xs
xsm
sm
md
lg

ฟิตมาก “เทศน์” ปั้นหุ่น “ณเดชน์” แต่เป็นเวอร์ชั่น “เทศน์ ไมรอน” ขอลองสิ่งใหม่ หลังอิสระ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เทศน์ ไมรอน” รับเจองานหินในละครเวที เพราะเรื่องของภาษา และปัญหายากสุดคือการเต้นที่ท่าไม่สนิทกับร่างกายตัวเอง รับกดดันแต่จะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ยกหุ่นของ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นแรงบันดาลใจในการปั้นหุ่น ลั่นโชคดีมีโอกาสได้ลองสิ่งใหม่ หลังเป็นนักแสดงอิสระ

เรียกได้ว่าเป็นพระเอกดาวรุ่งที่หลายคนปลาบปลื้มไม่น้อย สำหรับ “เทศน์ ไมรอน” หลังโบกมือลาช่อง 3 ผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระ พร้อมชิมลางเป็นนักแสดงละครเวทีครั้งแรกเรื่อง อันธพาล 2499 เดอะมิวสิคัล ที่มารับบทบาท “ดำ เอสโซ่” ซึ่งถือว่าเป็นบทบาทที่ท้าทายและเปิดประสบการณ์ใหม่

ล่าสุด เทศน์ ไมรอน ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ระหว่างมาร่วมซ้อมละครเวที “อันธพาล 2499 THE MUSICAL” ที่ ห้อง R Ditorium โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ โดยเจ้าตัวได้อัปเดตความพร้อมสำหรับละครเวทีเรื่องแรก รับกดดัน แต่มี “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นไอดอล

“กำลังเข้าที่เข้าทางครับ ตอนนี้เราซ้อมไปประมาณ 3 ส่วน 4 ของเรื่อง ก็ค่อยๆ ไปสำหรับเรามันเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มากๆ เอาตรงๆ คือเครียดจริงๆ แต่พอมีทีมงานทุกๆ คนที่น่ารักมากๆ มีหมู่มวลที่แบบพลังเขาแบบโคตรดีแบบดีทุกๆ รอบแล้วก็มีนักแสดงคนอื่นที่คอยซัปพอร์ตเราก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นในทุกๆ วันครับ”

รับกดดันเรื่องภาษา โชคดีมี “ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต” คอยช่วย
“อะไรที่ยากที่สุดสำหรับเราตอนนี้น่าจะเป็นท่าเต้น เพราะว่าเราไม่ได้ถนัดเล่นขนาดนั้น บางทีไม่สนิทกับร่างกาย บางทีต้องหันขวาแต่มือซ้ายต้องขึ้นมันไปไม่ถูกเท่าไหร่ เราก็เลยต้องมาฝึกเยอะๆ แล้วอีกอย่างนึงก็มีเรื่องของคำศัพท์บางคำที่อาจจะไม่คุ้นชินหรือคุ้นเคยเพราะว่าเป็นภาษาแบบย้อนยุค พีเรียดนิดนึงก็จะมีคำศัพท์ของอันธพาล เช่น เหล็กขูดชาร์ป สำออย แล้วก็มีมิตรภาพ ตอนแรกเราไม่รู้จักมิตรภาพ เราห๊ะ ภาพอะไรไม่เห็นมีภาพเลย แต่ก็โชคดีที่มีพี่ไอซ์ พาริส ก็เป็นคนอังกฤษเหมือนกัน เราก็ถามเขาได้แบบสมมติถ้าไม่รู้จักคำไหนก็ไปถามเขา

ยากตรงที่ว่าพอมันเป็นละครเวทีมันสด เทคไม่ได้ เราก็ต้องใช้เวลากับคำพูดมากๆ เพราะเวลาพูดออกมามันต้องเป๊ะทุกๆ รอบ เราต้องไปฝึกมันต้องเป็นแบบเราห้ามคิด ต้องออกมาจากร่างกายเรา (คิดว่า 40 รอบจะยืนอยู่ไหวไหม ?) รอบที่ 39 เราค่อนข้างมั่นใจว่า... (หัวเราะ) เราล้อเล่นนะครับคุณบอย จริงๆ ส่วนตัวเราก็อยากพัฒนาภาษาไทยของเรา แล้วเรารู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เพราะว่ามันก็คือแอบบังคับให้เราพูดชัดขึ้น บังคับให้เรามีพลังกับการพูดมากขึ้น พอมันเทคไม่ได้มันก็ต้องได้”

