ออกมาเปิดใจแล้วสำหรับสาว “แพท ณปภา ตันตระกูล” หลังจากที่ “หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์” ได้ออกมาแฉเหตุการณ์เมื่อ 9 ปีก่อนในวันที่เจ้าตัวจัดงานอีเวนต์ครบรอบ 10 ปีของคลินิกตัวเอง ซึ่งตอนนั้นต้องยอมรับว่าแพทและ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” กำลังมีกระแสจิ้นกันแรงมาก ถึงขนาดแฟนคลับติดแฮชแท็กบ้านคู่ #ณปภาคิน ให้เลย แต่เบื้องหลังที่หมอของขวัญออกมาแฉนี่เองที่ทำให้เป็นประเด็น ไม่ว่าจะเรื่องค่าตัวของฝ่ายชายที่เรียกแพงกว่าแพทถึง 4 เท่า ไม่ขอยืนข้างกัน ไม่ขออยู่ห้องแต่งตัวเดียวกัน ไม่สัมภาษณ์คู่ และอีกหลายประเด็นที่ถูกเปิดขึ้นมา
ล่าสุดสาวแพทได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ในรายการ แชร์ข่าวสาวสตรอง ช่องไทยรัฐทีวี เผยว่าจริงๆ ตนลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้ว แต่ก็ยอมรับว่าตอนนั้นตนรู้สึกจริงมากกว่าความเป็นคู่จิ้น
“คืออันนี้ขออนุญาตเลยนะคะ คือจริงๆ แพทลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว มันผ่านมา 9 ปี จนมีข่าววันนั้นเพื่อน (คุณเจน) เขาอยู่ในเหตุการณ์กับแพท และเขาก็มาแบบ จำได้เลย เราก็จำได้ด้วยเหรอ แล้วเราก็มานั่งคุยกัน ว่าจริงๆ มันก็มีเหตุการณ์กันมาตลอด แต่เราเลือกที่จะโดนทัวร์ลงไปก่อน ณ วันนั้น เนื่องจากเราออกตัวเลยว่าไม่จิ้นต่อ อยากเป็นพี่น้องที่แสนดี และไปคุยกับอีกคนเลย นั่นก็คือพ่อของเรซ (เบนซ์ เรซซิ่ง) ทัวร์ก็เลยไม่แฮปปี้กับแพท ณ โมเมนต์นั้น แต่แพทก็ไม่ได้อะไร ทัวร์ลงก็ไม่เป็นไรหรอก เรามีชีวิตของเรา เราต้องเดินต่อไป แต่ ณ วันนั้นแพทเข้าใจนะ คนที่จิ้นก็คงจิ้น และเขาก็คงไม่ได้รู้หลังบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะแพทก็ไม่ได้จะพูด แพทก็พูดไปสั้นๆ
คือแพทเป็นคนแบบนี้ ถ้าย้อนกลับไป 9 ปี แพทอาจจะไม่ได้เป็นฟีลจิ้น เหมือนเรารู้สึกจริง ไม่ได้เข้าใจเรื่องจิ้นมาก และแพทรู้สึกว่าเมื่อเราตัดสินใจที่จะหยุดแล้วไปคุยกับคนอื่น แพทก็ต้องให้เกียรติคนที่เราคุยปัจจุบัน ไม่มาทำอะไรแบบนี้ และพอระยะเวลามันผ่านไป จนแพทได้มาอ่านที่คุณหมอของขวัญลง ถึงได้นึกได้ว่า อ๋อ ใช่ๆ ณ วันนั้น คือแพทจำไม่ได้จริงๆ เราไม่รู้แม้แต่ค่าตัว รู้แค่ว่าไปงาน แต่งงๆ ว่าทำไมแพทไม่ได้ไปอยู่หลังเวที แพทกลัวแค่ว่าคุณหมอจะคิดว่าแพทเรื่องมาก ทำไมต้องจับแพทมาร้านกาแฟดีๆ จริงๆ แพทอยู่หลังเวทีได้ อันนี้คือสิ่งที่แพทอยากสื่อสาร แพทกลัวว่าเดี๋ยวจะคิดว่าเราเยอะ ต้องมาอยู่แยกแค่นั้น”
แอบงงว่าทำไม “หมอของขวัญ” ต้องมายืนคั่นกลาง
“แล้วตอนขึ้นเวทีเขาก็แจ้งว่าอยู่คนละฝั่ง โอเค คนละฝั่งก็คนละฝั่ง คือไม่รู้อะไร แล้วตอนอยู่บนเวทีก็งงว่า หมอของขวัญจะมายืนตรงกลางทำไม แพทลืมไปเลย มารู้อีกทีคือเขาบอกว่า ไม่สามารถที่จะอยู่ห้องพักเดียวกันได้ แพทรู้ทุกอย่างหน้างาน มารู้ว่ามันเป็นการรีเควสของอีกฝั่งว่าต้องแยกไปเลย ณ วันที่จบงาน เราถึงได้เข้าใจว่า อ๋อ มันเป็นแบบนี้ ส่วนเรื่องการสัมภาษณ์คู่ จริงๆ มันต้องเป็นแบบนั้นสิ มางานคู่กัน แต่พอสัมภาษณ์แยกเดี่ยวเพราะบอกว่าอีกเรตราคา เอาเป็นว่าเขาไม่ได้มาคุยหรือบอกอะไรกับเราเลย
อันนี้ก็พูดตรงนี้ไปเลย ชี้แจงไปเลย เพราะหลายคนก็อยากถาม คือคนอื่นพูดแทนแพทไปหมดแล้ว อย่างคุณหมอ ออแกไนซ์ เพื่อน จริงๆ แพทจะบอกว่ามันก็มีคนที่เคยพยายามจะพูดเรื่องนี้ แต่ก็ทนกระแสทัวร์ไม่ไหว ก็เงียบกันไปมากกว่า บางคนจะมองว่า อ๋อ เงียบกันมาเลย ทำไมไม่พูดตั้งแต่ตอนนั้น พอวันนี้ปุ๊บมาพูดกันใหญ่เลย ถ้าพูดกันวันนั้นก็คงไม่มีใครเชื่อ”
