"อานัส" เผยรับงานแสดงน้อยลง เหตุเพราะปัญหาสุขภาพ ผ่าตัดเข่า 2 ข้าง ทำให้เล่นบทบู๊ไม่ได้เหมือนเดิม วิ่งไม่ได้ใช้งานหนักไม่ได้ หันมาลุยธุรกิจน้ำดื่มอย่างเต็มที่และเตรียมทำน้ำพริกขาย
ต้องยอมรับว่านักแสดงหนุ่ม "อานัส ฬาพานิช" เคยเป็นพระเอกคนหนึ่งที่ฮอตมาก เรียกว่าเป็นตัวท็อปของช่อง 7 เลยก็ว่าได้ แต่พอโควิดที่ผ่านมา ประกอบกับเจ้าตัวต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า ทำให้เริ่มรับงานแสดงน้อยลง จากที่เคยเป็นพระเอกนักบู๊มาตลอดกว่า 20 ปีที่อยู่ในวงการ ตอนนี้จะรับบทบู๊เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ต้องใช้สแตนด์อินมาช่วย จนรู้สึกเกรงใจทีมงาน แต่กับผลงานละครเรื่องล่าสุดที่กำลังออกอากาศอยู่ในเรื่อง เงากามเทพ เป็นอีกเรื่องที่ทิ้งช่วงไปประมาณหนึ่งปี ถึงได้ตัดสินใจกลับมารับงานแสดงอีกครั้ง เพราะมุ่งไปทำธุรกิจน้ำดื่มอย่างจริงจังด้วย
"ตอนนี้ละครไม่ค่อยได้เล่นแล้วครับ ก็ออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ก็มีธุรกิจน้ำดื่มที่ทำมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังทำงานในวงการควบคู่กันไปตลอด ไม่ได้ถึงกับจะไม่เล่นละครเลย ถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาเล่น พูดตรงๆ ก็ด้วยสุขภาพของผมด้วย เข่าก็ผ่าตัดมาแล้วสองข้าง การจะเล่นบทบู๊ก็ลำบากนิดนึง เรื่องอายุก็เป็นไปตามวัยด้วยครับ แต่จริงๆ ก็เพิ่งจะห่างละครไปแค่ปีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีเรื่อยๆ ครับ คือถ้ามันไม่หนักมาก ไม่ต้องบู๊อะไรมากมายก็ยังพอรับอยู่บ้างครับ แต่ถ้ามีบู๊หนักมากจริงๆ ก็อาจจะไม่ค่อยได้รับ ก็อาจจะต้องคุยกันก่อน เพราะขาผมมันไม่เหมือนเดิม ผมผ่าสองข้างเนอะ ก็ตั้งแต่ช่วงที่ถ่ายละครแหละครับ หลังๆ ก็จะใช้สแตนด์อินมาช่วย เราก็รู้สึกเกรงใจทีมงาน ตอนนี้ก็ยังนั่งพับเพียบไม่ได้ แล้วเวลาบู๊จังหวะพลิกมันไม่คล่องตัว สักพักเข่าจะบวมขึ้นมา เหมือนมีน้ำออกที่หัวเข่า"
"ผมก็ผ่ามาหลายปีแล้วครับ คือมันก็ใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่ใช้หนักๆ ไม่ได้ ไม่สามารถวิ่งลู่วิ่งได้ เพราะถ้าวิ่งเสร็จก็จะระบม เหมือนเข่ามันจะตึง แล้วก็เหมือนมีน้ำออก อาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่ก็จะตึงที่หัวเข่า ก็ใช้เป็นการเดินออกกำลังกายแทน แต่วิ่งไม่ได้ครับ อย่างผมออกกำลังกายครั้งนึงก็ประมาณ 45 นาที ถ้ามีวิ่งปุ๊บ วันรุ่งขึ้นจะงอขาไม่ได้เลย ก็ลำบาก มันจะปวด มันเกิดจากการอักเสบ เพราะเอ็นเรามันไม่ใช่ของเดิม ถ้าใช้งานที่มันหักโหมเกินไปมันก็จะระบมครับ แต่ก็ใช้ชีวิตปกติ ก็ยังเดินได้เป็น 1-2 ชม. ไม่เป็นไร แต่จะวิ่งหรือกระโดดไม่ได้"
ยอมรับหงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม
"ผมหงุดหงิดมาก จากเคยเล่นฟุตบอลได้ จากที่เคยทำอะไรได้ปกติ การใช้ชีวิตก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น มันก็หงุดหงิด อยากจะออกไปวิ่งกับเพื่อนๆ ตอนเช้าก็ต้องเปลี่ยนเป็นเดิน เพื่อนก็วิ่งไป เราก็เดินเร็วเอา อย่างบทบู๊บางทีเราก็อยากจะเล่นให้มันเต็มที่ แต่เราก็ได้ประมาณนึง ฉากกระโดดก็ทำไม่ได้ ต้องใช้สแตนด์อินช่วย ใช้มุมกล้องช่วย ก็เกรงใจทางกองถ่าย เมื่อก่อนผมก็เต็มที่ อยู่แต่ในป่า (หัวเราะ) เล่นแต่ละครบู๊อย่างเดียว 80% เลย คือมันก็ตามสภาพร่างกายและอายุด้วยครับ ถ้าไม่ผ่าก็จะดีกว่านี้เยอะ แต่มันก็จะหนักกว่าเดิม อย่างเวลาเดินขึ้นบันได ถ้าจังหวะพลิกตัวเร็วๆ พอเช้าวันรุ่งขึ้นเข่าบวมแล้ว ก็ต้องไปเจาะเอาน้ำออก เป็นอย่างนี้อยู่หลายปีตอนช่วงที่ยังไม่ได้ผ่า แต่ตอนนี้ก็ยังต้องระวังตัวเอง ก็ดีขึ้นแล้วครับ แต่ไม่ได้ 100%"
