“เบ็คกี้” เผยอาการแพนิกเหตุแผ่นดินไหว สั่นกลัวจนน้ำตาไหล เตรียมกระเป๋าไว้ข้างเตียงทุกวันเผื่อเหตุฉุกเฉิน

“เบ็คกี้ รีเบคก้า” ไม่ชิน แม้เจอแผ่นดินไหวบ่อย แพนิกจนต้องเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน รับกลัว น้ำตาไหลรีบอุ้มน้องหมาลงบันไดหนีไฟออกจากตึกสูง ห่วง “ฟรีน สโรชา” ตอนเกิดเหตุรีบทักถามทันที

หลังจะเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทย ทำให้อาคารบ้านเรือนต่างๆ ได้รับผลกระทบเสียหาย งานนี้ก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับหลายคนเป็นอย่างมาก ถึงขั้นบางคนยังเกิดอาการแพนิกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เลย

ล่าสุดได้มีโอกาสเจอนักแสดงสุดฮอต “เบ็คกี้ รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง” มาร่วมงานกาล่าภาพยนตร์ 4 ป่าช้า ที่พารากอน-ซีนีเพล็กซ์ (ชั้น 5) สยามพารากอน จึงสอบถามถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า รู้สึกกลัวมากๆ จนเกิดอาการแพนิกทั้งๆ ที่เคยเจอแผ่นดินไหวเมื่อตอนอยู่ที่นิวซีแลนด์มาแล้วก็ตาม

“วันนั้นเราอยู่บ้านก็เตรียมจะออกมาทำงานที่เซ็นทรัลเวิลด์ อยู่บ้านแล้วก็ดูโทรทัศน์อยู่ดีๆ โทรทัศน์สั่น แล้วก็มีเสียงบึ้มหน่อยๆ ซึ่งก็รู้สึกแล้วว่าแปลกๆ เพราะว่าตึกมันสั่นรู้เลยว่าแผ่นดินไหว เพราะว่าเราเคยมีประสบการณ์ตอนที่อยู่ที่นิวซีแลนด์ เพราะว่านิวซีแลนด์มีแผ่นดินไหวบ่อยมาก แต่ก็เรียกว่าไม่มีสติเลยนะคะ พยายามเรียกหาทุกคนที่อยู่บ้าน พี่เลี้ยง พี่ชาย และพยายามคว้าทุกอย่างมาให้หมด แล้วไปหลบอยู่ใต้โต๊ะ อยู่ตรงนั้นประมาณ 5 นาที แล้วก็มองหน้าพี่ชายว่ามันไม่น่าเวิร์กเพราะตึกมันไม่หยุดสั่น ก็เลยโอเคลงไปข้างล่างกัน

แต่บางคนก็บอกว่าให้อยู่ในตึกดีกว่า เพราะถ้าอยู่ข้างนอกแล้วตึกล้มก็อันตรายเหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจว่าอยู่ข้างนอก ก็อยู่ประมาณ 4-5 ชั่วโมง อยู่นานมากเพราะว่าไม่กล้ากลับเข้าไป ซึ่งเข้าไปก็เจอรอยร้าวนิดๆหน่อยๆ รู้สึกว่าโอเคอย่างน้อยทุกคนก็ปลอดภัย และก็เสียใจกับทุกคนต้องเจอเหตุการณ์นี้มากๆ

อันนี้ร้ายแรงกว่านิวซีแลนด์ไหม รู้สึกว่าไม่ร้ายแรง อย่างน้อยที่นี่อาฟเตอร์ช็อกมันยังเบากว่า ที่นิวซีแลนด์อาฟเตอร์ช็อกหนักมากๆ ไม่ชินเลยค่ะเรากลัวมากๆ เราตัวสั่นเลย น้ำตาไหลอยู่กับพี่ชายคือกลัว แล้วพอลงไปข้างล่างก็รีบโทร.หาคุณพ่อคุณแม่ซึ่งโทร.ไม่ติดด้วยเพราะเหมือนสัญญาณมีปัญหา ก็แพนิกต่อไปเรื่อยๆ ก็พยายามจะตั้งสติว่าโอเคไม่เป็นไร โอเคอยู่ค่ะ”

