xs
xsm
sm
md
lg

“ชมพู่ อารยา” เผยดีนะยังเรียกพี่ ไม่เรียกป้า! ไม่ซีเรียสตกยุค เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักแล้ว “น็อต” สร้างบ้านเร็วขึ้นหลังแผ่นดินไหว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชมพู่ อารยา” เผยประสบการณ์อุ้ม “น้องแอบิเกล” วิ่งลงจากคอนโดชั้น 47 จากเหตุแผ่นดินไหวด้วยเท้าเปล่า บอกรู้สึกได้ถึงแรงเหวี่ยงบนคอนโดจึงรีบคว้ากางเกงและวิ่งไปหาลูกสาว เผยภาพตัดรู้ตัวอีกทีอยู่ทางหนีไฟ เร่งทำบ้านใหม่คาดเสร็จภายใน 3 ปี ขำๆ เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จัก อย่างน้อยยังเรียกพี่ ดีไม่เรียกป้า บอกทุกวันนี้ไปส่งลูกที่โรงเรียนเพื่อนๆ ของลูกก็ไม่มีใครรู้จักว่าตนเป็นดารา

เรียกว่าเป็นเรื่องระทึกขวัญในชีวิตของหลายๆ คน รวมถึงนางเอกสาว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งก่อนหน้านี้เพื่อนสนิทอย่างไฮโซสาว “พลอย ชวพร เลาหพงศ์ชนะ” ก็ออกมาเล่าว่า ชมพู่ได้อุ้มลูกสาว “น้องแอบิเกล” วิ่งลงบันไดหนีไฟจากชั้น 47 ด้วยเท้าเปล่าแบบไม่คิดชีวิต มีสัญชาตญาณความเป็นแม่มาก แถมพ่อ “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” ตามมาทันจึงมาอุ้มน้องเกลวิ่งต่อมาถึงด้านล่าง โดยทุกคนปลอดภัย

ล่าสุด ชมพู่ อารยา มาร่วมงานแถลงข่าว “137 ดีกรี?” ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเจ้าตัวเล่าวินาทีแผ่นดินไหววิ่งเท้าเปล่า อุ้มลูกสาว “น้องแอบิเกล” ลงจากชั้น 47 บอกตอนนั้นภาพตัดไปหมด รู้สึกว่าต้องวิ่งลงข้างล่างแล้ว

“ตอนนั้นนั่งแต่งหน้าอยู่นัดกันกับเพื่อน พลอย ชวพร และอู๋ มันเป็นวันทำคอนเทนต์กับเรานะ เดี๋ยวเราจะวางแผนว่าเราจะตระเวนทำคอนเทนต์อะไรบ้าง งานลูกค้า งานเราอะไรแบบนี้ กำลังนั่งแต่งหน้าและเม้าธ์มอยกันอยู่ พลอยเขาก็รู้สึกก่อนแล้วเราค่อยรู้สึก ทีนี้เรารู้แล้วว่ามันไม่ใช่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาไม่อยู่แล้ว รู้สึกมันโยก มันไปแบบไม่คิดอะไรเลย แรงสั่นสะเทือนไม่เท่าไหร่ แต่แรงโยกเอนซ้ายเอนขวา แต่เราเข้าใจว่าคนที่อยู่ต่ำมาหน่อยเขาจะได้รับความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง แต่ของเราจะโยกไปมา

คือมันรู้สึกเหมือนเราอยู่ในเรือแล้วมันแบบเอน แต่งตัวยังไม่เรียบร้อยด้วยใส่เสื้อตัวเดียว ก็วิ่งออกจากห้องแต่งตัว แล้วก่อนจะลงบันไดไปอีกชั้นหนึ่งผ่านห้องทำงานตัวเอง มีเสื้อผ้าวางกระจัดกระจายก็ยังพอมีสติหยิบกางเกงมาตัวนึงแล้วก็ใส่ลงไปหาลูกข้างล่าง

ตอนนั้นใจมันไม่ได้คิดอะไรเลยแค่รู้ว่าจะออกไปให้ได้ แล้วตาก็มองทุกชั้นเลยว่าทำไมมันไม่ลดสักที คือเหมือนกว่าจะพ้นเลขสี่ เหมือนเราจำได้ว่าดูครั้งสุดท้ายคือ 33 แล้วก็เลิกดูอีกเลยมันท้อไม่ดูแล้วใส่อย่างเดียวเลย”