ฝากเตือนนักแสดงรุ่นน้อง ให้เซฟตัวเองให้ดี
"ถ้าจะให้ฝากถึงนักแสดงน้องๆ จริงๆ แล้วเราก็ต้องดูด้วยว่าอะไรที่มันเสี่ยงกับเรามากน้อยขนาดไหน เราทำได้ประมาณไหน แต่จริงๆ แล้วขาข้างแรกเกิดจากที่ไปเตะฟุตบอล แต่อีกข้างเกิดจากถ่ายละคร ก็ต้องระวัง อย่างวันไหนฝนตกลงมา แล้วต้องไปบู๊ตรงที่มีแอ่งน้ำ มีโคลน มีดิน ก็อาจจะต้องบอกทีมงานให้ดูให้หน่อยนะ อย่างตอนที่ผมเล่นกระโดดเตะลงไป แล้วฝนเพิ่งหยุดตก ปรากฎว่ามันลื่น แล้วเข่าก็พลิก เส้นเอ็นขาดเลย เรื่องชุดด้วย ใส่รองเท้าอะไรก็ต้องระวังนิดนึง ถ้าใส่ค้ทชู รองเท้าหนังมันลื่นง่าย ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ ทำที่เราทำได้ อะไรที่มันเสี่ยงมากก็ให้ทีมงานเขาเซฟให้"
บอกไม่ได้ต่อสัญญาช่อง 7 มาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังทำงานให้อยู่ตลอด
"บทบู๊ก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ ครับ แต่ผมปฏิเสธไป เพราะถ้ามีเข้าป่ามันต้องมีบู๊แน่นอน และด้วยความที่ตอนนี้เราทำงานอย่างอื่นด้วย เรามีธุรกิจที่ทำอยู่แล้วมันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องใช้เวลา ต้องแบ่งเวลามาทำตรงนี้ด้วย มันก็เลยยากขึ้นครับ ก็รับน้อยลง แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่รับเลยนะครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยไปเล่นให้ช่อง 8 อยู่เรื่องนึงครับ แล้วก็กลับมาเล่นให้ช่อง 7 จริงๆ ช่อง 7 ก็ป้อนงานให้ตลอด ผมก็เป็นคนที่โชคดีนะ มีงานอยู่ในช่องเกือบตลอด ผมเป็นอิสระมาตั้งแต่อายุ 33 แล้วครับ ไม่ได้ต่อสัญญากับช่องเลย แต่ก็ไม่ได้ไปไหน อยู่แต่กับที่ช่องครับ เพิ่งจะไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วที่ไปเล่นให้ช่อง 8 ครับ"
เตรียมทำธุรกิจน้ำพริกเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง
"ตอนนี้ผมทำน้ำดื่มแบรนด์ชื่อ เอเวียส (Avias) วางขายอยู่แถวรอบๆ เมือง สมุทรสาคร ปทุมธานี อยุธยา ก็จะละแวกนั้น แล้วก็มีที่เชียงใหม่ด้วย ก็ค่อยๆ ขยับขยายไปเรื่อยๆ ครับ ทำมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงโควิดก็เลยได้ไปทำเต็มตัว ตอนนี้ก็มีทำน้ำดื่มอย่างเดียว แล้วก็เคยไปไลฟ์สดกับน้องยุ้ย (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) ก็เอาน้ำพริกของตัวเองที่ทำนี่แหละไปขาย และตอนนี้ก็จะทำโรงงาน กำลังทำให้มันถูกต้อง มี อย. มีฮาลาล ให้มันสามารถขายได้มากกว่าช่องทางในไลฟ์ ก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพักนึงครับ ตอนนี้รอ อย.อยู่ แต่คิดว่าปีนี้น่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์กันครับ
