“ปุ้ย ปิยาภรณ์” เปิดเหตุผลเลือก “โอปอล สุชาตา” เป็นตัวแทนในการประกวด Miss World 2025 เชื่ออีกฝ่ายตอบโจทย์ทุกด้าน ลั่นไม่ได้ประกวดเพราะหิวแสง ด้าน “โอปอล” เผยตั้งใจไปประกวด อยากสร้างประโยชน์ให้คนทั้งโลกในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์สักครั้งในชีวิต พร้อมปลดล็อกในใจการเป็นนางงาม ก่อนผันตัวเป็นนักการทูต
ถึงเวลาเชียร์สาวไทยสู้มงฯ ระดับโลกกันแล้ว หลังเปิดตัว “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดบนเวที Miss World ครั้งที่ 72 ที่ประเทศอินเดีย เพื่อคว้ามงฟ้า มงแรกมาครอง
โดยงานนี้ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก”ประธานกรรมการบริหาร บริษัททีพีเอ็นโกลบอล จำกัด ควง “โป้ง ชยาภรณ์ บุนนาค” ผู้อำนวยการกองประกวดมิสเวิลด์ไทยแลนด์ และ “โอปอล สุชาตา" ออกมาเปิดใจ พร้อมเผยเหตุผลที่เลือกโอปอลเป็นตัวแทนในการประกวด Miss World 2025 มั่นใจตอบโจทย์ทุกด้าน
โป้ง : “เรากับคุณปุ้ยคุยกันมานานมาก คือคุยกันตลอดเผื่อจะมีอะไรร่วมกันทำเกี่ยวกับแวดวงประกวดนางงามนี้แหละ คุยไปมาหาจังหวะลงไม่ได้ ซึ่งอันนี้เป็นโอกาสดี ก็เลยได้มาร่วมกัน ซึ่งเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เทโรเลือกหรือคุณปุ้ยเลือก แต่มันเกิดจากการพูดคุยกันแล้วมีทิศทางแนวคิดแล้วก็รายละเอียดที่มันเหมือนกันแล้วไปด้วยกัน”
ปุ้ย : “จุดลงตัวคือคิดว่าแนวทางในการดำเนินการประกวดที่สอดคล้องกันมากกว่า เรามีความเห็นตรงกันว่าบริบทของเวทีมิสเวิลด์มันจะเป็นยังไงความสวยงามที่ควรจะเป็นไปคือยังไง พอเห็นตรงกันอย่างอื่นก็เป็นโจทย์ไล่ตามมาแค่นั้นเอง”
โป้ง : “จริงๆ แล้วปีนี้เทโรเราก็มีแผนที่เราจะจัดประกวดของปีนี้อยู่แล้วก็น่าจะรวมกันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าพอเราเพิ่งทราบข่าวจาก Miss World ว่าเขาจะประกวดในปีหน้า เราคุยกันตั้งแต่ต้นปีว่าเราจะเลื่อนมาหรือเราจะรีบจัดมันก็ไม่ดีหรอก เพราะฉะนั้นเราคุยกันดีกว่าว่าเราจะมีการแต่งตั้งคนที่คิดว่าเหมาะสมแล้วก็ไปในนามเราสิ่งที่ทำด้วยกันนี่แหละ”
ปุ้ย : “ไปในนามสายสะพาย Thailand เพราะจริงๆ แล้วการแต่งตั้งปีนี้มีหลายประเทศที่แต่งตั้ง เนื่องจากเราจะต้องรอทุกอย่างจากทางกองแม่ว่าเขาจะจัดเมื่อไหร่ยังไงเมืองไหน พอประกาศออกมาหลายๆ ประเทศแต่งตั้งตัวแทนไปประกวด”
บอกปีนี้วงการนางงามมีอะไรใหม่ๆ ให้ติดตามแน่นอน
