xs
xsm
sm
md
lg

“อิงฟ้า” เผยดรามาบุญคุณ “อาม ชุติมา - นายห้าง” คุณลงทุน เราทำงาน มันแลกกัน! ลั่นทุกคนมีสิทธิ์เติบโตในเส้นทางของตัวเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อิงฟ้า” เผยปีนี้งานแสดงแน่น มีหนัง 2 เรื่องรอเปิดตัว ปลายปีมีโปรเจกต์ยักษ์ กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย ใช้ความอดทนมุ่งสู่เป้าหมาย เผยสาเหตุให้กำลังใจ “กชเบล” บอกทุกอย่างมันออกทางสายตา เหมือนเห็นตัวเองตอนจับมือ น้ำตาคลอน้องมงฯ ลงอยากให้เปิดใจ เชื่อจะพิสูจน์ตัวเองได้ ฝากถึง “อาม ชุติมา” อยากเป็นอิงฟ้า 2 ต้องผ่านดรามาไปให้ได้ ลั่นบุญคุณ และการลงทุน เป็นการแลกเปลี่ยน วันหนึ่งก็มีสิทธิ์เติบโตในเส้นทางของตัวเอง

ยังคงเติบโตและปล่อยผลงานในหลากหลายรูปแบบออกมาให้แฟนๆ รอสนับสนุนและติดตามกันอยู่อย่างต่อเนื่อง สำหรับ “อิงฟ้า วราหะ” ที่งานนี้ได้รับคำชื่นชมและการยอมรับจากแฟนบอยเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลาม กับผลงานการแสดงภาพยนตร์ที่ผ่านมา “วิมานหนาม” ที่สามารถถ่ายทอดทุกบทบาท จนสามารถพิสูจน์ฝีมือและพัฒนาการทางการแสดงของเธอได้เป็นอย่างดี

ล่าสุด อิงฟ้า ได้มาร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์ “สงกรานต์นี้ กลับบ้าน พาลูกหลานกลับมาเรียน” พร้อมทั้งเปิดใจว่า ปีนี้งานแสดงแน่น มีหนัง 2 เรื่องรอเปิดตัว แถมปลายปีมีโปรเจกต์ยักษ์

“ปีนี้ได้รับข่าวดีหลายเรื่อง เหมือนเรามีภาพยนตร์ วิมานหนาม ไปก็มีแฟนๆ ภาพยนตร์เพิ่มขึ้น ซึ่งปกติเรามีแฟนคลับผู้หญิงเยอะ ตั้งแต่เราไปต่างประเทศและออกอีเวนต์ต่างๆ ที่ไทยด้วยก็รู้สึกว่ามีแฟนคลับผู้ชาย มีแฟนคลับเด็กๆ หลากหลายกลุ่มมากขึ้นที่แบบติดตามผลงานเราจากวิมานหนาม เขาถามว่าเมื่อไหร่จะมีภาพยนตร์แนวนี้ออกมาอีก ซึ่งตัวเราเองก็ได้รับข่าวดีก็มีภาพยนตร์ที่ได้โชว์ความสามารถแบบขั้นสุดเลยประมาณ 2 เรื่อง

เขารู้จักเรามาจากภาพยนตร์ เหมือนเราไปไต้หวันก็มีแฟนบอยเขาอยากมาเจอเรา เพราะอยากเห็นเราตัวจริงเป็นยังไง ฟีดแบ็กจากแฟนบอยก็ปกติเลยค่ะ ก็มีถ่ายรูปแล้วก็พูดคุย ก็ทำให้เรามั่นใจว่าโอเคเราสามารถตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัยนะ คือบางคนก็ไม่ได้ติดตามแบบว่าเรื่องของการเป็นนางงามอย่างเดียว เป็นแฟนภาพยนตร์ก็มี ติดตามจากผลงานการแสดงของเราก็มีก็ชื่นใจค่ะ

เดี๋ยวเรามีทั้งหมด 5 เรื่องที่จะต้องถ่ายในปีนี้ ซึ่งภาพยนตร์ 2 เรื่องนี้ก็คือหินมากๆ ก็รอเปิดตัวแล้วก็แถลงข่าวให้ทุกคนได้รู้ว่าเป็นบทอะไรเรื่องอะไร ก็รับรองว่าทุกคนจะสมการรอคอยกับการกลับมาในบทบาทของภาพยนตร์แน่นอน ซึ่งส่วนตัวเรายังไม่ได้รู้ดีเทลอะไร ก็ยังไม่ได้รู้นักแสดงร่วม เพราะบอสก็ยังคงอยากเซอร์ไพรส์ให้เรา”

