“โย่ง เชิญยิ้ม” เผยอาการหลังผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทดีขึ้นแล้ว แต่หมอยังสั่งห้ามทำงานหนัก ยกของหนัก และขอให้ลดน้ำหนัก บอกตอนนี้โดยรวมทุกอย่างดีขึ้น พยายามทำตามที่หมอสั่ง เหลืออย่างเดียวคือเรื่องลดน้ำหนักที่ยังยากอยู่ แต่พยายามกินข้าวเย็นให้น้อยลง เผยยังรับงานได้ปกติ แต่ดูงานที่รับไหว
หลังจากที่ตลกรุ่นใหญ่ “โย่ง เชิญยิ้ม”หรือ “พิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา” ต้องเข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่หลัง เนื่องจากเจ็บปวดมานานจนทนไม่ไหวต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งล่าสุด โย่ง เชิญยิ้ม จึงได้อัปเดตอาการในงานเปิดป้ายอาคารสมาคมศิลปินตลกอย่างเป็นทางการ ณ ที่ทำการสมาคมฯ (วัดรางหมัน) ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โดยเผยว่าอาการดีขึ้นมากแล้ว รับงานได้ปกติ
“หลังจากที่ผ่าตัดมาแล้วก็ดีขึ้นเยอะเลยครับ มีกายภาพหลังผ่าตัดก็ทำงานได้สะดวกแล้วตอนนี้ ที่เคยชาลงเท้า ปวดสะโพกอะไรก็ไม่มีแล้ว แต่ตอนนั้นมันจะไม่ไหว ตื่นมาก็ปวดสะโพกร้าวลงขาตอนนอนก็เจ็บปวดจากอาการที่มันเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นที่หลัง ทีแรกมันก็เป็นๆ หายๆ แต่พอตอนหลังมันเป็นประจำ ก็เริ่มไม่ไหว เดี๋ยวทำงานไม่สะดวก ก็เลยตัดสินใจไปพบหมอ ก็ได้รับการแนะนำว่าควรเอาออกไปซะ แต่ก็เป็นมานานแล้ว จนพอเป็นไม่หายก็เลยไปพบหมอ บอกหมอว่าไม่อยากปวดแบบนี้แล้ว หมอก็เลยผ่าให้
หมอบอกว่าเกิดจากการใช้ร่ายกายเรานี่แหละ บางทีนั่งรถก็นั่งหลับตัวงอบ้าง และการยกของหนักก็ต้องงดแล้ว ที่หลับที่นอนต้องเปลี่ยนหน่อย ให้มันแข็งขึ้น นอนสบายขึ้น และต้องนอนหงายหมอไม่ให้นอนตะแคง แต่บางทีก็เผลอ เพราะเราติดนอนตะแคง เราก็หวังว่าจะให้มันหายขาด อย่ากลับมาเลย”
เผยไม่กังวลเรื่องผ่าตัด แค่อยากหายจากอาการปวดเท่านั้น
“ไม่กังวลหรอก กังวลแค่ที่ปวดให้มันออกไปสักทีเถอะ เพราะเราเคยผ่านการผ่ามาครั้งนึงแล้ว กับตอนที่ผ่าหมอนรองกระดูกสันหลัง ทีนี้มันเป็นข้อใหม่ ตอนนี้หมอก็สั่งห้ามยกของหนัก การนอน การนั่งก็ควรจะให้มันเซฟที่สุด แล้วก็ให้ลดน้ำหนัก หมอบอกให้ลดก็ยังไม่ได้ลดเลยเนี่ย แต่เขาไม่ได้บอกว่าต้องลงเท่าไหร่ เราก็อยากจะลง แต่มันก็ไม่ลงตามใจเรา ขนาดร่างกายเรายังสั่งไม่ได้เลย แต่ตอนเย็นก็จะกินน้อยๆ หน่อย แต่บางทีเราทำงานมันไม่เป็นเวลาในบางวันก็ต้องเผลอกิน มันเหนื่อยก็ต้องเผลอกินหน่อย แต่พยายามไม่กินข้าวเยอะ ตอนนี้กังวลอย่างเดียวคืออยากจะเอาน้ำหนักลดลง เพราะน้ำหนักมันก็ส่งผล เพราะมันต้องรับน้ำหนักในตัวเรา ถ้าลดน้ำหนักได้หมอบอกว่าจะดีกว่านี้เยอะ
ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไร ยังรับงานได้ปกติ แต่การทำงานของเรามันต้องใช้ร่างกายตลอดเวลา และต้องทำให้สนุก แต่ในขณะที่ใจเราสนุก ถ้าร่างกายเราดึงว่ามันไม่สนุก มันก็รั้งกันอยู่ (หัวเราะ)หมอก็มีพูดให้ทำงานน้อยลงนะ (หัวเราะ) แต่มันคงไม่ได้ เพราะงานเรามันกำหนดไม่ได้ แต่ผมไม่เลือกงานนะ ไม่เลือกๆ รับหมด แต่เอาให้มันมีคิวว่างก็แล้วกัน แต่ถ้าหนักไปก็ไม่ไหว แต่ถ้าเรารับแล้ว เราก็รู้แหละว่าเราไหว แต่ตอนนี้คิวยังว่างนะ เดี๋ยวฉันไม่มีงาน เดี๋ยวต้องนอนอยู่บ้านจนหมอนกิ่ว ยังทำได้เรื่อยๆ ครับ”