ืที่มาทำน้ำพริกเพราะว่าทุกคนอยากให้ทำกันมาก แต่ช่วงนั้นผมไม่มีเวลามานั่งทำ มานั่งดูแล เพราะยังถ่ายละครอยู่ด้วย และทำน้ำดื่มด้วย พอละครเริ่มซาลงถึงได้มีโอกาสมาทำน้ำพริก เริ่มทำตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ทำโรงงาน แล้วก็ขออย. ตอนนี้ก็ใกล้จะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว คิดว่าพฤษภาคมหรือมิถุนายนก็น่าจะได้เห็นกันแล้วครับ มันก็เริ่มมาจากการไปไลฟ์กับน้องยุ้ยแหละครับ ตอนนั้นจริงๆ ก็ยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรเหมือนกัน ก็เริ่มมาจากมีเพื่อนๆ ที่เขาเป็นพ่อครัวของการบินไทย ช่วงนั้นเขาก็ว่างงานเหมือนกัน ก็มาคุยกันว่าจะทำอะไรกันดี เขาบอกว่าถนัดทำน้ำพริกแจ๋วบอง น้ำพริกปลาสลิด น้ำพริกทั่วๆ ไปก็ลองมาขายกันดู พอทำออกมาแล้วผลตอบรับดีครับ ก็เลยอยากจะต่อยอด แต่ก็หยุดไปนานแล้วเพราะว่าเป็นช่วงที่เล่นละครกับทำโรงงานน้ำ ก็เลยหยุดทำน้ำพริกไป ไม่ได้ทำต่อ ไม่ได้ไปไลฟ์กับน้องยุ้ยด้วย ตอนนี้ก็จะกลับมาไลฟ์บ้างแล้วครับ"
แอบกังวล เพราะนักแสดงหลายคนก็ทำธุรกิจน้ำพริกเหมือนกัน
"ตอนนี้น้ำถือว่าโอเคแล้ว แต่น้ำพริกจริงๆ แล้วผมก็ยังมีความกังวลอยู่นะ เพราะทุกคนก็ทำออกมาเยอะเหมือนกัน มีหลายๆ แบรนด์ หลายๆ ยี่ห้อ แต่ของผมก็มั่นใจอยู่ว่าน่าจะเกาะตลาดคนที่เป็นมุสลิมทานได้ และโรงงานเราก็มีฮาลาล มีอะไรที่รองรับตรงนี้อยู่แล้ว ก็มีความหวังอยู่นะครับ แต่ก็ต้องหาช่องทางการขายน้ำดื่มกับน้ำพริกคนละช่องทางกัน ก็ต้องค่อยๆ ไปเรียนรู้เรื่องการตลาด อาจจะมีให้น้องยุ้ยช่วยโปรโมทในเพจ แล้วผมก็ไปไลฟ์ด้วย ก็เอาเป็นการเริ่มต้นก่อน และกลุ่มเพื่อนๆ ที่ทำด้วยกันก็ช่วยๆ กันขายตามช่องทางของแต่ละคนก่อน ถ้ามีโอกาสก็อาจจะส่งพวกร้านโชว์ห่วยหรือยี่ปั้ว ซาปั้ว เข้ามินิมาร์ทเล็กๆ ได้มั้ย เข้ามินิมาร์ทประจำท้องถิ่นได้มั้ย ถ้ามีโอกาสก็คงประมาณนี้ก่อนครับ เอาแค่นี้ก่อนครับ น้ำดื่มกับน้ำพริก ก็ยากเหมือนกันนะ กว่าจะขออย. กว่าจะทำอะไร เพราะข้อกำหนดเขาก็มีพอสมควร"
บอกไม่เล่นโซเชียลทุกช่อง หวั่นผิดหลักศาสนา
"วงการบันเทิงตอนนี้ผมว่ามันก็เปลี่ยนไปเยอะนะครับ บางทีก็แอบใจหายเหมือนกันนะว่าวงการละครมันก็เงียบๆ เหงาๆ ผู้จัด นักแสดงแต่ละคนก็เริ่มงานน้อยลง แต่ก็ต้องทำใจครับ ยุคสมัยมันเปลี่ยน ทุกคนก็มีช่องทางโซเชียลของตัวเอง แต่ผมไม่ได้เล่นเลยทุกช่องทาง ผมก็จะไปอาศัยน้องๆ ที่เขาเล่นกันให้ช่วยขายของ มันก็มีทั้งส่วนดีและไม่ดีนะครับ ก็อยู่ที่ว่าเราจะใช้ยังไง แต่สำหรับวงการละครผมว่ามันก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะหายไปเลยหรอก มันก็ต้องมีทำแหละ แต่จะต้องปรับเปลี่ยนยังไงก็ต้องตามสถานการณ์"
"ผมไม่ได้เล่นโซเชียลเลยครับ ไม่เล่นทุกช่องทาง เป็นคนแปลก ผมเป็นอิสลามด้วย บางทีการเล่นพวกนี้เยอะๆ ก็ไม่รู้ว่าจะถูกต้องหรือเปล่า และเราก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัวนิดนึง ไม่ค่อยอยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตมาก ก็เลยเลือกที่จะตัดตรงนี้ไป แต่คนเล่นก็ไม่ผิดนะครับ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ การโปรโมทสินค้าของผมก็คือผมก็มีน้องๆ เพื่อนๆ เยอะ เราก็ช่วยกันช่องทางนั้น ส่วนผมก็เดินขายตามร้าน ตามห้าง เราก็เอาหน้าของเราไปขายอยู่แล้ว แต่เพจของโรงงานก็มี แต่เราแค่ไม่ได้ออกตัวเยอะแค่นั้นเองครับ"