โป้ง : “อันนี้ถือว่าเป็นก้าวแรกที่เราร่วมกัน เดี๋ยวต่อไปเราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ในวงการนางงามแน่นอน New World New Chapter”
ปุ้ย : “จริงๆ เราไม่มีเงื่อนไขไปนำเสนอกับคุณไบรอัน (มร.ไบรอัน แอล. มาร์การ์) เลย ต้องกราบขอบพระคุณทางคุณไบรอันและ TERO Entertainment แล้วก็พี่โป้ง ซึ่งพี่โป้งเป็นผู้อำนวยการกองประกวดมาหลายปีมาก เป็นมือขวาคู่ใจคุณไบรอันมานาน เราคุยกันมาหลายปี สิ่งหนึ่งที่มันจบตั้งหลายปีที่แล้วก็คือเรื่องของนโยบายและความคิดเห็นที่ตรงกัน ดังนั้นเราจึงมาผนึกกำลังการเพื่อสานต่อเรียกว่า New World New Chapter ให้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณไบรอันก็ให้นโยบายมาอย่างเดียวว่า ให้ทุกอย่างทรงคุณค่าในสิ่งที่ควรจะเป็น โจทย์ไหนก็คือต้องตอบสนองความต้องการของแฟนนางงามให้สนุกพร้อมที่จะเชียร์ไปด้วยกันแบบสุดๆ เลย จริงๆ แล้วการทำงานไปคนเดียวมันก็เหนื่อยมาก ถ้าเราจับมือกันแท็กทีมกันเมื่อไหร่มันจะได้ประโยชน์ทั้งกับตัวองค์กรเองแล้วก็คนดูเอง”
บอกทุกอย่างผ่านกระบวนการคิดร่วมกันแล้วว่า You Go I Go
ปุ้ย : “อันนี้เป็นการร่วมกันจัด ซึ่งเราหารือกันตลอดทางเทโร และ TPN มันจะไม่มีว่าฉันทำเธอทำ เธอทำฉันไม่ทัน ทุกอย่างคือจะผ่านกระบวนการคิดร่วมกันแล้วก็ลงมือทำร่วมกัน อย่างที่คุณไบรอันให้นโยบายไว้ว่า You Go I Go”
โป้ง : “คือมันแบ่งกันไม่ได้ งานแบบนี้มันต้องทำด้วยกันไปด้วยกัน เห็นดีแบบเดียวกันแล้วก็ไปเดินหน้า”
ปุ้ย : “หลังจากนี้ก็จะเห็น Miss World ในรูปแบบใหม่ แต่ยังคงหัวใจของ Beauty With A Purpose นะคะ แต่ว่ารูปแบบหรืออะไรเดี๋ยวจะหารือกันตลอดเพื่อมาช่วยกันทำให้เวทีอันทรงคุณค่าสนุกสนานและอยู่ต่อเอาใจแฟนนางงามให้ครบถ้วน”
เผยโอปอลตอบโจทย์ทุกด้าน ลั่นไม่ได้ประกวดเพราะหิวแสง
ปุ้ย : “เรามีโจทย์ร่วมกันว่าต้องหาตัวแทนที่แข็งแกร่งสักคนนึงเพื่อให้สายสะพายไทยแลนด์ปลุกกระแสขึ้นมา และเราก็มองไปมองมาคนที่ใกล้ตัวเราที่สุดตอนนี้คือโอปอล เพราะหนึ่งโอปอลยังไม่เคยหยุดทำโครงการเลย ล่าสุดเดี๋ยวก็จะมีงานของทางศิริราชที่เราต้องไปช่วย คือนโยบายโครงการ OPAL For Her เขาไม่เคยหยุดทำเลย ทุกวันนี้ก็ยังทำเป็นงานการกุศลล้วนๆ สิ่งเหล่านี้เรามองเราว่าคนอื่นๆ ก็ทำเยอะแยะไปหมด ตัวเรานี่แหละไม่ได้รู้จักไม่ได้มีเวลาเรียนรู้ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดอย่างนี้ เราก็บอกกับคุณโป้งว่าพี่โป้งเราเสี่ยงไม่ได้ เราไม่มีเวลาเรียนรู้ เราไม่มีเวลาขุดค้นว่าทำจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรามีอยู่ในมือแล้วเราคิดว่าดีพอบวกกับกระแสทั่วโลกที่เขาเคยเปรียบเปรยนานแล้วว่าอยากให้ไปมันก็เกิดขึ้น
