xs
xsm
sm
md
lg

“นาย ณภัทร” ลั่นชอบตัวเองเวอร์ชั่นนี้ที่สุด ยังไม่คิดเรื่องความรัก ขอทุ่มกับงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นาย ณภัทร” ยังเชื่อในพรหมลิขิต แต่สถานะหัวใจโสด 100 เปอร์เซ็นต์ บอกตอนนี้มีความสุขมาก ชอบตัวเองเวอร์ชั่นนี้ที่สุดที่เคยมีมา เผยปีนี้จะอุทิศให้กับสิ่งที่อยากทำทั้งการแสดง ร่างกายและสุขภาพขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ได้โฟกัสกับความรัก ขอคิดเรื่องงานอย่างเดียว ไม่ได้ปิดกั้นแต่วันนี้ขอดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก่อน

หลังเปิดตัวนักแสดง “อันธพาล 2499 THE MUSICAL” ฉบับละครเวที ก็เรียกเสียงฮือฮาอย่างมาก เมื่อนักแสดงอย่าง “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ข้ามขีดจำกัดด้วยการแสดงละครเวทีเรื่องแรกในชีวิต กับบท “แดง ไบเล่” จนทำเอาแฟนๆ พากันตั้งหน้าตั้งตารอชมในเวอร์ชั่นนี้กันแบบใจจดใจจ่อแล้ว

ล่าสุด นาย ณภัทร ก็ได้ออกมาอัปเดตความพร้อม ระหว่างซ้อมละครเวที “อันธพาล2499 The Musical” ณ ห้อง R Ditorium โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์

“หลายคนว่านายมาเล่นละครเวทีแล้วดูสบายๆ มากขึ้น ติ๊งต๊องขึ้น (หัวเราะ) ไม่หรอก สนุกมากว่า (ไม่ติดกับภาพเก๊กหล่ออย่างเดียว?) อ๋อ คือพอมาอยู่กับทีมรัชดาลัย จะบอกว่าเป็นทีมที่ทุกคนมีเอเนอร์จี้ในการเล่น ในการแสดง เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานเยอะมากจริงๆ เราคลุกคลีอยู่ตรงนี้ เราซ้อมตั้งแต่บ่าย 2 โมง จนถึง 4-5 ทุ่ม เพราะฉะนั้นมันเหมือนพลังงานทุกคนที่ตั้งใจทำตรงนี้มันดีมากๆ เลย เราเข้ามาเราก็แบบอยากทำให้ดี เพราะทุกคนเหนื่อยเราเห็นทุกคนแบบทุ่มเท เราก็ตั้งใจซ้อม เราก็แบบต้องลุยอย่างนี้

ถามว่าเคยเป็นแบบนี้มาก่อนไหม หรือตัวตนจริงๆ ไม่รู้เหมือนกัน เริ่มสับสนแล้ว ไม่หรอกแต่เราแค่รู้สึกว่าเรามีความสุขกับการทำงาน มีความสุขกับการวิ่งของเรา มีความสุขในแบบทุกวันที่เราจะตื่นมารัชดาลัย มาโรงละคร เรามีความสุขกับชีวิตมากเลย ถามว่าติดคาแรกเตอร์ใครมา คือเราต้องตามให้ทัน 4 คนนี้แสบสุดๆ เลย เราต้องทำตัวเองให้อยู่ให้รอด”

เผยไม่เคยทุ่มเทให้กับการแสดงเท่านี้มาก่อน
“คือจะบอกว่าถ้าผมไม่ได้มาเป็นจ่าฝูงจะไปเป็นลูกกระจ๊อกอยู่ข้างล่าง เข้าใจไหม ผมต้องขึ้นมาอยู่บนห่วงโซ่ให้ได้ นายจะบอกว่าข้างบนห่วงโซ่ที่นี่คือมันมีถึงเพดาน คือมันเป็นแบบพลังงานในการทำงานนั่นแหละอะไรประมาณนั้น มันสนุก คือมาทุกครั้งก็จะแบบเราต้องเอาแรงเอาทุกอย่างกวาดทุกอย่างมา มันรู้สึกว่าหลังจากที่เราได้คลุกคลีกับการเล่นละครเวทีมันมีพลังงานอะไรเพิ่มขึ้นที่เราจะอยากสาดไปใส่ทุกคนประมาณนี้มากกว่า

สำหรับการแสดงของเรา เราก็รู้สึกว่าเราไม่เคยทุ่มเทให้กับการแสดงแบบเหมือนวันนี้ เราเจออะไรบางอย่างได้เรียนรู้จากทีม จากพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) จากบทจากการทำงานมันเหมือนเป็นโลกใหม่ของเรามากเลย เรารู้สึกมันสนุกมาก มันเหมือนที่นี่แหละที่เราตั้งใจเหมือนอยากขึ้นไปยืนแสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้ววันนี้”

