“แจสซี่ กิระนา” ขอบคุณ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” จากใจที่ยอมเปลี่ยนกฎ MUT บอกดรามาที่เกิดทำให้เราโตขึ้น ขอบคุณทุกคนรอบข้างที่คอยส่งพลังบวกให้ ยินดีร่วมงาน “เต้ ปิยะรัฐ” หลังปลุกตำนานรายการ The Face Thailand ขึ้นมาอีกครั้ง
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่แฟนนางงามเรียกร้องอยากให้กลับมาลงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อีกครั้งสำหรับ “แจสซี่ กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์” ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวเผยว่าคิดจะกลับมาประกวด แต่หลายอย่างยังไม่ลงตัว แถมมีข้อจำกัดห้ามติดสัญญาพรีเซ็นเตอร์ ลั่นถ้าเปลี่ยนกฎพร้อมประกวดทันที แต่งานนี้ก็ไม่วายเกิดดรามา เมื่อ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ไลฟ์สดฟาดแจสซี่ อย่าเกาะกระแส MUT อุตส่าห์เปลี่ยนกฎหวังพิสูจน์คำพูดว่าเป็นคนจริงไหมแต่ก็ยังไม่มา ทำเอาเดือด ลั่น ถึงมาก็ปัดตกรอบแรกชัวร์
ล่าสุด แจสซี่ กิระนา ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นร้อน หลังมาร่วมงานเปิดตัวแบรนด์ Sticol อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยเจ้าตัวเผยว่าข่าวที่ออกมารู้สึกบันเทิงไม่ได้กระทบจิตใจอะไร เผยคนรอบตัวมีแต่ส่งพลังบอกมาให้ ขอบคุณที่จากใจที่ยอมเปลี่ยนกฎให้
“รู้สึกว่าจริงๆ มันก็เป็นเป้าหมายเป้าหมายนึงสำหรับแจสซี่ในฐานะคนในวงการว่าวันนึงแบรนด์ที่เรารักที่เราเห็นคุณค่า จะเห็นคุณค่าในตัวเราด้วย ที่ให้มาเสนอผลิตภัณฑ์ดีๆ มันก็เป็นความฝันของเราและก็เป็นความฝันของหลายๆ คนในวงการบันเทิง เราจะได้เห็นตัวเองบนบิลบอร์ดกับผลิตภัณฑ์ที่เราเชื่อมั่นจริงๆ”
สร้างตัวตนไม่อยาก เพราะเป็นตัวเองตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“ไม่มองว่ายากหรือง่ายคิดว่าทุกอย่างมันมีความยากกับง่ายในทุกๆ อาชีพแต่ว่าเราจะทำยังไงมากกว่า ซึ่งส่วนตัวสำหรับแจสซี่โอเคค่ะ มีความสุขมากกว่าแจสซี่อยู่กับคนรอบข้างที่ให้ค่าแจสซี่ผลักดันไปในทางที่ดี เตือนในวันที่เราพลาดแล้วก็เป็นกำลังใจที่แข็งแรงมากๆ ก็รู้สึกว่าเส้นทางนี้ก็เต็มไปด้วยความรักแล้วก็ความสุขค่ะ
มองว่าไม่ยาก เพราะเราเป็นตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ถ่ายรายการแรกจนถึงทุกวันนี้ เรายึดมั่นว่าเราเป็นตัวเองและก็เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำว่ามันโอเคคือมันดีที่สุด คือในการที่ผู้ใหญ่รอบข้างจะเตือนบ้าง สุดท้ายแล้วตัวเรารู้จักตัวเราดีที่สุดในหลายๆ อย่างทั้งเรื่องครอบครัว ความรัก เพื่อน หรือทีมงานก็จะรู้อยู่แล้วว่าอันไหนสำหรับเรา และอันไหนคือไม่ใช่สำหรับเรา”
ลั่นไม่เคยให้ค่าคนด่าทอ บอกเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวตนเราเอง
