xs
xsm
sm
md
lg

“พ้อยท์ ชลวิทย์” ปัดเป็นผู้ชายขัดดอก เอาตัวเข้าแลก “มดดำ คชาภา” แค่ทำให้เฮฮาลืมหนี้! ยกเป็นพ่อแม่คนที่ 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พ้อยท์ ชลวิทย์” เปิดใจปมเป็นผู้ชายขัดดอกให้กับ “มดดำ คชาภา” บอกตนไม่ใช่ผู้ชายขัดดอกแบบเอาตัวเข้าแลก แค่ไปอยู่บ้านเขาทำให้เขาสนุกเฮฮาลืมเรื่องหนี้ ลั่นมดดำปากร้ายแต่ใจดี ยกเป็นทั้งพ่อและแม่คนที่ 2 ส่วนเรื่องที่จ่ายประกันให้แฟนเก่า มองว่าไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน จะใครก็ตามที่สนิท มดดำจะดูแลอย่างนี้เสมอ จับทำประกันและส่งให้ เผยอยากให้มดดำมีคู่ชีวิตที่ดีคอยโอบกอดเวลาเหนื่อย

ก่อนหน้านี้นักแสดงหนุ่ม “พ้อยท์ ชลวิทย์ มีทองคำ” ออกมาเปิดใจในรายการ “แฉ” ว่าเป็นผู้ชายขัดดอกให้กับ “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” จนทำเอาหลายคนสงสัยถึงสถานะความสัมพันธ์ว่ายังไงกันแน่

ล่าสุด พ้อยท์ ชลวิทย์ ก็ออกมาเปิดใจว่า ตนไม่ใช่ผู้ชายขัดดอกแบบเอาตัวเข้าแลก แค่ไปอยู่บ้านเขาทำให้เขามีความสุขสนุกเฮฮาลืมเรื่องหนี้ ลั่นแม้เขาปากร้ายแต่ใจดี เปรียบเหมือนเป็นทั้งพ่อและแม่คนที่ 2

จริงๆ มันก็คือเรื่องจริง แต่ขัดดอกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่าต้องเอาตัวเข้าไปแลก แต่คือพ้อยท์ได้เข้าไปอยู่ในบ้านพี่มดทุกวัน ทำให้พี่มดเขาเฮฮา ทำให้พี่มดเขาสนุกสนาน ทำให้ลืมว่าหนี้ที่พี่ อดีตผู้จัดการที่เคยติดไว้ให้เขาลืมๆ เป็นวันๆ ไปแค่นั้นเอง เราก็กินข้าวฟรี แล้วก็ไปเล่นแต่ก่อนยังเจอแน็ก (ชาลี ไตรรัตน์) อยู่เลย”

บอกตนไม่ใช่ผู้ชายขัดดอกแบบเอาตัวเข้าแลก
“แต่ก่อนพ้อยท์ไม่ได้มีเงิน พ้อยท์มาเรียนม.รังสิต ตั้งแต่แรกๆ แล้วพ้อยท์ก็เป็นเด็กบ้านนอก ไม่ค่อยมีเงินตื่นเช้ามารู้สึกว่าไปกินข้าวที่ไหนดี ก็เข้าไปบ้านพี่มดไปกินข้าวฟรี แล้วก็อยู่ทั้งวันเขาก็มีน้ำให้ มีเหล้ามีเบียร์ให้ บ้านพี่มดครบทุกอย่างครับ สมัยก่อนถือว่าเป็นที่ปาร์ตี้ชั้นดีเลย แต่ไม่ได้เอาตัวเข้า หลายคนมองว่าการขัดดอกคือเอาตัวเข้าไปแลก แต่จริงๆ แล้วการขัดดอกคือการไปอยู่กับเขา เหมือนให้เขาลืมหนี้ประมาณนั้น