เผยอุ้ม “น้องแอบิเกล” วิ่งลงบันไดหนีไฟจากชั้น 47 ด้วยเท้าเปล่าแบบไม่คิดชีวิต เพราะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่สูง
จริงๆ ตอนแรกอู๋เขาอยู่ชั้น 46 เราอยู่ชั้น 47 คือเราเหมือนภาพมันตัด คนอื่นเขาจะเห็นแชนเดอเลียร์แกว่ง แต่เราไม่เห็นอะไรเลย เหมือนจะโฟกัสตัวเองแล้วเราจะไปข้างหน้าอย่างเดียวเลย แล้วจะไปเอาลูกเลย เราจำอะไรระหว่างทางไม่ได้ เราจำได้แค่หยิบกางเกงแล้วภาพเราก็ตัดมาที่ทางหนีไฟเลยเพราะว่าจำไม่ได้ เห็นว่าอู๋อุ้มน้องอยู่สะพายกระเป๋าดูทุลักทุเล แต่ถามว่ารู้ไหมว่าเขาเอาอยู่เขาแข็งแรง รู้เพราะออกกำลังกายด้วยกัน ก็รู้ศักยภาพเขาแต่เราก็เป็นแม่

เขาก็สัมผัสได้ว่าทุกคนค่อนข้างแพนิก เขาก็ถามว่าแม่เราหนีอะไร เขาก็มีแบบจะร้องเหมือนกัน เราก็บอกไม่ต้องกลัวเดี๋ยวแม่พาออกไป สายฟ้า พายุ อยู่โรงเรียน เรามาเปลี่ยนมือกับอู๋ตรงชั้น 44 เราเห็นแล้วมันทุลักทุเล เหมือนเขาอุ้มไม่ถูกใจด้วย แล้วเราก็เป็นแม่เรารู้สึกต้องเป็นเรา ถ้าอยู่กับแม่เขาจะรู้สึกอบอุ่นมากกว่า ก็วิ่งมาเรื่อยๆ

คุณน็อตอาบน้ำอยู่ฟองเต็มหัวเลย เขาก็เข้าไปใส่เสื้อผ้า พอเหมือนเขาออกมาอีกทีเราไม่อยู่แล้วไปแล้ว พอเดินออกมาเขาไม่เห็นใคร เขาก็กลัวว่าจะมีใครที่ตกหล่น เขาก็วิ่งเช็กรอบบ้าน แล้วก็วิ่งตามลงไปและเจอเราประมาณชั้น 10 เขาก็บอกมาเดี๋ยวพี่ช่วย เราก็บอกจะถึงอยู่แล้ว (หัวเราะ) ก็เข้าใจแหละว่าเราก็ต้องให้เขาอุ้ม ถ้าเขาไม่ได้อุ้มเลยเขาจะรู้สึกว่านั่นแหละ ก็เลยส่งต่อให้วิ่งลงมาไม่มีใครใส่รองเท้ากันสักคน”

เร่งสร้างบ้านเร็วขึ้นหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว
“พอเหตุการณ์จบลง เราก็เข้าไปดูเช้าวันรุ่งขึ้น ก็ไม่มีอะไรเสียหาย (พอเหตุการณ์แพลนจะสร้างบ้านเร็วขึ้น?) จริงๆ มีที่แล้ว กำลังดูเรื่องแบบกันอยู่ พอแผ่นดินไหวปุ๊บพ่อก็เลยเร่ง (หัวเราะ) ยังไงก็ต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน เรียกว่ามีแรงจูงใจมากขึ้น แต่ตอนนี้เราก็กลับไปนอนปกติ เราก็รู้สึกว่าโอเคแล้ว ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป จริงๆ เรื่องของภัยธรรมชาติอยู่ที่ไหนมันก็เจอได้ อย่างเวลาน้ำท่วมก็บอกว่าอยู่คอนโดดี ขอแผ่นดินไหวก็บอกว่าอยู่บ้าน จริงๆ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดและชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป

ถ้าถามว่าเด็กๆ รู้ไหมเกิดอะไรขึ้น คือเราสัมภาษณ์ลูก เราเห็นเขาไม่ได้แพนิกมาก เล่าย้อนกลับไปว่าพอวันนั้นเกิดเรื่องเสร็จเราให้คนรถขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับ เพราะว่าเราออกมาจากคอนโดแล้วกัน เราเลยให้คนรถขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับลูกจากโรงเรียนเพราะว่าถ้าเอารถไปรับลูกไม่มีทางถึง ผู้ปกครองทุกคนคือจะไปหาลูก คนรถเขาก็อาสาเดี๋ยวผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับน้อง ก็มาเจอกันตรงกลางถนนตรงหน้าศูนย์สิริกิติ์