“สิ่งที่เราทำละเอียดมากในตัวเราสำคัญที่สุด ดังนั้นเสียงของคนรอบข้างที่เราไม่ให้ค่าก็ไม่กระทบตัวเรา และที่สำคัญคนรอบข้างเราเป็นคนดีทั้งนั้น ถ้าอันผิดเตือนกันไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์การต่อหน้าคนอื่นอยู่แล้ว เราเป็นครอบครัวที่รักกันจริง เราผิดพลาดเรียกมาคุยหรือโทรศัพท์มาเลย แต่เราไม่มีการทำอะไรที่เราไม่เคารพกัน เราเคารพทีมของเราและเราก็เคารพแฟนคลับของเราและเชื่อว่าทั้งทีมและแฟนคลับก็เคารพเราเช่นกัน ไม่ได้ถามว่าแฟนคลับชื่นชอบอะไรในตัวเรา แต่ว่าเราจะทราบกันมาอยู่แล้วว่าเขาชอบที่เราเป็นตัวเองนะ หรือว่าชอบความสามารถที่หลากหลายประมาณนี้ค่ะ
มีคนชอบแล้วก็มีคนที่ไม่ชอบ เรื่องปกติของชีวิตค่ะ ไม่มองเลยค่ะเพราะว่าไม่ได้เห็นไม่ได้อ่านไม่ได้อะไรเลย คนที่ไม่รู้จักเราจริงเขาจะพูดอะไรก็ได้ แต่คนที่รู้จักเราจริงเขาจะรู้ว่าสิ่งที่ได้ยินมาเป็นเรื่องที่ไม่จริง ดังนั้นเราไม่ต้องเอ่ยปากว่าแบบนั้นไม่ใช่ เรามองว่าเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง”
ขอบคุณที่ยอมเปลี่ยนกฎให้ รับดรามาทำให้โตขึ้น
“พี่ใหม่ รัชดา โดนมาเยอะกว่านี้แล้ว เรื่องนี้จิ๊บจ้อยสำหรับคุณใหม่ คือเราว่าพี่ใหม่ต้องปกป้องอยู่แล้วไม่ใช่แค่ในฐานะผู้จัดการ แต่เป็นเหมือนแม่อีกคนที่เราเคารพ มันกระทบลูกเขาแล้วก็ทบตัวเขาเองด้วย เขาต้องมีแอ็กชั่นซึ่งเราก็บอกแม่ใจเย็นๆ แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาทำเราเชื่อมั่นว่าดีที่สุดสำหรับเรา ดังนั้นขอให้เป็นตามกฎอะไรแล้วกัน โดยส่วนตัวยากที่จะทำให้เราล้มหรืออะไร คือไม่ได้เห็นด้วยแต่เชื่อมั่นว่าพี่ใหม่ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้เราตลอด
คนรอบข้างไม่พูดเพราะเขารู้ คือมีคนที่ไม่สนิทเข้ามาให้กำลังใจ ตอนนั้นที่ก่อนเรื่องจะเกิดขึ้นเราไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ เริ่มเห็นในด้อมแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นก็เลยโทร.หาผู้จัดการ พี่ใหม่บอกไม่มีอะไรเลยทางทีมของเราไม่เคยปัด ไม่ได้จะปกป้องลูกให้อยู่ในกรอบ เห็นอะไรก็เห็นแต่ให้ลูกคิดเอง อันนี้ควรโพสต์หรือไม่ควรโพสต์ อันไหนควรเงียบ ทีมเราเคารพเรามากทำอะไรก็ทำเลยไม่เคยมีการให้ลบโพสต์ ไม่มีการบรีฟอะไรเราเลย แล้วเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากด้วยรู้สึกว่าวันนี้มันเป็นวันที่ดีสำหรับเรามาก เรายึดมั่นในคำพูดตัวเอง อาจจะเรื่องที่เราพูดไปก็ขอบคุณแล้วกันที่มีการเปลี่ยนกฎให้ แต่มันมากกว่านั้นทั้งลูกค้าด้วย พี่ใหม่ที่ต้องเห็นด้วยกับเรา ฟังเราโอเคมากๆ เข้าใจความคิดของทุกคน คือคนรอบข้างเรามีแต่คนส่งพลังดีๆ ทั้งชีวิตเราไม่เคยมีดรามาอะไรอย่างนี้เลย แบบ เป็นอย่างนี้เหรอ ก็โอเค