ภูมิใจที่อยากจะนำเสนอผลงานชิ้นนี้ให้ทุกคนได้ดู
“ถามว่าพี่บอยชมอะไรเราบ่อยที่สุด คือพี่บอยจะชมเหมือนให้กำลังใจ แล้วเขาก็จะคอยบอกว่าเรามาช่วยกันอุดรอยรั่ว คือที่นี่ทำงานกันเป็นทีมมาก ไม่มีใครรอดคนเดียว ทุกคนต้องไปพร้อมกัน มีอะไรที่เราทำพลาดหรืออะไรเราอยากทำพลาดให้เห็นมากที่สุดในห้องนี้เพื่อที่เราจะค่อยๆ อุดรอยรั่วนั้นไปด้วยกัน เพื่อที่บนเวทีเนี่ยจะผิดพลาดน้อยที่สุดแล้วก็สนุกที่สุด

ก็มีชวนพี่หนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) พี่โอ๊ต (ปราโมทย์ ปาทาน) เรียบร้อย เขามาๆ ชวนหมดเลยทั้งในทีม คือจะบอกว่าพี่หนุ่มเคยโดนทาบทามเล่นละครเวทีด้วย แล้วเราก็คุยกับเขา พี่เขาก็บอกพี่จะไปดูนะ ทุกคนในทีมบิวกิ้น (พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) บอกได้พี่ ผมมาดู พี่โอ๊ตก็แน่นอน มันเป็นเหมือนความภาคภูมิใจเราอยากโชว์งานนี้ส่งมอบให้กับคนที่เรารักแล้ว มันเป็นกำลังใจที่ดีมากเลย แล้วทุกคนก็คอยสนับสนุนเรา ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะหายหน้าหายตาไม่ได้เจอกันมาก ก็ยังคิดถึงแล้วก็โทร.อัปเดตกันตลอดเวลา”

เผยยกเลิกทริปญี่ปุ่น เพราะอยากตัดความเสี่ยงออกจากชีวิตให้หมด
“รู้สึกไม่อยากป่วย คือเราป่วยช่วงแรกแล้วก็เห็นว่าผลกระทบต่องาน ต่อเพื่อนร่วมงาน สิ่งที่เกิดขึ้นเรารู้สึกอยากดูแลตัวเองให้ดีที่สุดในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งความฟิตของร่างกาย ทั้งความอึดที่จะต้องใช้ในการร้องเพลง ทุกๆ อย่าง ดูแลร่างกายเราให้ออกมาให้ดีที่สุด มันเป็นความรับผิดชอบของเรา อะไรที่เสี่ยงๆ ตัดเลยครับ อะไรที่รู้สึกแล้วทำแล้วไม่คุ้มค่ามีผลต่อการทำงานเราตัดหมดเลย

อย่างเช่นล่าสุดจะมีทริปที่จะไปญี่ปุ่น ถ้าใครได้ดูพี่โอ๊ต ปราโมทย์, พี่อาร์ต ที่ไป จริงๆ ทริปนั้นเราก็จะไป แต่ว่าอาทิตย์สุดท้ายมันมีข่าวเรื่องแผ่นดินไหวที่นั่น แล้วเราก็แบบให้เพื่อนช่วยกันไปเช็กแล้วก็แบบบรีฟสั้นๆ ภายใน 5 นาทีหน่อยว่าเป็นยังไง ก็ตัดสินใจนาทีสุดท้ายว่า ถ้าไปแล้วเกิดอะไรแล้วกลับมาทำงานไม่ได้เรารู้สึกว่าไม่คุ้มค่าที่จะแลก แล้วเรามีทีมที่รอเราอยู่ก็เลยคิดว่าโอเคตัดสินใจสุดท้ายที่นี่ว่าเราไม่ไปดีกว่า

อีกอย่างที่ตัดอาหารที่อยากกินมากๆ มาหลายรอบ ตัดขนมหวาน ตัดทุกอย่าง ต้องคุมก็พยายาม เรามีหุ่นแดงไบเล่ในฝันของเราที่อยากเป็นแดง ไบเล่ที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีที่สุดจากการเติบโตของเขา”

ลด 8 กิโลแล้ว
“ตอนนี้ประมาณ 8 กิโลครับ มันเพิ่มมาจากการที่เราชอบวิ่งมาราธอนด้วย แล้วเรามีเป้าหมายในการวิ่งของเราด้วยที่เหมือนทำควบคู่ไปกับละครเวที มันก็เสริมกันเราก็รู้สึกแฮปปี้กับร่างกายเรา ชอบเห็นที่เวลาเราเปียกแบบเหงื่อออก ชอบเห็นแข้งขาเราเท้าเราเวลาวิ่ง เวลาไปยิม ก็มีสังคม พี่ชาย (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) มีพี่จี๋ (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) แล้วทุกคนเขาพร้อมซัปพอร์ตเรามันเป็นอะไรที่ดีมากเลย เราติดการใช้ชีวิตแบบตื่นเช้าไปวิ่งกินกาแฟสักถ้วยแค่นั้นมีความสุขแล้ว