รับยังแพนิกกับเหตุแผ่นดินไหว บอกตอนนี้เตรียมทุกอย่างไว้ใกล้ตัวหมดแล้ว
“เราอยู่ตึกสูงด้วยก็เลยรู้สึกว่าน่ากลัว ตอนนั้นคือตะโกนเรียกพี่ชายอยู่ไหน ก็วิ่งลงมาที่บันไดและมีน้องมา 2 ตัวด้วยค่ะ เมื่อ 2 วันแล้ว เห็นข่าวนี้แล้วทางตึกอยากให้ลงมา ก็รีบเตรียมของเลยกระเป๋าของใช้ เงินทุกอย่างรีบเตรียมให้พร้อม ตอนนี้ก็รู้สึกโอเคเราผ่านไปช่วงนั้นแล้ว แต่ก็ยังต้องระวังตัวเหมือนทางโน้นก็ยังไม่ได้หยุดขนาดนั้น ก็อยากให้ทุกคนระวังตัวเหมือนกัน

เหตุการณ์นี้มันก็ทำให้เราคิดนะว่าถ้าพรุ่งนี้มันไม่มีจริง วันนี้มันอาจจะสุดท้ายของเราจริง เราต้องทำให้ทุกวันของเราฟูฟีล ทำทุกอย่างที่เราอยากทำ อย่างช่วงนี้มีกระเป๋าใบหนึ่งที่วางไว้ใกล้ๆ เตียง แล้วก็มีรองเท้าคู่นึงพร้อมวิ่ง ซึ่งในกระเป๋าที่เราเตรียมไว้มีทั้งน้ำ ขนม ยา เราให้ทุกคนในบ้านเตรียมไว้เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ถ้าไม่เกิดดีแล้วแต่ถ้าเกิดก็ให้พร้อมไว้ ซึ่งเราก็คิดมาสักพักแล้วว่าอยากพูดอะไรพูด อยากทำอะไรทำ ชีวิตมันสั้นจริงๆ”

รู้สึกสงสารแฟนคลับที่บินมาไกลเพื่อเจอ
“อย่างวันนั้นก็เป็นการแคนเซิลงานไปเลย จริงๆ ก็สงสารแฟนๆ มาก เพราะแฟนๆ หลายคนบินมาจากต่างประเทศ เดินทางมาไกลแล้วมารอตั้งแต่เช้าเพื่อมาเจอในวันนั้น เหมือนไม่รวมพลกันมานาน แต่ก็ดีแล้วค่ะเพราะมันอาจจะไม่ปลอดภัย แฟนๆ เขาก็เข้าใจ เราก็บอกว่าขอโทษนะ มีนัดกันใหม่แน่นอนค่ะ”

เผยมีการทักหา “ฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ” หลังจากแผ่นดินไหว
“อยากให้กำลังใจทุกๆ คนนะคะ เดี๋ยวเราจะผ่านไปด้วยกันนะ ถ้ามีแพนิก ถ้ากลัวบ้างไม่เป็นไรเพราะเราว่ามันปกติของทุกคน เชื่อว่าทุกคนจะดีขึ้น และก็มีสติกันเยอะๆ พยายามเตรียมตัวไว้ให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนปลอดภัย

ก็มีทักหาพี่ฟรีนไปว่าโอเคไหม พอเราได้สติโอเคเราปลอดภัยแล้ว ก็เริ่มเช็กหาเพื่อนๆ ทุกคนเลย พี่ฟรีนโอเคไหม พี่เขาบอกนึกว่าเวียนหัวไม่ได้กินข้าวตาลาย เขาก็รู้สึกมึนๆ เวียนๆ เหมือนวันนั้นพี่เขาบอกอยู่คาเฟ่นั่งทำเรื่องบ้านก็ไม่ได้ไปตึกสูงมาก พี่เขาน่าจะมีแพนิกกันนิดนึงแหละค่ะ แต่ก็โอเค”