ขอบคุณที่เอ็นดูและเปลี่ยนกฎให้ อันนี้พูดจากใจจริงๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเพราะมันทำให้เรามีทุกๆ วันนี้จริงๆ แต่ทุกบทเรียนสำหรับเราๆ จะโตขึ้นแล้วก็หวังว่าจะได้เป็นคนที่ดีให้ทุกๆ คนได้เรื่อยๆ ขึ้นไป”
อ้อนแฟนๆ รอติดตามด้อมใหม่ที่จะเปิดด้วย
“จริงๆ เพิ่งทราบจากหลังที่ด้อมปิดไปแล้ว เงียบไปแล้วเราก็โทรมาพี่ใหม่บอกเตะเราออกจากด้อมหรอ เพราะเคยแล้วตอนการประกวดแสงสีเสียงเยอะเหลือเกิน ตอนนั้นพี่ใหม่ปกป้องอยู่แล้วก็เลยถามว่าเตะเราออกอีกหรอ เราบอกไม่เป็นไรเราโตแล้ว คือด้อมเรามีกฎใครที่เข้ามาและรู้สึกไม่จริงใจอยู่กับเราไม่ได้ เราเป็นคนทำงานด้วยใจอันไหนที่เป็นงานเราเต็มที่ แต่คนรอบข้างเราๆ ให้ใจมากๆ แล้วถ้าจะมาเปลี่ยนโน่นนี่นั่นมันเยอะเกิน เรารู้สึกไม่จำเป็นเลยดูรู้สึกวุ่นวายปิดแล้วก็เปิดใหม่แล้ว ฝากเข้าด้อมด้วยมีอะไรอีกเยอะ อยู่กับเราไม่มีเบื่อแน่นอน
การคัดเลือกคนเข้าด้อมมันยาก แค่ชื่อในไลน์วัดกันยาก แต่เรามีทีมที่ดูแลเรื่องกฎหมายว่าอันไหนทำให้เราเสียชื่อเสียง มีทีมหลังบ้านที่ดูว่าใครส่งผลกระทบอะไรให้เราและลูกค้าหรือเปล่า แล้วถ้ามีเรื่องอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่โอเค ทีมเราก็ช่วยดูอยู่แล้ว และโชคดีมากๆ ที่มีพี่ใหม่มายืนเคียงข้าง ดังนั้นเราต้องปกป้องตัวเองอันไหนที่มันมากไปก็ต้องปกป้องตัวเอง”
นอกจากนี้ “แจสซี่” ยังเผยถึงรายการ “The Face Thailand” ที่กำลังปลุกตำนานหวนคืนจอในรอบ 5 ปีเต็ม บอกถ้ามีโอกาสพร้อมไปร่วมงานกัน “เต้ ปิยะรัฐ กัลป์จาฤก” แน่นอน
“ตำนานก็คือตำนาน จะมากี่ปีก็ตำนาน รู้สึกว่าเราเกิดมาจาก The Face เราแฮปปี้อยู่แล้วถ้าวันหนึ่งจะได้กลับมาร่วมงาน ถ้าตารางมันตรงกันเราก็พร้อม ถ้าคุณเต้คิดว่าเราพร้อม เราก็พร้อมเพราะว่าคุณเต้เป็นคนเชื่อมั่นเราตั้งแต่วันแรก ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นก็ฝากติดตามด้วยค่ะ รายการ The Face เป็นการประกวดแบบไม่มีสคริปต์ แต่ก็มีการปั่นบ้าง ซึ่งตอนเราเด็กเรายังคัดกรองไม่ได้ ซึ่งเราคิดว่ามันก็เป็นเสน่ห์ของรายการเพราะมันเรียล”
เผยหากเด็กรุ่นใหม่อยากประกวด The Face Thailand คว้าเลยเพราะทุกอย่างคืออนาคตที่เรากำหนดเอง
“ความเรียลเลย รู้สึกว่าเราเกิดมาจากที่นี่ไม่เคยลืมว่าทำอะไรมาบ้าง ขอบคุณทุกอย่างทั้ง The Face Thailand ทั้งตอนอยู่บนเวทีการประกวด รู้สึกขอบคุณประสบการณ์ทุกอย่าง แล้วถ้าได้มีโอกาสไปจุดที่เราเริ่มต้นก็หวังว่าจะเป็นตัวอย่าง คือทุกคนมีโอกาสหมดแล้วแต่เราจะทำ เราก็เป็นผู้เข้าประกวดคนนึงไม่ได้มีแมวมองให้ดึงมาประกวดก็เป็นผู้สมัครเองเลย มันเหมือนเป็นแนวทางถ้าเรามีแพสชั่น รู้สึกว่าถ้าอยากจะสมัครก็ทำเลย เพราะเราเป็นคนเดียวที่จะสามารถตัดสินอนาคตได้ว่าจะเป็นยังไง เพราะดังนั้นอย่าให้ใครมาด้อยค่า อย่าให้ใครมาดูถูก อย่าให้ใครมาพูดไม่ดีต่อเรา ต้องทำในสิ่งที่เราอยากทำ เราทำดีเราได้ดีอันนี้เราเชื่อจริงๆ”
