 10 วัน หากเงียบจะขอเจรจาเอง วอน “ดิว อริสรา” กลับไทยมาแก้ปัญหาให้จบ คาราคาซังอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ตกลงทำสัญญาจ่ายแต่ไม่จ่าย ชี้ขอยืดเวลาไปเรื่อยๆ งงถูกคนดีเอ็มยืมเงินเยอะมาก ไม่เคยเจอมาก่อน โอดถูกมิจฉาชีพหลอกซ้ำหลอกซ้อน ขอร้องอย่าซ้ำเติมกันแบบนี้
หลังจากที่ “เมย์ วาสนา อินทะแสง” ส่งทนายแจ้งความ “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ข้อหายักยอกทรัพย์ หลังจากยืมกระเป๋าแบรนด์เนมและเครื่องเพชรมูลค่ารวมกว่า 62 ล้านบาท เอาไปใช้แก้ปัญหาชีวิตแล้วไม่คืนตามกำหนด แถมนำข้าวของที่ยืมไปเร่จำนำ ลั่นยินดียุติเรื่องหากคู่กรณีนำของมาคืน
ล่าสุด เมย์ วาสนา อัปเดตความคืบหน้าคดี ในงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร GPO+ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เผยตอนนี้ของได้คืนมา 2 ชิ้นแล้ว แต่เหลือรอเจรจากับดิวว่าเขาจะผ่อนชำระอย่างไร ลั่นหลังจบรายการโหนกระแสดิวทักมาขอโทษ ย้ำว่าให้อภัยถ้าคืนของ
“เราได้ประกาศผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว และก็เฟซบุ๊กส่วนตัวไปแล้วว่า ได้คืนมา 2 ชิ้น คือ สร้อย LOTUS ARTS DE VIVRE และนาฬิกาหรู ริชาร์ด มิลล์ แต่ก็จะเหลือ สร้อย Bvlgari กับกระเป๋าอีก 2 ใบ 2 ชิ้นนี้ต้องบอกว่าเรื่องอยู่ที่กองปราบ แล้วก็อยู่ที่การเจรจากับทางน้องดิว เจรจาว่าจะมีการจ่ายส่วนหนึ่งแล้วจะมีการผ่อนชำระกันอย่างไร อันนี้คือที่ทราบจากฝ่ายทนาย
แต่ ณ ปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจบกันได้ ขอใช้คำนี้ดีกว่า ก็เลยยังคาราคาซังอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย น่าจะอยู่ในกระบวนการต่อไป เพราะว่าเหมือนรับว่าจะจ่ายส่วนหนึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้จ่าย หรือแม้กระทั่งตัวสร้อยมรกตของเราเอง เห็นว่าตกลงว่าจะมีการจ่ายกัน ตกลงทำสัญญาแต่สุดท้ายก็เหมือนยังไม่ได้รับ ก็เลยน่าจะอยู่ในกระบวนการของคดีความต่อไป
หลังจากที่จบรายการโหนกระแสน้องทักมา ซึ่งก็ทักมาขอโทษ ทักมาเยอะอยู่พอสมควรซึ่งนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกัน ก็เลยบอกว่าไม่โกรธนะ ไม่เคืองถ้าของคืนทุกอย่าง พี่ให้อภัย แต่ว่าก็อย่าเพิ่งยุ่งๆ กันเลย ก็อยากให้เขาเองได้มีพื้นที่ และก็อยากให้น้องรีบกลับมาแก้ไข ถ้ารีบกลับมาและรีบแก้ไขให้มันอย่างถูกต้อง
