“ต๋อย ไตรภพ” ยก “แม่ผ่องศรี วรนุช” คือราชินีลูกทุ่งตัวจริง เผยแม่เป็นคนสนุกสนานเฮฮา ขอตอบแบบไม่โกหก ไม่เสียใจและเสียดายที่แม่ผ่องศรีจากไป เพราะถึงเวลาที่แม่สบายแล้ว รับไม่รู้จะมีคนรุ่นใหม่ในวงการลูกทุ่งจะเป็นเหมือนแม่อีกไหมในอนาคต
แฟนเพลงเศร้าและร้องไห้กันทั้งประเทศ หลังทราบข่าวร้าย “ผ่องศรี วรนุช” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 เม.ย. 68 สิริอายุ 85 ปี
ล่าสุดพิธีกรชื่อดัง “ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์” ได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัย แม่ผ่องศรี ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 ปี วัดไร่ขิง จ.นครปฐม พร้อมทั้งเปิดใจว่าไม่รู้สึกเสียใจที่แม่จากไป บอกถึงเวลาที่แม่ได้ไปสบายแล้ว
“เราจะมีคนคอยดูแลแม่อยู่แล้ว มีทีมงานของเราเลย เราไปมาหาสู่กันตั้งแต่ทไวไลท์ไทยลูกทุ่งจนมาถึงเดี๋ยวนี้ เราไม่เคยขาดกันเลย ในทุกๆ วันปีใหม่ วันสงกรานต์ ก็ไม่เคยขาดกัน แล้วก็เขาน้ำหนักน้อยลงๆ อย่างนี้มาเรื่อยๆ ก็ยังล้อเล่นยังแซวกันอยู่ตลอดเวลาว่าแม่จะไปถึงไหน แต่เราก็ไม่คิดว่าเขาจะมาถึง 20 กิโลกรัม ตอนนั้นที่ล้อเล่นกันอยู่ยัง 30 กว่า แต่ 30 กว่านี้นานมากแล้วนะครับ เวลาอยู่กับเรามันพูดยากไม่ทราบว่าคนอื่นยังไง ด้วยความเคารพเลยเวลาอยู่กับเราเขาอารมณ์ดีมาก แล้วแม่จะเป็นคนที่มีมารยาทงดงามที่สุดสมเป็นราชินีลูกทุ่งจริงๆ
ตอนที่เราเริ่มทำทไวไลท์ไทยลูกทุ่งครั้งแรก เรานั่งคุยกันในทีมทั้งหมดแล้วเราก็พูดขึ้นมากับทีมสำคัญของเราเลย เขาบอกคนนี้เป็นราชินีลูกทุ่งนะ ถ้าจะทำอะไรขึ้นมาต้องไปหาคนนี้ก่อน ตอนนั้นยังไม่รู้จักกับแม่ ไปหาซะก่อนแต่รู้จักกับแม่ในฐานะที่เขาเป็นนักร้อง แต่ไม่รู้จักเป็นส่วนตัวไปหาแม่ก่อนว่าต้องทำอะไรยังไง แล้วมันจะกลับมาทำได้ไหมลูกทุ่งมันซบเซาตอนนั้น พอแม่ได้ยินแม่ดีใจมากแม่บอกว่าทำเลยๆ แล้วแม่ก็มาหา แล้วก็คุยกันซึ่งแม่ก็เอาพ่อราเชนทร์มาให้เรารู้จัก ซึ่งพ่อราเชนทร์ก็เป็นคนดูแลวงทั้งหมด เชื่อไหมเราอัดทไวไลท์ไทยลูกทุ่งไม่ว่ากี่ปีก็ตามที่เราทำทั้งหมดตอนนั้นไม่มีครั้งไหนแม่ไม่มา แม่มาตลอด มาทุกๆ ครั้งมีของกินทั้งขนมนมเนยเต็มไปหมด”
เผยไม่รู้สึกเสียใจที่แม่จากไป บอกถึงเวลาที่แม่ได้ไปสบายแล้ว
“อยู่กับแม่เป็นสิบๆ ปี แต่ส่วนใหญ่เวลาเจอกันจะสนุกสนานเฮฮา เพราะแม่เป็นคนสนุกมากกับเรา ถามว่าเสียใจไหมที่จากไป นี่พูดตรงๆ เลยนะ ไม่ได้รู้สึกเสียใจ รู้สึกว่าแม่ยิ่งใหญ่ รู้สึกว่ามันถึงเวลาของแม่แล้วที่แม่ได้ไปสบายรู้สึกแบบนั้นจริงๆ”
