นักแสดงและนักร้องชื่อดัง อีซึงกิ ออกแถลงการณ์ช็อกวงการ เมื่อวันที่ 29 เมษายน โดยยืนยันว่าเขาและภรรยา อีดาอิน ตัดสินใจ "ตัดขาดความสัมพันธ์กับครอบครัวฝ่ายหญิง" อย่างเป็นทางการ หลังเกิดข้อครหาซ้ำซ้อนเกี่ยวกับพฤติกรรมของพ่อตา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นภายในครอบครัวอย่างรุนแรง
แหล่งข่าวจากฝ่ายกฎหมายเปิดเผยว่า สำนักงานอัยการเขตโซลใต้ ได้ออกหมายจับ นายอี พ่อตาของอีซึงกิ ซึ่งเป็นสามีของนักแสดงชื่อดัง คยอนมีริ ในข้อหาละเมิดกฎหมายว่าด้วยตลาดทุน จากกรณีปั่นราคาหุ้นบริษัท QuantaPia ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด KOSDAQ โดยใช้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับการควบรวมกิจการเพื่อปั่นราคาหุ้นให้สูงขึ้น มีผู้ถูกตั้งข้อหาแล้ว 9 รายในคดีเดียวกัน
นายอีมีประวัติคดีปั่นหุ้นมาก่อนหน้านี้ โดยเคยถูกตัดสินให้มีความผิดในคดีปั่นราคาหุ้นระหว่างปี 2014-2016 ซึ่งคำตัดสินเดิมเคยถูกยกฟ้อง ก่อนที่ศาลฎีกาจะส่งคดีกลับมาให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาใหม่เมื่อปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ อีซึงกิเคยปกป้องครอบครัวของภรรยาโดยยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะสมรส และขอให้สาธารณชนอย่าโจมตีครอบครัวของเขา ทว่าที่งานโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง “Big Family” เขาได้เปลี่ยนท่าทีอย่างชัดเจน
“คำพูดของผมในอดีตอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดเหมือนผมบอกว่าครอบครัวภรรยาไม่มีความผิด” อีซึงกิกล่าว “แต่ความจริงคือ ชีวิตของครอบครัวผมกับครอบครัวของพวกเขาแยกจากกัน ผมกับภรรยาได้สร้างครอบครัวใหม่ของเราเองแล้ว”
ท้ายที่สุด อีซึงกิตัดสินใจ “ขอยุติความสัมพันธ์กับครอบครัวของภรรยาอย่างสิ้นเชิง” โดยระบุว่า “ผมเคยอดทนเพราะเชื่อในครอบครัว แต่การกระทำของพ่อตาได้ทำลายความไว้วางใจทั้งหมดลงอย่างไม่อาจย้อนคืนได้”
เขายังกล่าวขอโทษต่อสาธารณชนว่า “ผมเสียใจอย่างยิ่งที่เคยพูดโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ ผมเชื่อว่าการกระทำที่ผิดกฎหมายต้องได้รับการลงโทษตามสมควร และขออภัยต่อเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากคำพูดปกป้องในอดีตของผม รวมถึงทุกคนที่เชื่อใจและให้การสนับสนุนผมมาโดยตลอด”
ทั้งนี้ อีซึงกิและอีดาอินแต่งงานกันในปี 2023 และมีลูกสาวด้วยกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน คดีของพ่อตากลับเป็นเงาที่ถาโถมไม่หยุด แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีหลังการแต่งงาน