เราก็ถามเขาเป็นยังไง เขาบอกว่าเขากลัวนิดหน่อย เด็กรุ่นนี้ไม่ต้องอธิบายมากเลย เราถามเขาว่าพอเกิดแบบนี้ขึ้นคิดว่ายังไง เขาคิดว่าแผ่นดินไหว แต่พอเป็นรุ่นเราด้วยความที่เราอยู่มาขนาดนี้แล้วในประวัติศาสตร์ประเทศไทยมันไม่เคยมี เราก็จะไม่มีวันคิดว่ามันใช่ แต่เด็กเขาอาจจะได้ข้อมูลจากยูทิวบ์เขาก็รู้อย่างนี้คือแผ่นดินไหว แต่เราเหมือนปักใจเชื่อไงว่ามันไม่มีทาง”

คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 ปีถึงจะสร้างบ้านเสร็จ
คุณน็อตประเมินไว้ไม่เกิน 3 ปี จากวันนี้ที่ๆ เราเพิ่งได้ที่แฮปปี้ เพราะว่าที่ๆ หากันก็หาเป็นปีเหมือนกัน จนได้ที่ๆ ทุกคนแฮปปี้ชอบ ก็กำลังเร่งทำแบบ คือทั้งชีวิตเราทำการก่อสร้างมา หมายถึงเวลาอะไรที่ต้องเกี่ยวกับการก่อสร้างมันดีเลย์อยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้อยากจะแบบว่าโอ้ยเดี๋ยว 3 ปีอยู่เลย แต่คุณน็อตเขาคิดว่าเขาทำได้ แต่เราไม่ได้ว่าอะไรบ้านเราทุกหลังที่ทำมา คอนโดทุกที่ๆ แต่งมาดีเลย์เป็นปีตลอด ก็เลยไม่เป็นไรทำให้ดีทำไป ที่นี่ก็อยู่ได้ก็ยังแฮปปี้อยู่”

ทั้งนี้ชมพู่ยังเผยถึงไวรัลในโลกโซเชียลหลังจากที่ไปออกงานมาแล้วมีชาวเน็ตรุ่นลูกออกมาตั้งคำถามว่า แม่ชมพู่คือใคร? เพจดังหยิบเรื่องนี้มาเปิดข้อมูลให้ได้ทราบกัน เรียกได้ว่าทำคอมเมนต์และยอดแชร์กันสนั่น ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็ยิ้มๆ และบอกว่าเห็นข่าวแล้ว ก่อนบอกว่าดีนะที่เด็กไม่เรียกป้า

เห็นข่าวแล้ว ก็ดีนะคะไม่เรียกป้า ก็ยังเรียกพี่ เขาไม่รู้จักเราเขายังเรียกเราพี่ เรื่องหมดยุคคือไม่ได้ซีเรียส เช็กคอมเมนต์ไหม คือเราก็เห็นพวกเพจเอาไปลงก็ตามนั้น ไม่ได้ไปแบบว่าล่าแม่มด คือไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น อย่างเราไปส่งลูกที่โรงเรียนพวกเด็กๆ ที่เขาเป็นเพื่อนลูกเราเขาก็ไม่รู้ว่าเราเป็นใคร เขาก็ไม่ได้รู้ว่าแม่สายฟ้า พายุ เป็นดารานะ เขาไม่ได้รู้มันก็เป็นโลกของเด็กเขาไปแล้ว อย่างบางทีเราก็ไม่รู้จักตัวละครในโลกของเขา”

เดตถึงความพร้อมของน้องเกลที่เตรียมแต่งสวยเป็นนางสงกรานต์ “ทุงสะเทวี” ประจำปี 2568 ว่าตอนนี้เตรียมฟิตติ้งชุดแล้ว
“ยังๆ เดี๋ยววันสองวันนี้จะฟิตติ้งชุดค่ะ แอบกังวลก็มีแจ้งไปทางเหมือนที่เป็นอาจารย์ที่เขาทำพวกชุดว่า ของน้องขอแบบสำเร็จมา จะเป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่ต้องมานั่งผูกผ้าไม่ได้ แล้วพวกเนื้อผ้าถ้าคันเด็กเขาจะไม่ให้ความร่วมมือ เด็กไม่ทนไม่เหมือนผู้ใหญ่ นี่น่าจะเป็นงานสงกรานต์ที่เด็กที่สุด น่าจะใช่ 3 ขวบค่ะ ตอนนี้น้องยังร้องเพลงลอยกระทงอยู่เลยกลุ้มใจเหมือนกัน (หัวเราะ) คือยังแยกไม่ค่อยออก เดี๋ยวต้องบรีฟงานดีๆ”











กำลังโหลดความคิดเห็น