เราพยายามบอกน้องว่าให้น้องรีบกลับมาแก้ไขเถอะ ทุกคนต่างก็เสียหายเหมือนกัน ตัวน้องเองก็เสียหาย ถ้ากลับมาขอโอกาสในการหาเงินพูดง่ายๆ เนอะทำงาน เราเชื่อว่าทุกคนให้โอกาสและเอาสิ่งเหล่านี้ไปให้ร้านเขาทุกอย่างมันก็จะได้จบ แต่พอทิ้งไว้แบบนี้เราว่ามันคาราคาซังแล้วมันก็ไม่จบ แล้วมันก็ไม่ได้เป็นผลดีกับใครเลยแม้กระทั่งตัวน้อง ถ้าน้องสามารถจัดการได้ก็อยากให้น้องกลับมาแก้ปัญหาให้จบให้ดี ก็เป็นห่วงเขาแล้วก็อยากให้จบกับทางแต่ละคน เราเองก็อยากได้ของคืน เราก็มีการขอร้องว่าเอาของมาไว้ที่เราได้ไหมแล้วจะเป็นคดีก็เป็นคดีไปก่อน คือพอของบางชิ้นที่เรากลับมาเราก็รู้ว่าบางอย่างเราก็ไม่ได้มีความสบายใจว่ามันจะแบบเหมือนเดิมไหม”
ไม่รู้เหตุผลที่ ดิว อริสรา ยังไม่กลับไทย เชื่ออีกฝ่ายคงพยายามอยู่
“อันนี้ก็ไม่รู้จริงๆ ก็คือคุยกับทนายก็บอกว่าจะกลับตั้งแต่สิ้นเดือนที่แล้ว เขาก็อาจจะพยายามอยู่ เราก็เชื่อนะว่าเขาพยายามอยู่ (เขาได้ขอผ่อนผันอะไรไหม?) ทั้งหมดเขาคุยกันเยอะมากแต่สุดท้ายมันเหมือนไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าจะให้เท่านี้เท่านี้แต่ปรากฏก็ไม่ได้ตามตกลง เขาก็ยืดไปเรื่อยๆ หรือว่าเขากำลังพยายามอยู่แล้วก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ตัวเราไม่ได้คุยแล้วก็จะผ่านทางทนาย
คือจริงๆ แล้วมันไม่เชิงเดตไลน์ กระบวนการของทางกฎหมายมันเกิดขึ้นอยู่แล้ว ทางกองปราบเองเขาก็สืบสวนสอบสวนครบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการคุยกับร้านที่รับสร้อยคอแล้วก็กระเป๋าอยู่อย่างต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งสินค้าที่เราได้มาแล้วเขาก็ยังอยู่ในคดีความเหมือนกัน คือมันถึงเวลาสุดท้ายก็คงจะต้องดำเนินการกันแหละ ถึงถามว่ามันมีเดตไลน์ไหม มันก็คือกระบวนการของทางกฎหมาย ทางตำรวจว่าเขาจะให้ระยะเวลากันยังไง”
มั่นใจหากดิวกลับมาทำงานในวงการ ไม่เกินความสามารถ ใช้หนี้หมดแน่นอน คนไทยให้โอกาส แค่กลับมาแก้ไขให้ถูกจุด
