“นุ่น วรนุช” เล่าประสบการณ์เปิดโลกการทำงาน ได้ร่วมรายการของประเทศจีน Ride the wind 2025 ถือเป็นโบนัสชีวิต ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้ในอายุเท่านี้
สร้างความฮือฮาให้แฟนๆ ชาวไทย เมื่อเห็น “นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี” ปรากฎตัวในรายการดัง “Ride the wind 2025” ของประเทศจีน พร้อมโชว์สกิลทั้งร้องทั้งเต้นแบบจัดเต็ม ซึ่งก็ได้รับคำวิจารณ์ทั้งบวกและลบ ในงานกาล่าภาพยนตร์เรื่อง “สุสานคนเป็น” ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 สยามพารากอน นุ่น วรนุช ได้เล่าถึงประสบการณ์ในเวทีระดับอินเตอร์ครั้งนี้ว่าถือเป็นโบนัสของชีวิต
“เหนื่อยแล้วก็ยาก มันเป็นรายการ Ride the wind 2025 เหมือนแข่งขันรวมนักแสดง หลากหลายสาขา ก็มาทำโชว์กัน ทำกลุ่มกันแล้วก็มีการโหวตกันให้คะแนนกัน จริงๆ ยากค่ะ แล้วภาษาจีนด้วย เราก็พูดภาษาจีนไม่ได้ แต่ก็สนุก เราก็พยายามสื่อสาร ก็มีน้องที่เด็กที่สุดเป็นหัวหน้าทีมเรา แล้วก็จิตใจดีมาก นุ่นว่าสิ่งสำคัญนอกจากการได้ทำโชว์ ได้เรียนรู้ภาษา คือได้มิตรภาพที่ดีมาก แล้วก็ได้ไปเห็นการทำงานของประเทศจีน เขาทำงานกันหนักมาก บางวันตารางงานวันถัดไปมาตอนตี 4 หรือมีบางวันเลิกตี 5 ก็มี
เวลาในการซ้อมเอารวมๆ แล้วก็น่าจะประมาณ 7 วัน บางครั้งก็คิดอยู่ว่าตัวเองไปทำอะไรตรงนั้น แล้วเราจะทำยังไงเพราะว่าการสื่อสาร แต่เขาก็เตรียมล่ามให้เรา ล่ามก็จะคอยพูดให้เราฟังอยู่ตลอด มันก็เหมือนต้องสื่อสารหลายด้าน หรือบางครั้งพออยู่ไปฟังภาษาจีนได้บ้างก็จะฟังคำเอาแล้วก็รู้ว่าเขาพูดว่าอะไร ล่ามก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดมันก็เหมือนรายการที่มีกล้องอยู่ตลอดเวลา ก็แปลกดีก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้ในอายุเท่านี้
คือรายการมันเหมือนรายการที่ทุกคนจะต้องมีผลงานมาแล้ว ก็จะมีนักแสดงคนนึงที่เป็นนักแสดงของฮ่องกง ก็เป็นนักแสดงที่อาวุโสที่สุดแล้วก็ดังมากๆ ซึ่งตอนนี้ก็ยังดังมากๆ นุ่นก็ดีใจจังเลยว่านักแสดงต่างชาติพอเวลาดังเขาก็ยังมีคนชื่นชม คอยติดตาม ได้เห็นการทำงานหลายๆ ด้านของเขา ก็รู้สึกประทับใจ แล้วก็ได้มองว่าที่อื่นเขาเป็นยังไง”
ไม่มีเวลาให้รู้สึกกังวล เพราะเป็นรายการเรียลลิตี้ ต้องมีสติตลอดเวลา
“พอไปอยู่ตรงนั้นเรารู้สึกว่าเราต้องทำอะไรต่อ ทุกอย่างจะค่อนข้างนิ่งเหมือนกัน เราเองก็ต้องใช้สติเหมือนกัน เพราะมันเป็นรายการเรียลลิตี้ก็ต้องมีการเล่นเกมจะโชว์เพลงอะไรก็ต้องเล่นเกม ก็เลยไม่รู้สึกว่ามันต้องกังวลอยู่ตลอด คือแค่ว่าเราต้องทำอะไรต่อ คือตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะไปเหรอ จนทุกวันๆๆ อาจจะเป็นโปรเจกต์ที่พอดีกันแล้วเหมือนเรื่องนี้จบพอดี แล้วมันเป็นช่วงจังหวะเวลาที่มันได้”
เปิดการเปิดประสบการณ์ เปิดโลกให้ตัวเอง ถือเป็นโบนัสชีวิต สวยได้เพราะมุมกล้อง
“มันเป็นโลกใหม่อีกโลกหนึ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทางด้านของโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับเขา ก็รู้สึกว่ามันมีทั้งดีแล้วก็ไม่ดีควบคู่กันไป แต่สุดท้ายแล้วเราเสพสื่อต่างๆ ที่คนคอมเมนต์ถึงเรา เราก็ต้องปล่อย นุ่นรู้สึกว่าจริงๆ วงการบันเทิงไทยมันก็มีอะไรเปลี่ยนมากขึ้น แล้วก็ยังมีโอกาสให้กับนักแสดงไม่ใช่แค่นุ่นนะคะแต่ยังมีน้องๆ หลายคน รุ่นพี่หลายคนให้ได้ไปทำงาน คิดว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วตัวนุ่นเองก็รู้สึกว่ายังรักการทำงานอยู่ ยังมีความสุขที่ได้ทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ก็โอเค ถ้าไม่ยากจนเกินไปนะ
ส่วนที่คนชมว่าสวย กล้องค่ะ แต่จริงๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องของโปรดักชั่น ก็ต้องขอบคุณ เพราะทุกที่มีกล้องหมดบางพื้นที่มีถึง 20 ตัว มันก็ค่อนข้างเยอะเขาก็สามารถเก็บได้ทุกมุม ก็ขอบคุณนะคะที่ทำให้นุ่นได้มีโอกาสได้ไปร่วมรายการดีๆ แบบนี้ ไม่ได้คาดหวังงานถัดไป แต่แค่เรามีโอกาสได้ไปมันก็โบนัสชีวิตแล้วเหมือนกัน”