ถามว่าเขาลืมหนี้ได้ไหม จริงๆ เขาไม่ลืมหรอก จริงๆ เขาเป็นพี่ที่ดี มันเป็นการพูดเล่นกันเฉยๆ แต่ถ้าถามว่าขัดดอกไหมก็ขัดนั่นแหละ เพราะว่าตอนนั้นพี่ผู้จัดการคือเขาให้ส่งไปก็คืออยากให้พี่มดอารมณ์ดี ไม่อยากให้พี่มดถามถึงหนี้เก่า ส่วนเรื่องหนี้เราไม่แน่ใจเรื่องตัวเลข

ตั้งแต่วันนั้นยังไม่รู้เลย จนมารู้ตอนหลังๆ เพราะไม่ได้อยู่กับผู้จัดการเก่าแล้ว และก็เข้าบ้านพี่มดบ่อยๆ พี่มดก็ให้ฟังว่าแต่ก่อนผู้จัดการเก่าติดหนี้เขา แล้วเอาเราเข้ามาจัดดอกรู้ไหม ซึ่งเราก็ขัดดอกอะไร เรายังไม่รู้เรื่องเลยขัดดอกได้ยังไง เขาให้เรามาขัดดอกพ้อยท์เป็นแค่เด็กขัดดอก เด็กดาราต๊อกต๋อย”

ปลดหนี้ได้ส่วนหนึ่งเพราะมดดำช่วยหางานให้
“เขาปากร้ายแต่เขาใจดี จริงๆ หนี้ที่พ้อยท์บอกว่าพ้อยท์พยายามปลดให้พ่อแม่ ส่วนหนึ่งก็คือมาจากเขา คือพี่มดเป็นคนช่วยพ้อยท์คือเขาไม่ได้เอาปลามาให้พ้อยท์กิน แต่จะสอนให้เราหาเงินมากกว่า เขาจะบอกว่าวิธีการทำงานเวลาขายของต้องขายแบบไหน เขาก็จะให้เราไปทำงานเพื่อเอาเงินตรงนั้นไปใช้หนี้ให้พ่อแม่มากกว่า”

ยก มดดำ คชาภา เป็นพ่อแม่คนที่ 2
“เขาหางานมาให้ครับ มีเกือบทุกเดือน ถ้าสมมติถ้าเป็นคิวไหนที่ว่างๆ เกี่ยวกับกองละครพี่มดแกจะพยายามหามาให้ แต่ถ้าพูดไปแกก็มานั่งบอกเขาไม่ได้หามาให้ ส่วนที่เขาเขิน เขาเป็นอะไรไม่รู้ แต่พ่อแม่พ้อยท์รู้ว่าพี่มดคือผู้มีพระคุณ ที่อยู่ที่กรุงเทพฯ ของพ้อยท์ เรียกว่าเป็นพ่อกับแม่คนที่ 2 ของพ้อยท์เลย เป็นทั้งพ่อทั้งแม่คือสมมติถ้าแม่อย่างเวลาเราทำแย่ๆ มาเราอาจจะไม่กล้าเล่า แต่ของพี่มดเรากล้าเล่าให้เขาฟังด้วยว่าเราทำอะไรแย่มา เขาก็เป็นทั้งแม่ที่แบบคอยปลอบประโลมให้เราด้วย บางทีเราไม่ได้กินข้าวเข้ามาเขาเห็นเราผอมๆ เขาจะถามว่าเราผอมไปหรือเปล่า เขาก็เรียกเรามานั่งกินข้าวบอกกินเข้าไป กินเยอะๆ กินให้หมด”