“เราว่าถ้าน้องกลับมาแล้วก็ทำงาน ตอนนี้เหมือนมูลค่าทั้งหมดที่เป็นจำนำก็ประมาณ 20 ล้าน เราว่ามันไม่เกินความสามารถของเราได้ เอาง่ายๆ ถ้าเป็นเรานะมารับงานแล้วเอาเงินโอนคืนให้เขาไปเลย เราก็เชื่อว่าทุกคนให้โอกาสคน เขาไม่ได้ไปทำอะไรให้ไม่ดีขนาดนั้น คนเรามันมีโอกาสผิดพลาดได้ คนเรามันมีโอกาสลำบากแล้วมันล้ม คนเรามันล้มกันได้หมด ซึ่งเขาก็ไม่ได้ไปทำอะไรที่มันไม่ดีขนาดนั้นเราเชื่ออย่างนั้นนะ ดังนั้นเราว่าถ้ามาแก้ไข้ให้ถูกต้องให้ถูกจุด คนไทยพร้อมให้โอกาสค่ะเชื่อว่าอย่างนั้น เพราะว่ามันก็มีเสียงหลายคนที่สะท้อนออกมาว่าอยากจะให้โอกาสในการช่วยน้อง (แต่ดิวไม่กลับมา?) ยังไม่กลับเนอะ”
มั่นใจว่าจะได้ของคืน
“บอกน้องกลับมาแล้ว คือยังไม่เห็น เอาตรงๆ ส่วนตัวก็เห็นเหมือนทุกคน แล้วก็ไม่ได้คุยส่วนตัว แต่เขาบอกว่าถ้าเขาลงเครื่องมาปุ๊บจะเข้ามาเลยทันที ก็ค่อนข้างมั่นใจว่ายังไม่มา
ถามว่าคาดหวังว่าจะได้คืน อย่างที่บอกว่าถ้าไม่ได้เราก็จะสู้ให้ถึงที่สุด เพราะเราเชื่อว่ามันคือความถูกต้อง ในแง่ของคนที่รับวันนั้นคุณรู้อยู่แล้วว่าคนที่ไปจำนำของคุณคือคุณดิว ถูกไม่ถูกแต่คุณไม่รู้ว่าของมันคือของใคร คุณคิดว่าเป็นของคุณดิวแต่วันนี้คุณรู้แล้ว คุณให้เงินกับคนที่คุณไปจำนำถูกไหม ร้านให้ทำสัญญาคู่กับดิว แปลว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าลูกหนี้ของคุณคือคุณดิวถูกไหมคะ แต่ว่าทรัพย์นี้มันเป็นของเราควรคืนเราก่อนไหม อันนี้คือความเรียกร้องของเราแต่ก็เข้าใจเขา เราไม่ได้กดดันนะ คือถ้ากดดันมันคงไม่ยืดยาวมาถึงขนาดนี้ นี่ล่วงเลยมาน่าจะ 9 เดือนแล้ว หลังจากที่รู้เรื่องกันก็น่าจะประมาณสัก 2 เดือนกว่า ถ้ากดดันมันก็ไม่ได้ขนาดนี้เพียงแต่ว่าเราอยากได้ของเราคืน ส่วนจะแก้กันยังไงมาหาทางออกด้วยกันได้เลย”
หากไม่คืบหน้าเตรียมเจรจาเอง
“เราว่าทุกคนก็ต้องกลัวแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นประโยชน์นะกับการที่เอาไปอยู่ตรงนั้น คืนเรามาก่อนดีไหมแล้วมาช่วยกันหาทางออกก็ได้ ตัวเราเองก็คุยผ่านทนายก็ไม่ได้อยากว่าจะไปกดดันนะ คุยกับทนายแล้วว่าเดือนนี้ถ้าไม่จบขอเจรจาคุยเองหน่อย คือจริงๆ ตัวเราเองยังไม่เคยเจอเขาเลย เพราะว่ารู้สึกคุยผ่านทนายทั้ง 3 ฝ่าย น่าจะโอเค แต่รู้สึกว่ามันไม่จบสักที คุยผ่านกองปราบถามไปก็ไม่จบสักที ก็อยากให้เสร็จ จริงๆ เป็นชิ้นที่รักที่สุดเลยนะสร้อยบูการี
