"ครูเงาะ" เล่าเบื้องหลังสอนการแสดง "ลิซ่า" ไม่แปลกใจทำไมใครๆ ก็รักเธอ

หลายคนยังคงประทับใจในการแสดงครั้งแรกของซูเปอร์สตาร์สาว "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" ไม่หาย กับซีรีส์เรื่อง The White Lotus ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยว่าเจ้าตัวได้ไปเรียนการแสดงกับ "ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ" มา และล่าสุดครูเงาะก็ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้สอนการแสดงให้ลิซ่า ผ่านรายการ Podcast Kru Coach ทางช่องยูทิวป์ โดยบอกว่าต้องเก็บอาการสุดๆ เพราะเป็นแฟนคลับอยู่แล้วด้วย

"ครูได้รับการติดต่อมาจากผู้จัดการที่ดูแลน้อง ว่าน้องกำลังจะเล่นหนัง แต่ยังไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร เพราะยังเป็นความลับกันอยู่ แล้วเขาบอกว่าน้องลิซ่าอยากมาเรียน ซึ่งคิวที่น้องได้ แต่ครูติดงานอยู่ ครูก็เคลียร์สิคะ (หัวเราะ) เพราะครูคือแฟนคลับของเขา ครูชอบเขามาก แค่ได้เจอก็อยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆ กับสิ่งที่หนูทำ"

"แล้วเขาก็มาเรียนที่บ้านครูเพื่อความเป็นส่วนตัว ซึ่งน่ารักมาก ด้วยความเป็นลิซ่า เขาเป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว เขามีความเป็นธรรมชาติของเขา เขาก็จะมีความแบบว่า หนูฝากเนื้อฝากตัว โถ แม่คุณ ตอนนั้นครูต้องเก็บอาการพอสมควร เราก็บอกว่าโอเคค่ะ เดี๋ยวครูดูให้ แต่ข้างในคือว๊ายคุณลูก อยากจะหยิกแก้ม น่ารัก"

บอกเป็นเด็กที่หัวไวสุดๆ
"คือผู้กำกับเขาก็อยากได้น้องแหละ แต่มีติดนิดๆ ว่าน้องเป็นศิลปิน มันคนละโหมดกัน ศิลปินกับนักแสดง คือโชว์กับแอคมันคนละความหมาย แต่บ้านเราดันไปตีว่าเหมือนกัน แอคคือการแสดง แต่โชว์มันคือสิ่งที่น้องทำอยู่ การโชว์ต่างๆ ทีนี้พอเป็นโชว์มาก่อน เวลาไปเล่นการแสดง มันอาจจะติดจังหวะของโชว์ ซึ่งอันนี้ครูเข้าใจ เพราะครูก็เคยเป็น ตอนเรียนนิเทศน์ ครูก็เป็นทั้งนักแสดงละครเวทีและเต้นมาก่อน ครูก็จะเข้าใจว่าน้องก็คงเจอปัญหาคล้ายๆ กัน คือจะยังไม่เข้าใจการแสดงว่าเราเข้าไปทำอะไร เรารู้แค่ว่าต้องจำบทแล้วไปทำอะไรบางอย่าง คนที่ไม่เข้าใจการแสดงส่วนใหญ่ เราจะเข้าใจว่าเราจะเข้าไปโชว์อะไรบางอย่าง โชว์ทำท่าฟัง โชว์ทำท่าเขิน แต่ในความเป็นจริงมันคือการรับส่งกัน"

"ดังนั้นตอนแรกพอมาถึงก็ลองให้น้องรับส่งกับครู ก็จะมีบทให้น้องและให้น้องรับส่งกัน ก็เลยเห็นว่าน้องติดอย่างที่ผู้กำกับเขาห่วงจริงๆ แต่ความอเมซซิ่งของเขาคือเขาหัวไวมาก เขาเป็นเด็กหัวไวสุดๆ เลย เรียนรู้ไวมาก คนที่จะประสบความสำเร็จจะเป็นแบบนี้ เวลาเขาได้รับคอมเมนต์ เขาจะไม่ได้ทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ คือเขาคิดว่ามันซีเรียสนะ แต่เขาจะไม่ได้คิดว่าฉันแย่ ฉันคงไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ครูไม่ได้เห็นสิ่งนี้ในลิซ่าเลย ลิซ่าจะตาแป๋วๆ พอครูบอกว่าเมื่อกี้หนูเล่นแบบนี้ลูก เราก็เล่นให้เขาดู เขาก็หัวเราะ ขำๆ ตัวเอง นี่คือรีแอคชั่นที่ครูชอบกับนักแสดง เพราะพอเราทำแบบนี้ปุ๊บ บางคนก็จะเครียดเลย แต่ลิซ่าคือหนูติดการโชว์มาใช่มั้ยคะครู"