รับกดดันกับผลงานฟอร์มยักษ์
“ตอนแรกก็หายกดดันแล้ว แต่ว่ากลับมากดดันอีกรอบนึงตอนนี้ เพราะว่าเรื่องที่จะถ่ายทำในช่วงสิ้นปีเป็นฟอร์มยักษ์มากๆ และไม่ได้ฉายแค่ในประเทศด้วย มีแพลนที่จะฉายต่างประเทศด้วย ก็แอบกดดันนิดนึงเพราะว่าบทค่อนข้างที่จะยากมาก”

กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย ต้องใช้ความอดทนมุ่งสู่เป้าหมาย
“ก็ต้องใช้ความพยายามจริงๆ ซึ่งความพยายามอย่างเดียวไม่พอต้องอดทนด้วย แล้วก็ความมุ่งมั่น 3 อย่างนี้ก็คือบางทีมันเหนื่อยแหละ แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่มันชัดเจนมากๆ แล้วต้องพาตัวเองไปให้ถึงให้ได้ อย่างภาพยนตร์เราก็ตั้งเป้าว่า 100 มันต้องมา ซึ่งตอนแรกหลายๆ คนยังรู้สึกว่าเนื้อเรื่องแบบนี้มันยากนะด้วยความที่คนไทยอาจจะยังไม่เปิดรับหรือเปล่า แต่มันตั้งแล้วต้องไปให้ถึง

ก็ไม่สบาย คือมันสบายในเรื่องของการเงินที่เข้ามา แน่นอนว่ามันมาคู่กับรายรับที่เรารู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับสิ่งที่เราทำ แต่ในเรื่องของการใช้พลังงาน การใช้สมอง การใช้สุขภาพจิตสุขภาพกายมันก็แลกกัน ก็พักผ่อนดีขึ้นกว่าปีแรก เพราะปีแรกแทบไม่ได้นอนเลย แต่ปีนี้ก็พอยังได้นอนบ้าง”

เผยงบสร้างบ้านบานปลาย เพราะมีการต่อเติมอยู่เรื่อยๆ
“บานเรื่อยๆ ทำต่อเติมเรื่อยๆ เพราะว่าพอเรายิ่งอยู่เราจะรู้ว่าต้องแก้ตรงไหนต้องปรับตรงไหน แล้วยิ่งมีสัตว์เลี้ยงด้วยก็ยิ่งต้องทำให้ลงตัวมากขึ้น ก็มีการกำหนดงบอยู่ แต่ก็มีอย่างเช่นทำสวนเพิ่มไหมในเมื่อเราไม่ค่อยมีเวลาได้ไปเที่ยว เราเป็นคนชอบต้นไม้ชอบอะไรอย่างนี้เราก็ทำเพื่อให้เราได้เสพอะไรที่ทำให้เราคลายเครียดบ้าง เรามีสุนัขเราลองไหมทำห้องเพิ่มต่อเติมไปเรื่อยๆ ก็บ้านเท่ากับบาน”

มงฯ ลงแล้วอยากให้เปิดใจ เชื่อ “กชเบล ศรัณรัตน์” พิสูจน์ตัวเองได้ บอกเหมือนเห็นตัวเองตอนจับมือ
“เราเห็นแล้วคนเราสายตามันออกเวลาที่มีความกังวลมีความเครียดอะไร ก็มองเห็นตัวเองแหละตั้งแต่ตอนจับมือ เพราะว่าตอนที่น้องมงฯ ลงก็ยอมรับน้ำตาคลอเหมือนกัน คือมันเป็นสายบิวตี้ควีน สายที่เขาเรียกว่าเป็น business ซึ่งทุกอย่างมันชัดมากๆ แน่นอนว่าเรามองภาพออกว่าสิ่งที่มันจะตามมาคือดรามามันคือการจับผิด มันคือการเปรียบเทียบ แล้วมันมีมาเรื่อยๆ ก็ไม่กล้าที่จะพูดว่าตอนพี่หนักกว่านี้อีก