คำเดียวที่เราถามโอปอลวันหนึ่งที่เราเรียกมาที่ออฟฟิศ ถามเขาว่าโอปอลเธอคอมพลีตในหัวใจเธอแล้วยังสิ่งที่เธอทำ เขาก็มีนิดนึงที่เขาพูดว่าจริงๆ หนูคิดว่าหนูก็จะพอแล้วจะเตรียมตัวไปเป็นนักการทูต และเขาก็บอกว่าคุณแม่มันมีอย่างนึงที่หนูรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ในหัวใจหนูมันยังอีกนิดนึงที่หนูยังไม่ถึงฝั่งฝัน ก็เลยถามว่าอะไรของเธอ เขาบอกว่าอยากมีภาพของเขาที่เดินทางไปทั่วโลก แล้วไปทำงานการกุศลทำให้โลกนี้ได้รับผลประโยชน์จากตัวเขาบ้างในฐานะที่เขาเกิดเป็นมนุษย์เขาพูดกับเราแบบนี้”
โอปอล : “ตอนแม่ปุ้ยชวนถามว่าลังเลไหม คือแม่ไม่เคยพูดกับเราเลย เพราะเขารู้ว่าถ้ามันไม่ได้เกิดจากความอยากที่จะไปของเราเอง 1. จะไม่มีทางที่มันจะออกมาดี 2. ไม่มีทางที่เท้าเราจะกล้าก้าวออกไปตรงนั้นแน่นอน หลายๆ คนน่าจะเห็นวันนั้นในบอร์ดแคปกันมาคือไปส่องเพจ Miss World เราก็ไปเลื่อนเห็นแล้วรู้สึกว่าอีกหนึ่งอย่างที่เรายังไม่คอมพลีตในการเป็นนางงามของเรา คือเรารู้สึกเราทำเต็มที่แล้วในเรื่องการประกวดทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่ว่าอย่างหนึ่งที่เราอยากทำในฐานะนางงามของโลกคือ การเดินทางรอบโลกไปช่วยไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนซึ่งเราเห็นว่า Miss World เขาพาคนที่เป็น Miss World ไปทำแล้วรู้สึกว่าตรงนี้มันอาจจะเติมเต็มพาร์ตนี้ของเราได้ให้เรากล้าที่จะมูฟออนต่อไปสักที”
ปุ้ย : “เราบอกเขาว่าให้กลับไปนอนคิดอย่ารีบตอบเพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ อย่าไปเพราะหิวแสงหรืออยากไปเพราะอะไรก็ไม่รู้ เราต้องไปด้วยหัวใจของเรานั่นคือโจทย์เดียว โอปอล์หายไป 1 วัน ขอศึกษาเรื่องแล้วเขาก็กลับมาว่าคุณแม่หนูอยากไป แม่ก็บอกว่าแต่เธอต้องรับรู้นะคือเราอาจจะไม่ได้อะไรเลย เขาบอกว่าเขาไปเพราะอย่างน้อยการไปมันเป็นการตอบโจทย์หัวใจเขาแล้วว่าฉันไปเพื่อทำให้ดีที่สุด ส่วนผลจะออกมาเป็นยังไงนั้นอีกเรื่องนึง”