"ก็เลยต้องล้าง ถ้ามีลักษณะที่ติดมาแบบนี้มันต้องล้าง เพื่อลบทีท่าความคมทั้งหมด แล้วก็ทำให้เขาได้อยู่กับคนตรงหน้าจริงๆ ให้เขาผ่อนคลาย ให้เขารีแลกซ์ แล้ววิธีแบบนี้มันก็ไม่ใช่ง่ายนะ มันไม่ใช่ทุกคนจะทำง่ายและเร็ว แต่ลิซ่าทำได้ เขารีแลกซ์ คือเขาอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจริงๆ พอทำได้เขาก็เริ่มสนุก เราก็เลยเริ่มให้เขาเข้าบทจริงๆ ก็เป็นการสมมติขึ้นมา เพราะตอนนั้นยังไม่ได้บท ตอนนั้นเราก็เล่นเป็นบทไก่ต๊อกให้ แต่เขาน่ารักมาก เขารับส่งและเล่นเป็นธรรมชาติ เทคแรกๆ อาจจะมีติดที่พอเล่นเสร็จแล้วยังไม่จบ ครูก็เลยบอกว่าลิซ่าลองเล่นแบบที่ถ้าครูยังไม่สั่งคัทก็เล่นต่อสิ เขาก็ทำได้เร็วมาก เขาสามารถเล่นต่อไปได้ ครูก็เลยรู้สึกว่าไม่ยาก ถ้ารอบหน้ามีบทมาก็จับลงบทได้เลย"

ประทับใจกับคำตอบที่ถามว่าทำไมถึงรับบทที่ไม่ได้เด่นอะไรเลย
"เราก็จะสอนวิธีจำเขาว่าควรจำยังไง แล้วพอมาลองเล่นต่อบทด้วยกันเขาเป็นธรรมชาติมากเลย เร็วมาก สิ่งหนึ่งที่ครูรักในตัวเขามากๆ ซึ่งในบทนี้ถ้าเราได้ดูในซีรีส์แล้ว ไม่ได้เป็นบทที่ฆ่าคนหรืออะไรมากมาย ครูก็ถามลิซ่าว่าทำไมหนูถึงเลือกรับ เพราะบทมันอาจจะไม่ได้เด่นเวอร์อะไรขนาดนั้น ลิซ่าบอกว่ามันเพิ่งเป็นงานแรกของหนูในการแสดง หนูอยากทำให้มันดี หนูอยากเริ่มอะไรที่มันง่ายๆ ก่อน แล้วพอหลังจากที่เขาลองกับเราแล้วไปเล่นจริง ผู้กำกับก็ชมเขามากเลย ว่าพอมาอีกทีเป็นอีกคนนึงเลย อันนี้ผู้จัดการน้องเป็นคนเล่าให้ครูฟัง ผู้กำกับบอกว่าดูมีเสน่ห์มากเวลาเล่น เพราะเขาเข้าใจแล้ว แล้วพอผู้กำกับชมเขา ผู้จัดการเขาบอกว่าน้องอยากมาหาครู แล้วเอาพวงมาลัยมากราบครู เพราะอยากขอบคุณครูที่ทำให้หนูรู้สึกเข้าถึงกับการแสดง ครูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไประดับโลกได้ เพราะมายด์เซ็ทเขาเป็นแบบนี้เอง ฉันรักเธอ"

"แล้วพอครูได้ดูซีรีส์จริงๆ น้องน่ารัก น้องไปอีกสเต็ปจากห้องเรียนการแสดงที่ว่าน่ารักแล้ว คือเขารู้ธรรมชาติของเขาว่าเขามีเสน่ห์ยังไง คนๆ นี้ขอแค่เขาเข้าใจ แล้วเขาทำมันได้ธรรมชาติมาก แววตาเขามันเล่าได้หมดเลย ขอแค่รู้สเต็ป น่ารัก เก่งจริงๆ"