ถามว่าเป็นแดง ไบเล่ในแบบที่ต้องการหรือยัง คือมีความพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่จนกว่าถึงวันแสดงแล้วรู้สึกว่าเรายังอยากพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เลย เหลืออีกเดือนนึงที่จะแสดง ฉะนั้นเรารู้สึกว่าเรามีความพร้อม แต่ว่ามันพร้อมได้มากกว่านี้เรื่อยๆ (บนเวทีน่าจะเห็นร่างทองของนาย?) ซื้อตั๋วที่ ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ได้เลยครับ

หลายคนเห็นซิกแพ็กเรื่องที่แล้วของพี่แบร์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ดีมากๆ เลย เรายังชอบเลยดูเวทีแล้วตาค้าง (เราจะมาไหม?) อะไรที่ทุกคนขอมาพี่บอยก็พยายามจัดให้ทุกคน ถามว่าจะใส่แค่เสื้อกล้ามสีขาวไหม เนื่องจากมันเป็นอันธพาลแล้วมีคิวบู๊การต่อยทะเลาะวิวาทกันมันอาจจะมีเสื้อขาดบ้าง (หัวเราะ)”

นอกจากนี้นายยังออกมาเผยสถานะหัวใจ บอกขอพักเรื่องหัวใจ รักตัวเองในเวอร์ชั่นนี้ที่สุด
ตอนนี้ก็มีความสุขมากๆ กับชีวิตของตัวเอง เรื่องการทำงาน เรื่องเพื่อนฝูง เรื่องบ้าน เรื่องอะไรทุกอย่างคือ ถ้าเอาแบบสั้นๆ โดยรวมนะ วันนี้คือนาย ณภัทร ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดที่เคยมีเลย รู้สึกว่าชอบและแฮปปี้กับทุกสิ่งที่ตัวเองกำลังตัดสินใจทำในตอนนี้เลย

ตอนนี้โสด 100 เปอร์เซ็นต์ ปีนี้เป็นปีที่เราตั้งใจว่าเราจะอุทิศให้กับสิ่งที่อยากทำตามความต้องการ แล้วมีสิ่งที่อยากทำหลากหลายมากเลยครับ เรื่องละครเวทีเป็นหนึ่งในนั้น เรารู้สึกว่าปีนี้เป็นปีที่เราอุทิศให้กับการแสดงมากๆ เรื่องร่างกายโอเคที่ผ่านมาเราอาจจะดูแลร่างกายได้ไม่ดี แต่วันนี้ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่เราก็ให้เรื่องสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิตเลย”

ยังไม่คิดเรื่องความรัก ขอทุ่มกับงาน
“ไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักเลย รู้สึกว่าเราแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้มากๆ แล้วก็รู้สึกว่ามันมีความรักที่มอบให้เราอยู่ทุกที่ เพื่อนฝูงมางาน พี่บอย ทีม หรือไม่ว่าเราจะไปกินอะไรเรามีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่าง แม้กระทั่งการตัดสวนที่บ้าน มันเป็นอะไรที่เราแฮปปี้มาก

มุมมองเรื่องความรักก็ไม่เปลี่ยนนะ ก็ยังมองว่าความรักเป็นสิ่งที่ดีและสวยงามอยู่เสมอ เรารู้สึกว่าเวลาเราได้มานั่งนิ่งๆ ในบางครั้งในช่วงชีวิตอุปสรรคบางอย่างมันจะเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ปัญหามันเป็นเรื่องราวที่ต้องเจอ แต่ว่าทุกอันมันมีคุณค่าในตัวของมันที่มันเกิดขึ้น เราก็รู้สึกเราเรียนรู้ไปกับมัน เขารู้สึกรับรู้ความเป็นห่วงเป็นใยของแต่ละคนมากขึ้นกว่าเดิม เรารู้สึกมันคือชีวิตมนุษย์ เราชอบเวอร์ชั่นวันนี้ของนาย ณภัทร มากๆ เลย มันมีความสุขเหลือเกิน ดีใจที่ได้เติบโตมา ได้มีคนซัปพอร์ตอยู่รอบข้าง ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้มีทุกอย่างที่เรารู้สึกว่าเราแฮปปี้กับสิ่งที่เป็นโมเมนต์เล็กที่สุดของเราได้แล้ว”

ยังเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต แต่วันนี้ขอดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก่อน
“ถามว่าเมื่อไหร่พร้อมเปิดใจ อันนี้ไม่ทราบครับ ชอบดูแลตัวเองที่สุดเลยตอนนี้ (ไม่ได้รู้สึกขาด?) ไม่เลย รู้สึกว่าแฮปปี้กับชีวิตช่วงนี้ที่สุดเลย เราขอคิดเรื่องงานอย่างเดียวตอนนี้ เรื่องหน้าที่สิ่งที่เราอยากทำ โอเคสุขภาพจิตสุขภาพร่างกายเรา เราคิดแค่นั้น ยังเชื่อเรื่องพรหมลิขิตนะ ยังเชื่ออยู่ ยังมองความรักเป็นเรื่องสวยงามที่ดีอยู่ แต่วันนี้เราก็ขอดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก่อน”























กำลังโหลดความคิดเห็น