ฝึกภาษาไทยหนัก เพื่อละครเวที
“เราก็จะนั่งอยู่ในห้องมืดๆ เงียบๆ แล้วก็พูดๆ แล้วจะมีครูแหม่มด้วยที่คอยช่วยสอนว่า ต้องใช้พลังเสียงยังไง คำนี้อาจจะต้องเน้นมากกว่าคำอื่น บางทีมันต้องพูดคำให้จบก็พอ มันมีการร้องเพลงเข้ามาด้วย สมมติว่าเราร้องเพลงเป็นคำที่มีสระอา แต่เราดันออกเป็นสระอะมันไม่ได้ มันต้องแบบยาวต้องลากยาวให้มันครบแบบเสียงของคำ

ถามว่าถ้าตอนนี้ภาษาไทยเราเก่งขึ้นมากขนาดไหน จริงๆ ถามเราไม่ได้ต้องถามคนอื่น ก็จะประมาณนี้แหละ เราก็ไม่ได้อยากจะใช้ภาษาเป็นข้ออ้าง เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจทำงานมันก็ต้องพูดไทยได้ครับไม่งั้นไม่รอ พี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ก็ชม เขาแอบตกใจว่าเราร้องเพลงมีพลัง เราก็ต้องขอบคุณพี่บอยด้วย คือหลายๆ คนจะรู้ว่าเราเป็นคนพูดน้อย แต่พอเป็นละครเวทีพี่บอยเขาก็จะจัดให้เราสู้ทุกคนได้ ทั้งร้อง พูด เต้น แสดงบู๊ พอรู้ว่าเล่นเป็นดำเราก็ไปเรียนมวยด้วย ไปเรียนแบบต่อยมวยอีกทีเพื่อให้ท่าทางมันดูสวยงาม แต่ละคนเขาเก่งเรื่องคิวบู๊อยู่แล้ว มาซัปพอร์ตเรา”

บอกมี “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นอินสไปเรชั่น ในการฟิตหุ่น อึ้งเหมือนขนมปัง
“ต้องกินไก่และกินไข่เยอะๆ กองละครเขาให้จัดให้เราวันละ 6 ฟอง เราคำนวณว่าตอนนี้จะกินเกือบ 100 ฟองแล้ว (เทรนนิ่งวันหนึ่งกี่ชม.?) เราเป็นคนที่เบื่อง่าย เราจะพยายามอยู่ในยิมไม่เกินชั่วโมงนึง แต่ว่าต้องเล่นแรงๆ ต้องเล่นให้คุ้มเวลาที่เราอยู่ในนั้น

เราก็เอาหุ่นของพี่ณเดชน์เป็นอินสไปเรชั่น เราอยากให้มันเป็นเซอร์ไพรส์ เราเลยใส่เสื้อแจ็กเก็ตหลวมๆ คนจะได้ไม่เห็น ตอนนี้น่าจะ 2 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นหุ่นณเดชเวอร์ชั่นเทศน์ ไมรอน รู้สึกพี่เขาเก่งมากๆ เขาใช้เวลากับมันเยอะมากๆ เห็นได้เลยเขาฟิตมากๆ เราก็อยากจะฟิตประมาณนั้น

ฟ้าจรดทราย พี่ณเดชน์ถอดเสื้อ เราก็ดูเหมือนกัน เราแบบโอ้โห ซิกแพ็กเหมือนขนมปัง ของจริงเหรอ เรานั่งอยู่แถวหลังๆ เห็นแล้วตาโต ถามว่าอยากได้แบบขนมแบบนี้เลยไหม ขนมปังก็ได้ครับ แต่เราอาจจะเป็นเบอร์เกอร์ แต่ก็จะพยายามครับไม่อยากให้ใครผิดหวัง ตอนนี้น้ำหนักเราน่าจะขึ้นประมาณ 2 กิโลแล้วครับ จาก 73 เป็น 75 กล้ามเนื้อจะมีน้ำหนักมากกว่าไขมัน”