เอาง่ายๆ เท่าที่ทราบจากทนาย คือเงินต้นเงินที่จะผ่อนก้อนแรกตกลงกันไม่ได้ เท่าที่ทราบเหมือนน้องจะให้เท่านี้ก่อน แต่ร้านก็จะเอาเท่านี้ เท่าที่ทราบก็เป็นประมาณนั้น (ถ้าฝั่งดิวไม่พร้อมจ่าย เมย์เข้าไปคุยกับทางร้านแล้วบอกว่ายินยอมเอง?) คือถ้าบอกว่า ถ้าเราใช้วิธีการนี้เราจะไม่เป็นข่าวเลยตั้งแต่ต้น มันจะไม่ไปถึงพี่หนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) จริงๆ มันเป็นวิธีแรกที่เราจะทำ เพราะเราไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับใคร เราจะควักเงินเอาไปจ่ายเองแล้วเอามาแล้ว แต่มันไม่มีใครคือไม่ว่าจะทนายคนรอบข้าง เอาง่ายๆ โดนด่ากันหมดแล้ว พอเราเดินมาถึงจุดนี้มันไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องที่เราจะต้องทำแบบนั้น
รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม พูดตรงๆ คือของมันก็ของเรา แล้วก็ล่วงเลยมานานมากแล้ว เราก็คิดว่าเราช่วยด้วยใขบริสุทธิ์ที่สุดในมนุษย์คนนึงจะทำได้แล้วนะ แต่ว่าสิ่งที่ได้รับตอบแทนมันหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ไม่ว่าจะเป็นการดิสเครดิตต่างๆ เกิดขึ้น มันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา แต่ว่าความถูกต้องมันก็ควรจะคืนทรัพย์ให้กับเจ้าของ เหมือนรถพี่หายพี่ต้องคืนรถเรามาก่อนไหม โทรศัพท์เราหล่นหายมีคนไปเก็บได้คืนเจ้าของเขามาก่อนไหม”
ให้เวลาดิว 10 วัน ไม่งั้นจะขอคุยเอง
“ทราบหมดแล้วค่ะ เรื่องอยู่ที่กองปราบหมดแล้ว จริงๆ เราว่าไม่เกิน 10 วัน เราว่าจะขอเจรจาเอง 10 วันนี้แหละเราจะไปขอเจรจาคุยเองแล้ว เพราะว่ามันนานแล้วเราห่วงของ
ส่วนนาฬิกาที่มดดำ (คชาภา ตันเจริญ) บอกว่าถ้าจำนำแค่ 3 ล้านเอามาให้ฉันเถอะยายเมย์ คือฉันขอได้ไหม บอกถ้าพี่จะเอา 3 ล้าน พี่ตบกับหนูเลยแล้วกัน คือแบบเขารู้สึกว่ามันตั้ง 13 เนอะ เราซื้อมา 13.8 ล้าน จำได้เลย แล้วเขาไปจำนำไว้ 3 ล้าน ก็เลยรู้สึกว่าแกอย่าปล่อยให้มันหลุดนะ ตอนนั้นนาทีที่เรายอมที่จะออกมาพูดเพราะว่ามันจะหลุดแล้ว คือเรารู้แล้วว่ามันจะหลุดแล้ว มันมี 2 ทางเลย คุณวาสนาควักเงินออกไปจ่ายเอง แล้วให้มันไม่ต้องเป็นอะไรไม่ต้องวุ่นวายกับใคร กับคุณวาสนาต้องมาทวงเองผ่านสื่อนี่แหละ อันนี้ก็พูดกันตรงๆ ไม่งั้นก็คือเราก็คิดว่าพี่หนุ่มนี่แหละเสียงประชาชน พี่หนุ่มนี่แหละที่จะต้องเอาของให้เราคืนได้ก็เลยมาถึงจุดนั้น”
บอกไม่กล้าให้หนุ่ม กรรชัย ช่วยแล้วเกรงใจ