โป้ง : “อย่างที่คุณปุ้ยบอกว่าไม่ใช่ว่าเราจะจิ้มคนไหนแล้วจะแต่งตั้งไป แต่ว่าคนนั้นก็ต้องมีใจมีความพร้อม พอรู้สึกว่าเป็นโอปอลก็รู้สึกมีความหวัง จะบอกว่าเราก็คุยกันว่าคนไหนเรามีอยู่ในมือบ้าง คนไหนที่มีคุณสมบัติบ้างมันต้องประกอบกัน แล้วก็ในส่วนของความใจสู้ด้วย ในส่วนของตัวน้องเองด้วย”
ไม่อยากให้ใช้คำว่าแบกความหวัง เพราะถ้าเรามองว่าเราแบกมันไว้มันก็จะหนัก แต่ถ้าเรามองว่ามันคือที่สิ่งที่ผลักเราไปข้างหน้าเราก็จะพุ่งไปเลย
โอปอล : “บริบทหลายๆ อย่างของเวที อย่างหนึ่งที่เราต้องตัดสินใจก่อนจะไปคือดูว่าเราสามารถเสิร์ฟอะไรให้เขาได้บ้าง อย่างที่โอปอลบอกว่าการตัดสินใจที่จะไปเราต้องมีใจที่พร้อมที่จะทำเรื่องเวที เพื่อองค์กร เพื่อสังคม
ถามว่าการเดินทางเส้นใหม่มีความเครียดไหมหรอ จริงๆ ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย เรารู้สึกว่าตำแหน่ง Miss Universe Thailand และรองอันดับ 3 Miss Universe 2024 ของเรา เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจและความสำเร็จของเราที่เราตั้งไว้อยู่ตรงนั้นแล้ว ต่อให้ชีวิตมีโอปอลไปประกวดอะไร ไปเป็นใคร ทำการทูต เป็นหมอหรือมีสามีสิ่งนี้มันก็จะตั้งไว้อยู่ข้างบนของชีวิตเราตลอดไป เพียงแค่ว่าเรามีภารกิจใหม่ขึ้นมาซึ่งใครจะไปรู้ว่าถ้าเราตัดสินใจที่จะไปในครั้งนี้ เราอาจจะได้ความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งในชีวิตมาก็ได้ แล้วอาจจะมีหลายๆ คนที่ได้อะไรจากการที่เราไป
ไม่อยากใช้คำว่าแบก ในทุกๆ การประกวดเราบอกแล้วว่า เราพยายามเอาความหวังของทุกคนมันเป็นแรงผลักดัน เพราะฉะนั้นเราเองก็ได้ยินมาจากแฟนคลับหลายๆ ท่านรวมถึงพี่ๆ ในวงการรู้สึกว่าเราเหมาะสมที่จะไป เพราะฉะนั้นครั้งนี้ก็คือไปด้วยความหวัง ไปด้วยความมั่นใจ ไปแบบเต็มที่จริงๆเพราะว่าเราเองก็รู้ว่าคนไทยทุกคนรอมานานแค่ไหนใน 70 กว่าปีเลย”
เผยจะได้เห็นตนในเวอร์ชั่นใหม่ที่หลากหลายขึ้น พร้อมฝากเชียร์และเป็นกำลังใจให้คว้ามงฯ ได้สำเร็จ
โอปอล : “ก็อาจจะมีได้เห็นโอปอลในหลายเวอร์ชั่นขึ้น เพราะขนาดตัวเราเองก็มีบางพาร์ตเหมือนกันที่รู้สึกว่าเพิ่งได้มาปลดล็อกตอนที่เราเตรียมตัวที่จะไป Miss World หวังว่าหลายคนจะเห็นและเอ็นจอยสนุกสนานไปกับการประกวดในครั้งนี้ ส่วนเรื่องลุคอะไรต่างๆ ก็ไม่ต้องห่วงนะคะ
ฝากทุกคนติดตามทางเพจ Miss World thailand แล้วก็เพจ TPN Global แล้วก็เพจส่วนตัวของโอปอลด้วย เดี๋ยวจะอัปเดตให้ฟังว่าไปส่งกันวันไหน ขอให้ทุกคนมากันเยอะๆ นะ หวังว่าทุกคนจะเอ็นจอยและก็สนุก แล้วมีความหวังไปพร้อมๆ กันกับการประกวดครั้งนี้”