รับไปออดิชั่นครั้งแรกไม่คาดหวัง แต่พอได้รู้สึกดีใจและกดดันขึ้นมาทันที
“เรามีไปแคสติ้ง รู้สึกว่าโชคดีมากๆ ที่ได้มาเล่นเรื่องนี้ เพราะเรารู้ว่าละครเวทีรัชดาลัยมันเป็นอะไรที่มีพาวเวอร์ของมันมากๆ แล้วนักแสดงหลายๆ คนมีความฝัน เราค่อนข้างตกใจที่รู้ว่าจะได้มาเล่น ออดิชั่นไม่คิดว่าจะได้ ตอนออดิชั่นเราแค่รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำให้คนกลุ่มใหม่ๆ เห็นเรา อาจจะคิดถึงเราในแง่ไหนก็ได้ เราก็แค่พยายามทำให้เต็มที่ พอได้ก็ดีใจและเครียดทันที

รับว่ามันกดดันครับ กดดันตัวเองด้วย มันเป็นหน้าที่ ที่ยิ่งใหญ่มากๆ อย่างที่พูดไปมันสด มันพลาดไม่ค่อยได้ ซึ่งเราก็รู้ตัวก็จะพยายามทำให้ได้ดีที่สุด (คิดว่าเป็นดำกี่เปอร์เซ็นต์?) เราอธิบายแบบนี้ดีกว่า เราเริ่มเข้าใจดำมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราจะพยายามเป็นเขา 100% ตามที่เราเข้าใจทุกๆ ครั้ง แต่ความเข้าใจนั้นมันจะขยายออกไปเรื่อยๆ

ถามว่ารอบแรกวันที่ 26 พ.ค.นี้ คนจะว้าวเลยไหม จริงๆ อันธพาลเขาก็ไม่มีใครเป็นคนดีหรอก แต่ดำเป็นตัวละครที่มืดที่สุดที่เคยเล่นมาก่อน คือเขาจะมีมุมโหดร้ายของเขา ซึ่งมันเป็นการแสดงที่ใหม่สำหรับเรา มันทำให้เราค้นหาอะไรได้เยอะแยะใหม่ๆ เล่นเป็นตัวไม่ดีมันยากมากครับ มันไกลจากตัวเรามากๆ ถามว่าเทศน์มีอะไรเหมือนกัน กล้ามใหญ่ครับ เรายิงปืนได้อยู่แล้วจากเรื่องที่แล้ว แต่เราก็จะยิงคนละแบบ มาเฟียเขาจะไม่เหมือนตำรวจครับ มันไม่เท่ ตำรวจเขาจะยิงแบบมาตรฐานตามพื้นฐาน แต่มาเฟียเขาได้ยิงคนละอย่าง”

บอกยังไม่มีใครทาบทามเซ็นสัญญาหลังผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ
“ไม่มีครับ เพราะทุกคนน่าจะรู้ว่าเรายุ่งกับเรื่องนี้อยู่ เราก็พยายามทุ่มเททุกอย่างกับเรื่องนี้ โอกาสที่จะเข้าเซ็นกับช่อง one ยังไม่มีโอกาสครับ แต่ว่าถ้ามีก็ต้องขอคิดอีกที พี่บอยยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ครับ การทำงานกับพี่บอยก็แฮปปี้มากๆ ถ้าพี่บอยชวนหรือเรียกคุย ก็ต้องมาคุยกันอีกทีครับ ต้องคุยกับป้ากบด้วยครับ มันเป็นแบบทีมเวิร์ก ตอนนี้มีความสุขในการทำงานมากๆ ครับ เพราะว่าเราได้ตั้งใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นตอนนี้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วเราได้มีโอกาสมาลองอะไรใหม่ๆ เยอะ”













กำลังโหลดความคิดเห็น