“ไม่ค่ะ อันนี้ก็พอแล้ว พี่หนุ่มก็คงบอกว่าเอาเหอะ พอมันเงียบไปมันก็เงียบไปตามข่าว ที่เงียบๆ ไปก็คือยังไม่ได้ ก็พยายามอยู่ตามตลอด มาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป ก็เลยคิดว่าสเต็ปต่อไปของเราคือ หนึ่งในทางคดีไม่ว่าจะเป็นอาญาหรือแพ่งก็คงจะต้องให้ทางอัยการเป็นคนตัดสิน หรือว่าทางศาลหรือผู้เกี่ยวข้องเป็นคนตัดสินแหละว่าคดีจะเป็นแบบไหน สุดท้ายท้ายที่สุดถ้ามันไม่ได้คืนแล้วตกลงกันไม่ได้คดีก็ต้องดำเนินอย่างถึงที่สุด มันเป็นเรื่องที่เรายอมไม่ได้แล้ว จริงๆ ก็คุยตลอดแต่มันไม่ได้ผลลัพธ์แบบที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ว่าไม่คุย คุยกันตลอด ก็คือคุยแต่มันถูกการเลื่อนมาเรื่อยๆ แต่น้องก็คงอาจจะพยายามอยู่ เราก็ทำได้แค่รอและติดตาม แล้วก็ตามกับทางฝ่ายกฎหมาย
ถามว่าอะไรที่คิดว่าจะได้ของคืน เราว่ามันเป็นจะใช้คำว่าสามัญสำนึกหรือเปล่าไม่รู้ แต่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ควรจะต้องได้ไหม ของๆ เรา เราควรจะได้คืนไหม เพราะเราเห็นแล้วว่ามันอยู่ตรงนี้นะมันอยู่กับคนนี้นะ ในทางปฏิบัติมันควรจะให้ของเขาคืน สมมติสิ่งนี้มันคือลูกพี่ พี่จะให้ลูกพี่คืนไหม สิ่งนี้มันคือลูกเราแล้วลูกเราหายไป สมมตินะสมมุติ แล้วเรารู้ว่าลูกเราอยู่ตรงนี้คุณจะไม่ให้ลูกเราคืนเหรอ เราว่ามันควรเป็นเรื่องที่จะให้ ถูกไหม สำหรับมุมเรา แต่เข้าใจว่าโอเคแต่ละคนก็เกิดความเสียหายมา ซึ่งเราก็มาหาทางออกร่วมกัน อย่าเอาของไปกักไว้ตรงนั้นเลย”
บอกชีวิตเปลี่ยนหลังเกิดเรื่อง ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจ
“ต้องบอกว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ชีวิตเปลี่ยนไปมาก ไปไหนคนทักเยอะมาก ล่าสุดไปเกาะยาวใหญ่ร้านอาหารก็ให้กำลังใจเอาของมาให้ ก็มีทั้งดีก็คือทุกคนให้กำลังใจและชื่นชม ก็ขอบคุณมากๆ จริงๆ ขอบคุณมากๆ ที่เจอกันแล้วก็ให้กำลังใจกัน มีงานติดต่อเข้ามาเยอะเลย แต่ก็งงเหมือนกัน แล้วก็มีคนมายืมเงินเยอะมาก ใน message เป็นพันๆ เปิด DM ตอนนี้ก็คือเป็นพันข้อความ ก็คือคนทักมาขอยืมเงิน เอาที่มาขาย ลำบากเดือดร้อน เยอะมาก เกิดมาไม่เคยเจอ ต้องบอกแบบนี้ว่าอย่าทำร้ายกันด้วยการซ้ำเติมเลย
