“ต่าย ชัชฎาภรณ์” ให้กำลังใจ “คะน้า” ชื่นชมความกล้า แฉ “ไฮโซเก๊” เข้มแข็งมาก เป็นตนคงเครียด ไม่รู้จะทำได้แบบนี้หรือเปล่า รับน่ากลัว โลกนี้อยู่ยาก
กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าเลยทีเดียว หลังจากที่ “คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ”นางร้ายช่อง 7 ได้ออกมาแฉเดือด “ฮอต ไฮโซเก๊”หนุ่มที่หลอกจะแต่งงาน สุดท้ายพบว่าเป็นมิจฉาชีพ แอบอ้างเบื้องสูง แอบอ้างนายกฯ แอบอ้างมีรถนำขบวน หลายๆ วีรกรรมที่ถูกขุดออกมา คนไทยคาดไม่ถึงว่าจะกล้าถึงขนาดนี้
ล่าสุด “ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา” รุ่นพี่นางร้ายช่อง 7 ได้ออกปากชื่นชมความกล้าคะน้า พร้อมยอมรับว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าโลกนี้อยู่ยากและน่ากลัว
“สำหรับข่าวของน้องคะน้า ต่ายก็รู้ตามข่าวเหมือนกัน คือไม่ได้ทราบล่วงหน้า ตามข่าวบ้าง แต่ก็ไม่ได้เห็นครบทุกข่าว เพราะว่าบางครั้งก็ยังเรียลไทม์อยู่เลย ก็ยังต้องฟังข่าวกันต่อไป ว่าต่อๆ ไปว่าเขาจะพิจารณาอย่างไรเพราะว่าต่ายก็ทราบมาว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายด้วย มีการขึ้นศาลกัน
คือก็ต้องรอฟังต่อไป เพียงแต่ว่าถ้าเป็นความรู้สึกของเรา ต่ายก็มองว่าเรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครเราก็ต้องให้กำลังใจกัน ในมุมของเราเป็นผู้หญิงด้วย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็น่าจะสะเทือนใจ ทั้งตัวน้องเองและทั้งคนที่รักน้อง ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ไม่ว่าเหตุการณ์จะจบอยู่ที่ตรงไหนก็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ส่วนคะน้ากับต่ายน่าจะเคยเจอกันที่ช่องบ้าง แต่ว่าไม่น่าจะมีละครด้วยกัน อันนี้ไม่แน่ใจ”
บอกหากเป็นตัวเองก็คงเครียดเหมือนกัน ไม่รู้จะทำได้แบบคะน้าหรือเปล่า ชื่นชมความกล้า
“คือเรื่องของคะน้ามันลุกลาม และคนพูดถึงเยอะเหมือนกัน ทุกช่องทุกสื่อเลย คือถ้าเป็นต่าย ต่ายก็คงเครียด เรื่องแบบนี้ต่ายบอกตรงๆ ว่าไม่รู้จะวิเคราะห์ยังไง คือถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา เรายังไม่รู้เลยว่า เราจะทำได้อย่างที่น้องทำหรือเปล่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิง แต่ว่าผู้หญิงต้องมีความเข้มแข็งในตัวเองก่อนอันดับหนึ่งเพราะต่ายมั่นใจว่าน้องเสียใจอยู่แล้ว ไม่มีใครอยากมาเจอสถานการณ์แบบนี้
ก็อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้น้อง คือหลายคนชื่นชมในความกล้าของน้องที่กล้าออกมาพูด ต่ายถึงบอกว่าถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่รู้หรอก เราอาจจะเข้มแข็งไม่ได้เท่ากับที่น้องทำก็ได้แล้วสิ่งที่น้องทำต่ายก็มองว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้ผู้ชายคนนี้เขาได้ยุติวงจรนี้สักที เพราะว่าเท่าที่ต่ายทราบมาก็มีคนที่เสียหายเรื่องนี้เยอะมากก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
รับน่ากลัว โลกนี้อยู่ยาก
“คือมันน่ากลัวมาก มันมีความรู้สึกว่าทำไมโลกนี้มันอยู่ยากขึ้นเหลือเกิน ถ้าเราเป็นคนของประชาชน ถ้าเราเป็นดารา มีใครมาถ่ายรูปคู่กับเราเวลาเราไปงาน เราปฏิเสธไม่ได้ แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่ารูปนี้จะไปทำความเดือดร้อนให้กับใครนั่นเป็นสิ่งที่ดูแล้วดูน่ากลัว ดังนั้นไม่ว่าเราจะคบใครเป็นเพื่อนหรือว่าจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ต่ายว่าต้องคิดให้เยอะๆ ต้องวางแผนดีๆ แล้วก็ตัวเราเองต้องรอบคอบกว่าเดิมในการคบคน ในการเลือกเพื่อน หรือว่าต้องไม่พาตัวเองไปอยู่ในจุดที่อโคจร หรือว่ามีความเสี่ยง เพื่อความเซฟตี้
ซึ่งในเรื่องแปลกๆ ที่ต่ายเคยเจอ ของต่ายจะมีประเภทที่ไลน์มาแล้วก็แบบว่าต่ายไม่รู้จัก ซึ่งมาในรูปแบบที่ต่ายเดาว่าเป็นมิจฉาชีพ เข้ามาคุยด้วยแต่ต่ายก็ไม่ได้ตอบ อ่านแต่ไม่ตอบแล้วก็ไปถามเพื่อนๆ นี่แหละคือการรีเช็ก เราต้องไปถามกับเพื่อนๆ ก่อนว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้นกันบ้างไหม พอเรารู้ว่ามันไม่ใช่เราคนเดียวนะ ดังนั้นเราก็ต้องแบบคิดเยอะๆ นิดนึงในการที่จะคุยกับใครว่าเขาเป็นตัวจริงหรือว่ามิจฉาชีพ”
ยังให้ประชาชนถ่ายรูปเหมือนเดิม
“สำหรับจุดนี้เรื่องการขอถ่ายรูปต่ายก็ไม่ปฏิเสธเหมือนเดิม เพียงแต่อย่างที่บอกว่าต่ายคงไม่ปฏิเสธการขอถ่ายรูปเรายังคงเป็นคนเดิมของประชาชน เรายังชอบที่จะยิ้ม เรายังชอบที่จะทักทาย แล้วถ้าเรายังมีอาชีพนี้อยู่ มีความสุขที่ได้เจอคน ดังนั้นต่ายบอกแล้วว่าตัวเราเองต่างหากที่ต้องพิจารณาดีๆ ว่าอย่าไปหลงเชื่อรูปถ่ายง่ายๆ ก็ฝากเตือนหลายๆ คนเพราะเราไม่รู้หรอกว่ารูปนั้นจริงเท็จแค่ไหน เขาจะเอารูปธรรมดาไปเล่าเรื่องอีกแบบนึง ดังนั้นการใช้วิจารณญาณในการเสพสื่ออันนี้สำคัญมากๆ แล้วพอมันมีด้านบวกแล้วมันก็ต้องมีด้านลบในเรื่องของคอมเมนต์ มันเป็นเรื่องที่เราห้ามไม่ได้ เราห้ามคนคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่เขาอ่านข่าวหรือเสพข่าวเขาจะพิจารณาเกี่ยวกับรูปที่เห็นหรือคดียังไง คือทำได้อย่างเดียวคือ ตัวน้องเองต้องเข้มแข็ง และอยากให้ส่งกำลังใจให้น้อง”