เผยแม่ผ่องศรีรักวงการเพลงลูกทุ่งมาก บอกถ้าไม่มีวงการนี้ ก็คงไม่มีแม่ผ่องศรีที่ทุกคนรู้จัก
“ตอนแรกเรามาทำทไวไลท์ไทยลูกทุ่งเราจะรู้หรอใครเป็นใคร เราไม่ได้เป็นผู้ชำนาญการมาจากไหน เราปรึกษาแม่ในทุกๆครั้งทุกๆ คน แรกสุดเราเริ่มจากคนที่อยู่ในวงการ ต่อมาแม่ก็มากระซิบเราว่ายังมีคนนี้นะแต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้ร้องเพลงแล้ว ตอนนี้ไปอยู่ราชบุรีนะตามร้านอาหาร เราก็บอกไปเชิญกลับมาเลย แม่ดีใจมาก นักร้องเก่าๆ ถึงได้กลับมาเพราะแม่นะครับ แม่ผ่องศรีเป็นคนบอกเราอันไหนต้องทำ คนไหนเป็นยังไง และเชื่อไม่เชื่อไม่เคยเลยจะหลุดออกจากปากแม่คนนี้ดีหรือไม่ดีแม่ไม่เคยพูดว่าใครเลย
สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือแม่รักงานมาก และแม่ซื่อสัตย์กับงาน ตรงต่องานที่สุดในโลกที่เราเห็นคนๆ นึงมา ตอนที่แม่มาร้องเพลงในรายการเรา แม่อายุเท่าไหร่แล้วแต่ยังร้องคีย์เดิมเป็นเรื่องตื่นเต้นตกใจกันมาก แม่อายุ 60 กว่าแล้วแม่ยังร้องคีย์เดิม สองนัดแม่ไม่ว่ากี่โมงก็ตามไม่เคยไม่ตรงเวลาแล้วมาก่อนเวลาตลอด สามพูดถึงทุกๆ คนด้วยความดีหมด จะพูดถึงผลงานเป็นหลัก จะพูดถึงความรู้สึกที่มีต่อเขา ซึ่งแม่พูดตลอดเวลาเลยถ้าไม่มีวงการลูกทุ่ง แม่ไม่ได้ร้องเพลงลูกทุ่ง แม่ไม่มีวันนี้นะ แม่เคารพวงการลูกทุ่งมากๆ แม่จะพูดตลอดเวลาถ้าไม่มีวงการลูกทุ่งแม่ไม่มีวันนี้ เพราะแม่คือคนธรรมดาคนนึงที่ไม่มีอะไรเลย แม่จะพูดอย่างนี้ตลอดเวลา”
รับไม่เสียใจและไม่เสียดายที่สูญเสีย บอกไม่รู้จะมีคนที่เป็นแบบอย่างแบบแม่ผ่องศรีอีกหรือไม่
“ถ้าพูดจริงๆ เราไม่โกหกนะครับ เราไม่เสียใจและไม่เสียดาย แต่เราเทิดทูนและนับถือ ถ้าถามว่าจะมีคนแบบนี้อีกหรือเปล่า เราไม่ทราบจริงๆ วงการลูกทุ่งแบบสมัยใหม่ และความรู้สึกแบบสมัยใหม่ เราไม่ทราบว่าจะเหมือนคนสมัยก่อนหรือเปล่า คุณดูคนที่มาในงานสิครับแต่ละท่านต้องจูงมือมากันทั้งนั้น แต่มาด้วยความเคารพ มาด้วยความรัก มาด้วยความศรัทธา และแฟนๆ แม่ยังมากันเต็ม เพราะถ้าถามเรา เราว่าแม่คือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เรารู้จักคนหนึ่งในวงการลูกทุ่ง
แม่ไม่มีห่วงนะครับ แม่จะไม่เคยพูดแบบนี้กับเรา จะไม่พูดเลยจะพูดว่าคุณต๋อยทำดีแล้ว มีโอกาสมาลาแม่จะบอกอะไรแม่ คือจริงๆ เราพูดไปแล้ว บอกไปสบายแล้วนะ บอกเก่งจังเลยทำจนเหลือ 20 นะ ก็เพราะพูดกันอย่างนี้มาตลอดชีวิต”