ฉันก็ไม่ได้รวยขนาดนั้น ทะเบียนรถที่เป็นข่าวคือแม่ชื่อรวย ซึ่งแม่เสียแล้ว ตอนแรกที่ประมูล เราพอมีแล้วก็เป็นอะไรที่เราอยากได้ เราก็เลยไปประมูลมา รวย 888 ก็กลายเป็นประเด็นนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ได้มีขนาดนั้นแต่อาจจะเป็นคนกล้าใช้เงิน แล้วก็เก็บของเรา เรามองว่าเป็นทรัพย์สิน เวลาเราไม่มีก็เปลี่ยนถ่ายเป็นอย่างอื่นได้ เราก็มองแบบนั้น”
วอนมิจฉาชีพอย่ามาหลอกซ้ำเติมเลย
“แล้วก็มีเจอมิจฉาชีพด้วยซ้อนมิจฉาชีพ เรื่องนี้ฮาตลก คือเจอมิจฉาชีพโทร.มาว่าจะเอากระเป๋ามาคืน แล้วก็กล่าวอ้างว่าเป็นคนของท่านๆ นึง จะเอากระเป๋ามาคืนนะ เราก็คุย อุ้ย ดีใจจะได้กระเป๋าคืนแล้ว ปรากฏว่านัด 02.00 น. กำลังจะเอามาคืนแล้ว พี่อย่าบอกใครนะอย่าให้เป็นข่าวนะ แบบพูดไปเยอะมาก สุดท้ายพี่เบอร์โทรศัพท์แบตหนูจะหมดส่งเบอร์เลขที่บัญชีมา โอนเงินให้ก่อนได้ไหม 20,000 บาท เราก็เช็กแบบเด็กอยู่ในเหตุการณ์ปรากฏมิจฉาชีพท่านหนึ่ง พี่ดูดิ ซ้ำเติมมาก”
เผยที่มาความรวยหลังถูกสังคมตั้งคำถามถึงอาชีพ
“จริงๆ ต้องบอกว่าถ้าคนที่อยู่ในอุตสาหกรรม หรือกลุ่มธุรกิจเห็นเรามานานแล้ว 15 ปี มันไม่ได้ง่ายเลยสำหรับชีวิตเรา เราเดินทางมาเราทำงานมาโดยตลอด เราไม่ได้ว่าเพิ่งมีเงิน เราทำงานมา 10 ปีค่อยๆ สะสมมาเรื่อยๆ ไม่เคยใช้เงินเลย เพิ่งจะมาใช้เงินเองเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา ก็เก็บสะสมมาเรื่อยๆ ก็เกือบ 10 ปีนะ ไม่ได้ง่ายแต่ก็ต้องยอมรับว่าโอเค รีโว่เมด กรุ๊ป เราเป็นโรงงานแนวหน้าของประเทศไทยแล้วก็ต่างประเทศ ธุรกิจหลักก็มีการขยาย และแต่ละบริษัทก็เป็นบริษัทที่แบบคอลแลปกันระดับประเทศ ซึ่งก็ทำอาชีพสุจริต 100% เป็นมนุษย์ที่ทำเองทุกอย่าง ถ้าตามกันมาจะรู้เลยว่าเราทำกันมาตลอด ทำทุกหน้าที่ตั้งแต่แพ็กของ ทำทุกอย่างทำเองหมดเลย เรียกว่าตรวจสอบได้มาจากน้ำพักน้ำแรงบริสุทธิ์ที่สุดแล้ว 88 อะไรยังไม่รู้จักเลย”
ฝากดิวให้กลับมาเคลียร์เรื่องราวให้จบ เชื่อทุกคนพร้อมให้อภัย
“อยากให้น้องรีบแก้ปัญหาให้จบ จริงๆ อยากให้น้องกลับมาแก้ปัญหาให้จบ อยากให้น้องกลับมายืนได้ด้วยความแข็งแรง เราเชื่อว่าคนไทยแฟนคลับหรือหลายๆ คนพร้อมให้โอกาสกับการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง เชื่อว่าทุกคนให้โอกาสก็อยากให้น้องรีบกลับมาแก้ไขปัญหาเร็วๆ และให้จบไปด้วยดี แล้วก็น้องมีครอบครัวเราว่ามนุษย์ความเป็นแม่ เราจะต้องทำให้ลูกรู้ว่าแม้วิกฤตแค่ไหนแม่ก็ผ่านมาด้วยสติปัญญาที่ดีและความเข้มแข็ง ซึ่งลูกจะภูมิใจในตัวหนูมากๆ”