คือหนักของเราอาจจะไม่เท่ากันแต่แค่รู้สึกว่าน้องเขาน่าจะเป็นคนทำงานเสพโซเชียลอยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะไม่เสพ แต่เมื่อเสพก็ภาวนาให้แบบมีละทิ้งให้ได้เพราะว่าน้องต้องทำงานเยอะ แล้วก็มีตารางที่แบบไหนงานจะสปอนเซอร์ดึกๆ ดื่นๆ หรืออะไรก็ตามที่เข้ามามันต้องใช้พลังงานต้องใช้เอเนอร์จี้ค่อนข้างเยอะ เมื่อไหร่ที่สายตามันออกปั๊บมันจะดูออกทันที ก็เป็นกำลังใจให้น้องแหละ สุดท้ายมงฯ มันลงแล้วก็อยากให้ทุกคนเปิดใจดูว่าน้องอาจจะพิสูจน์ตัวเองได้เหมือนเราก็ได้ เพราะตอนเราก็หนักเอาเรื่องเหมือนกัน ก็มีคุยตลอดถ้ามีโอกาสได้เจอว่า น้องเป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหม ก็อยากนัดไปกินข้าว ซึ่งเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาเราเองก็ไม่ค่อยมีเวลา ก็เดี๋ยวรอดูเวลาที่หลายๆ อย่างค่อยๆ ซาลง”

รับมีส่วนร่วมในการตัดสินคู่ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล”
“ก็มีในวันนั้น แต่หลักๆ เราว่าก็น่าจะมาจากทางบอส แต่ต้องยอมรับว่าวันมงฯ เสื้อผ้าหน้าผมของน้องกชเบลได้จริงๆ แต่ว่ารอบตอบคำถามก็คงเป็นเฌอเอม (ชญาธนุส ศรทัตต์) แหละ แต่ถ้าเราประกวดกันวันเดียวก็คงเป็นเฌอเอม เพราะตอนที่เฌอเอมตอบก็น้ำตาคลอเหมือนกัน ตอบขนาดนั้นได้ยังไงคือเราก็เสียดาย แต่ในเมื่อมันมีการเก็บตัวตลอดในระยะเวลา 35 วัน ก็ต้องดูภาพรวมว่าเวลาเลือกไปแล้วมันใช้งานเป็นปี มันก็ต้องดูกันยาวๆ ก็ต้องดูกันลึกๆ นิดนึง”

รับปีนี้ดุขึ้นเพราะอยากผลักดันน้องๆ หวังให้อนาคตมาอยู่ในจุดที่ตนยืน
“เบลใช่ไหม ปากบอกก็คงรับได้แหละแต่ลึกๆ ในใจก็คงมีบ้าง ที่แบบเราไม่ได้ฆ่าใครตายทำไมต้องด่าเราขนาดนี้ แต่บางคนก็ต้องยอมรับว่าด่าแรงจริง แต่ก็ต้องอยู่ที่ตัวน้องแหละหลักๆ ก็รับให้ได้ (เป็นรุ่นพี่ด้วยต้องเป็นครูอีก?) ก็เป็นความสุขอีกหนึ่งอย่าง เหมือนเราได้สานฝันตัวเองด้วย คือไม่ได้อยากให้มีเราคนเดียวที่สามารถต่อยอดหรือว่ามีงานได้ มันก็ควรมีไม้ต่อวันใดวันหนึ่งเราหมดหน้าที่ของเราไปก็จะได้ไปต่อกันได้ หรือเราอาจจะมาในพาร์ตของการเป็นเบื้องหลังจริงๆ เป็นผู้ช่วยหรืออะไรอย่างนี้เราก็จะได้มีคนที่ผลิตผลงานต่อไปของเราได้ด้วย

ถ้าตัวเราเองเรามีเวลาก็อยากที่จะผลักดันน้องๆ อยากอยู่กับน้องๆ มากกว่านี้ด้วยซ้ำ อยากนัดเจอที่ออฟฟิศไปกินข้าวกัน แต่อย่างที่บอกว่าช่วงนี้ก็เป็นช่วงโอกาสของเราด้วย สำหรับละครภาพยนตร์ที่เข้ามาตอนนี้ก็คือคิวตีกันไปหมด แค่วันหยุดของเราก็น้อยมากๆ แล้ว”

