“ปู ไปรยา” บอกชีวิตไม่ได้ติดหรู ติดแกรมตลอดเวลา ถึงคนจะบอกว่าเป็นระดับมาดามแล้ว แต่เกิดที่สุขุมวิท ก็ขอใช้ชีวิตแบบสุขุมวิทต่อไป ยังนั่งมอเตอร์ไซค์วินไปงานได้ รถหรูมี แบรนด์เนมมี แต่ใช้ตามกาลเทศะ หมดยุคอวดรวยแล้ว ลั่นทุกวันนี้รำถวายพระพรหม ขอพรให้คนในครอบครัวสุขภาพดี คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น โลกสงบสุข เพราะถ้าตนรวยสบายอยู่คนเดียว คนอื่นยังไม่สบายก็คงไม่ใช่เรื่องดี
ตั้งแต่แต่งงานไปกับสามีนักธุรกิจระดับมหาเศรษฐี ตอนนี้ใครๆ ก็เรียกนางเอกสาว “ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก” ว่ามาดาม แต่เจ้าตัวยังยืนยันว่าใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังนั่งมอเตอร์ไซค์วินเหมือนเดิมจนสนิทกันแล้ว บอกชีวิตชาวสุขุมวิทต้องแบบนี้ จะให้มานั่งรถหรูไปทำงานก็คงไม่ทัน เพราะรถติดมาก ซึ่งได้เจอสาวเจ้าในงาน PETA (พีต้า) People for the Ethical Treatment of Animals ณ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เจ้าตัวก็บอกว่าถึงคนจะเรียกว่าเป็นมาดาม แต่ตนก็ยังทำงาน เพราะจะให้มาขอเงินสามีใช้ตลอดก็คงไม่ได้
“พอเรามีงาน มีอะไรดีๆ เราก็มีความสุข เราอยู่โลกเดียวกัน เราจะมองว่าเราสบาย แล้วคนอื่นไม่สบาย มันก็คงอยู่ในโลกที่ค่อนข้างแปลก อย่างตอนโควิด ฝั่งโน้นของโลกมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้น สุดท้ายมันก็มาลงที่เมืองไทยอยู่ดี เพราะงั้นถ้าปูจะมองว่าชีวิตฉันสบายแล้ว แต่คนอื่นยังไม่ได้สบาย แล้วภาวะเศรษฐกิจมันไม่ได้สำคัญ ปูว่ามันเป็นมุมมองที่ไม่ถูก เพราะถ้าคนอื่นไม่สบาย ชีวิตเราก็ไม่สบายหรอก ปูก็ยังทำงานเต็มที่ค่ะ เราต้องคิดว่าชีวิตนี้มันไม่มีอะไรแน่นอน ขึ้นได้ก็มีลงได้ คือธุรกิจสามีก็ดี แต่ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นได้ วิกฤตโลก เราเห็นสงครามประเทศอื่น เห็นโควิดมาอีกรอบ เราเห็นมาหลายอย่างแล้ว ก็เลยมองว่าถ้าเราทำงานต่อไปเรื่อยๆ เก็บเงิน มีความคิดที่ดี เราต้องดูแลตัวเองเพื่อมีเซฟตี้ของเรา ไม่ใช่หวังอย่างเดียวว่าเขาจะมาช่วยเราตลอด มันก็ไม่ได้”
เผยที่มาที่ไปรำถวายพระพรหม เพราะแม่ไปขอตนมาจากพระพรหม
“คือแม่ของปูไปขอปูมาจากพระพรหม ปูก็เลยไปบอกท่านว่าจะรำถวายให้ท่านทุกปี เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต และขอบคุณที่ท่านให้ปูมาอยู่กับแม่ปู และขอบคุณที่ท่านมีอาชีพให้กับปู ก็ขอท่านว่าขอให้สุขภาพพ่อแม่แข็งแรง ขอให้คนไทยมีชีวิตที่ดี ราบรื่น และขอให้เรามีชีวิตที่ดีด้วย ไม่ได้ไหว้ขอหนักอะไรตอนรำ เน้นขอโดยรวมมากกว่า ขอให้โลกสงบสุข ขอให้ครอบครัวสุขภาพแข็งแรง เพราะแม่ก็อายุเยอะแล้ว ก็มีผ่าตัดอะไรกันบ้าง แต่ครั้งนี้รำราบรื่นมาก ครั้งที่แล้วเพลงดับ ใจหายเลย จะต้องรำท่าอะไรต่อเนี่ย (หัวเราะ)”
บอกยังนั่งพี่วินเหมือนเดิม ยุคนี้ไม่ใช่เวลาจะมาอวดรวยกัน
“เมื่อวานต้องนั่งมอเตอร์ไซค์เลย เพราะรถติดมาก ก็เลยต้องนั่งพี่วินเพื่อนสนิท เราคือสาวสุขุมวิท แต่เมื่อวานพี่เขาขับเร็วมาก เขาบอกว่าเห็นหนูนั่งมาตั้งหลายรอบแล้ว ยังกลัวอีกเหรอ ปูก็บอกว่ากลัวสิ (หัวเราะ) พอถอดหมวกกันน็อกปุ๊บหน้าแดงเลย แล้วพี่เขาจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ปูก็รีบตีมือเลย บอกว่าพี่อย่าเพิ่งถ่าย เดี๋ยวหนูให้ถ่ายทีหลัง (หัวเราะ) ก็นั่งจากรัชดาฯ มาซอย 24 คิดดูสิกว่าจะถึงบ้าน จะเป็นลม
คุณสามีก็พิมพ์มาบอกว่ารถที่บ้านก็เยอะ ทำไมไม่นั่งรถ ปูก็บอกว่าเธอ รถมันติดมาก ที่จอดรถก็หายาก รถเธอแต่ละคันก็ขับไม่ง่าย รถนางขับยากจริงๆ (หัวเราะ) มันต่ำด้วย กว่าจะขึ้น กว่าจะลง ก็ไม่เป็นไร มอเตอร์ไซค์นี่แหละ คือปูก็เอาความสะดวกสบายแล้วล่ะ ถึงช้าแต่สวย แต่คนต้องมารอ มันก็ไม่ใช่ คือเราไม่ได้ทำคอนเทนต์ บางทีเรามีของสวย เครื่องประดับ รถเราก็มี แต่มอเตอร์ไซค์เราก็นั่ง มันก็ค่อนข้างมีบาลานซ์ แต่ถามว่าจริงๆ เราลักชูรี่ขนาดนั้นไหม ปูว่าก็ไม่นะ ก็มีนานๆ ทีลงว่ามี แต่ทำให้เป็นมุมมองของไลฟ์สไตล์มากกว่า ไม่ได้เป็นคอนเทนต์ แต่เป็นชีวิตจริงมากกว่า
แต่ปูว่ายุคนี้ก็ไม่ได้เน้นอวดรวยไหม ปูว่ามันไม่ใช่ยุคและไม่ใช่เวลาที่จะทำ จริงๆ ถ้าขับมอเตอร์ไซค์เองได้ก็จะขับแล้วนะ เมื่อวานยังคิดอยู่เลยว่าหาคันเล็กๆ สักคันไหม (หัวเราะ) วันนี้ก็มาแบบหัวฟูเลย เราเกิดมาจากสุขุมวิท เราก็ต้องจบด้วยสุขุมวิท (หัวเราะ) เราอย่าพยายามเป็นอย่างอื่นเลย มันเร็วกว่าด้วย รถกว่าจะมามันนาน”