บอกหอมแก้มคือของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว
“หอมแก้มเขา เขาก็ดีใจแล้ว อันนี้พูดจริงๆ เพราะว่าอย่างปีใหม่ทุกคนจะซื้อของมาให้พี่มดเยอะมาก แล้วอย่างตรุษจีนหรืออะไรก็ตามแต่มันจะมีของ ของที่ทุกคนซื้อไปเขาก็จะบอกว่าพ้อยท์ไม่ต้องซื้ออะไรมาให้เขานะ เพราะว่าสิ่งที่เขาได้รับมันเยอะมากแล้ว แล้วเขาก็ไม่รู้จะเอาไปแจกให้ใคร ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน แค่ว่าทำตัวดีๆ ประพฤติตัวดีๆ เขาก็แฮปปี้แล้วครับ

แต่ก่อนเรารู้สึกว่า เรากลัวพี่มดหอม เรากลัวคนเข้าใจผิดว่าเราจะเป็นแฟนพี่มดเพราะว่ามันมีข่าวออกมาแบบนั้น แต่หลังๆ มาพ้อยท์รู้สึกว่าไม่เห็นต้องแคร์ใครเลย พ้อยท์รู้อยู่แล้วพี่มดรู้อยู่แล้วว่าเราทั้งสองคนเป็นอะไรกัน”

ส่วนเรื่องที่เขาจ่ายประกันให้แฟนเก่า ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน ใครก็ตามที่สนิทกับเขา เขาจะดูแลอย่างนี้เสมอ
“พ้อยท์ก็ไม่กล้าพูด แต่พ้อยท์จะบอกว่าพี่มดไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนคือจะเป็นน้องหรือเป็นใครที่สนิทกับพี่มดแกจะดูแลอย่างนี้เสมอ จริงๆ ตัวเราเองก็เกือบทำประกันกับพี่มดไปแล้ว เพราะว่าพี่มดเขาจะจับทุกคนทำประกันหมดเลย เวลาเขาเห็นใครที่เขานับว่าเป็นครอบครัว ป่วยหรือเข้าโรงพยาบาลต้องเอาเงินจำนวนมากๆ ไปจ่ายกับโรงพยาบาลแล้วไม่มีประกันออกให้ เขาจะรู้สึกว่าทำงานมาทั้งชีวิตเพื่อมาจ่ายค่ารักษาตัวเองเขาก็จะทำให้

เราว่าไม่ได้เกี่ยวกับคนด้วย เราว่าพี่มดเป็นคนรู้สึกเองว่าต้องดูแลคนๆ นี้เขาเลยทำ พ้อยท์เชื่อว่าเขาจิตใจแบบนั้น พี่มดรักทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน พี่มดดูแลทุกคนทั่วถึงอยู่แล้ว อย่างเวลาไปกินข้าวสังเกตเลยนะมื้อนึง จะยกโขยงไปกินร้านอาหารแกเสียเป็นหมื่น แกเป็นคนจ่ายเงินแต่แกกินแค่มาม่ากับผัก แกก็ดูคนอื่นกินแล้วแกก็แฮปปี้ แกจะจ่ายเงินถามว่าอิ่มไหมถ้าไม่อิ่มสั่งอีก ถ้าใครได้รู้จักแกจะรู้ว่าแกเป็นคนดีมาก”

อยากให้มีคู่ชีวิตที่ดี คอยโอบกอดในวันที่อ่อนแอและเหนื่อย
“พ้อยท์ว่าพี่มดมีความรักอยู่แล้วนะ จริงๆ มีทุกคนคอยเป็นห่วง มีน้องๆ ที่รักอยู่เสมอ แล้วก็มีป๋าสุชาติ ตันเจริญ ที่รักพี่มดอยู่ แกมีความรักอยู่แล้วแต่สิ่งที่แกต้องการก็คืออาจจะต้องการคนคู่ชีวิต คนช่วยคิดเวลาที่แกเหนื่อยหรือเปล่า ถ้าสมมติว่าแกมีหรือแกต้องการ ถ้าแกมีพ้อยท์โอเคเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่พี่มดมีคู่คิดมีคู่ชีวิต แล้วก็วันที่เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ เขาจะได้มีคนคอยกอดเขา”







กำลังโหลดความคิดเห็น