เผยถึงดรามา “อาม ชุติมา โสดาภักดิ์” กับนายห้าง ลั่นไม่ดีจริง คงไม่มาถึงจุดนี้ ในเวอร์ชั่นใหม่ที่ทุกคนได้เห็น
“ก็ดีใจน้องมีงาน คือดูไลฟ์สดตลอดเลย คือศิลปินเขาจะมีความสุขเวลาได้จับไมค์เป็นตัวเองก็รู้สึกดีใจ ก็ภูมิใจในตัวชุตี้มาก อย่างที่บอกไปว่าตำแหน่งไม่ได้การันตีเรื่องของรายได้และการต่อยอด เขาก็มีจุดแข็งของเขาที่เขาสามารถต่อยอดในด้านการร้องเพลงของเขาได้ ซึ่งหลายๆ คนก็ชื่นชอบแล้วก็กลับมาเป็น อาม ชุติมา ในเวอร์ชั่นใหม่ที่เราไม่เคยเห็น

เราเหมือนเขา หรือเขาเหมือนเรา ก็เหมือนนะคะ ก็อาจจะเหมือนในเรื่องของความสามารถแล้วกัน ส่วนหน้าตาก็จิ้มลิ้มเหมือนกัน ก็แอบเห็นว่าผมทุกอย่างมันเหมือนกันเลย ท่าลงบันไดยังเหมือนเลย วันหนึ่งก็ยังคิดเหมือนว่า ไม่ต้องเหมือนพี่แม้แต่ตอนลงบันไดก็ได้ เห็นกชเบลจับแขนด้วย ก็เป็นคนเดียวที่แบบเพื่อนคอยประคับประคองอะไรแบบนี้ก็น่ารักดี”

ถ้าอยากเป็น “อิงฟ้า 2” ต้องผ่านเรื่องดรามาให้ได้
“จริงๆ ถ้ายึดมั่นในเรื่องของคนทำดียังไงก็ได้ดี ถ้าหากว่าน้องเป็นอย่างที่เขาพูดสุดท้ายน้องก็คงไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้ เราก็ยังเชื่อว่าตัวน้องเองคนรอบข้างซัปพอร์ตเขาดีมาก หมายถึงคนนอกวงการนะคะ ถ้าหากว่าตัวอามเองไม่ได้มีข้อดีหรือเป็นอย่างที่เขากล่าวมา เขาน่าจะตัวคนเดียวแต่เรารู้สึกว่าตลอดระยะเวลาที่เห็นน้อง น้องมีคนซัปพอร์ตรอบตัวดีส่วนตัวเราเองได้สัมผัสกับตัวน้อง น้องเขาก็เป็นคนน่ารัก

ส่วนเรื่องของบุญคุณมันคือการแลกกัน เพราะว่าการที่เมื่อไหร่ที่เด็กคนหนึ่งมีการเซ็นสัญญาหรือว่ามีการทำงาน มันก็คือทำงานร่วมกับการลงทุน คุณลงทุนเราทำงานมันคือการแลกกันเพราะฉะนั้นเรื่องของบุญคุณมันอาจจะไม่ได้มองว่าเป็นการที่เราจะมาตัดสินชีวิตคนๆ นึง ว่าเด็กคนนี้เนรคุณ หรือเด็กคนนี้แบบไม่ให้เกียรติไม่ให้อะไร เมื่อวันหนึ่งที่เขาต้องเติบโตหรือว่าหมดสัญญาไปแล้ว คนๆ นึงก็มีสิทธิ์ที่จะเติบโตได้ในเส้นทางของตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้วเราเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นการแต่งเพลงหรือว่าการร้องเพลง เขาก็สู้ของเขามาตลอด จนเขามีวันนี้ถ้าเขาไม่ได้ตัดสินใจกลับมาประกวดนางงามเราอาจจะไม่ได้เห็นมาดามชุตี้ในเวอร์ชั่นนี้ก็ได้

ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะถ้าอยากเป็นอิงฟ้า 2 จริงๆ ต้องก้าวข้ามผ่านให้ได้ แล้วก็มูฟออนต่อไป แต่ถ้าอันไหนที่เรารู้สึกว่ามีคนแนะนำที่เราสามารถปรับได้ให้ชีวิตเราดีขึ้น ให้เรามีความอ่อนน้อมถ่อมตนขึ้น ให้เราอยู่ในวงการได้โดยที่เราไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเราก็รับฟัง แต่อันไหนที่เขาตักเตือนมาเพื่อที่จะลดทอนความมั่นใจเราดูถูกเราหรืออะไรก็ตามก็ให้มองข้ามไป เพราะว่าบางสิ่งบางอย่างพวกนี้บางทีมันอาจจะเป็นบันไดที่ทำให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จเท่านั้นเอง”









กำลังโหลดความคิดเห็น