“บี น้ำทิพย์” เผยชีวิตรักแฮปปี้ลงตัว ยืนยันคำเดิมยังไม่มีแพลนแต่งงาน สะดวกแบบนี้ บอกทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตแบบเปิดเผยอยู่แล้ว ไม่ต้องจัดงานที่มันอลังการ เล่านาทีแผ่นดินไหว บอกนึกว่าหิวจนหน้ามืด น่ากลัว เหมือนในหนังวันสิ้นโลก เผยตึกสาทรโครงสร้างแน่น ถ้าพัฒนาต่อจะสวยมาก
คนมีความรักโลกมันก็จะสีชมพูหน่อยๆ เหมือนกับคู่ของนางเอก -นางแบบชื่อดัง “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” กับแฟนหนุ่มไฮโซ “ฟลุค สหวัสส์ ภักดีมงคลโรจน์” ที่ขยันเติมความหวาน ไม่ว่าจะวันพิเศษหรือเทศกาลไหนก็มักจะมีรูปคู่บ้าง หอมแก้มบ้าง แถมก่อนหน้านี้ก็เพิ่งควงหวานใจหนุ่มไปเที่ยวภาคเหนือ พร้อมชวนกันไปขี่ม้าท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก
ล่าสุด บี น้ำทิพย์ ได้มาร่วมงานบวงสรวง “บนพระจันทร์มีกระต่าย” ณ ลานหน้าอาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส. ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจถึงชีวิตคู่ พร้อมยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีแพลนจัดงานแต่งงานเหมือนเดิม
“ชีวิตตอนนี้ก็โอเคค่ะ มีความสุขดี ช่วงนี้ก็ทำงานเยอะมาก Glow Plus Wellness อยู่ที่พัทยา แล้วก็ถ่ายละครอยู่สองเรื่อง จริงๆ เพิ่งไปดำน้ำกันมา เป็นการจองข้ามปี จองมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ใช้ชีวิตแบบชิลๆ เรื่อยๆ ค่ะ คือเหมือนเราเป็นตัวเอง เป็นตัวเองตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ได้ฝืนหรือว่าต้องแสดงว่าเรารักกันมากหรืออะไร ก็คือเป็นตัวเอง สบายๆ แล้ว ตอนนี้ก็แฮปปี้ดี เราก็ใช้ชีวิตไม่ได้สนใจใครเท่าไหร่ โฟกัสอยู่กับคนที่เราอยู่ด้วย เพื่อนรอบข้าง สังคมที่เราอยู่เท่านั้นเลย”
รักแฮปปี้ แต่ยังไม่มีแพลนแต่งงาน
“คือยังๆ เป็นแบบว่าเงียบๆ ดีกว่า ยังยืนยันคำเดิมเงียบๆ ดีกว่า คือเหมือนทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตแบบเปิดเผยอยู่แล้ว มันไม่ได้จะต้องจัดงานอะไรที่มันอลังการ แต่เพื่อนๆ ก็ถามอยากให้จัดกินข้าวกันก็ยังไงดี (ในฐานะผู้หญิงอยากมีงานแต่งไหม?) ไม่อยากเลย ไม่คิดเลยจริงๆ เพราะเห็นหลายคนบ่นว่าเหนื่อยมาก แต่บางคนก็บอกว่ามันต้องแต่งมันต้องทำ แต่ในความรู้สึกเรา เราสะดวกแบบไหนก็แบบนั้นดีกว่า
ก็มีคนถามเหมือนกัน อยากให้จัดงานแบบกินข้าว ก็คือตอนนี้ยังไม่ค่อยว่างกัน แต่ก็ยังไม่มีแพลนเลย ก็ใช้ชีวิตแบบนี้ชิลๆ ทั้งคู่ก็งานเยอะค่ะ ยังไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นยังไงก็ตอบไม่ได้ คิดว่าเดี๋ยวนี้ก็ใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆ ดีกว่า ไม่ต้องจัดงานก็ได้”
ถ่ายภาพเก็บความทรงจำไว้ตลอด
“จริงๆ ก็มีถ่ายนะคะ เราก็ถ่ายกันเรื่อยๆ แล้วเราก็เก็บเอง ไม่ได้เอามาโชว์ใคร ถ่ายเยอะเลยจ้างตากล้องถ่ายด้วยก็มีเหมือนกัน”
เผยนาทีแผ่นดินไหว ตอนแรกคิดว่าหน้ามืด
“ถ่ายละครอยู่ ถ่ายเรื่องนี้แหละค่ะ แล้วเป็นฉากที่ไบร์ท ผนรภัทร วิไลพันธุ์) กำลังจับมือเราอยู่ในร้านอาหารมืดๆ เราก็มองแล้วเหมือนมือสั่นๆ เราก็คิดในใจว่าหรือว่าเราหิวหรือว่าหน้ามืดหรือเปล่า เพราะว่าเลิกเลท ตอนบ่ายโมงยังไม่ได้กินข้าวเลย แล้วสักพักนึงมันแกว่งนานมาก ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว แผ่นดินไหวเหรออะไรแบบนี้ จนสักพักนึงก็หาที่โล่งออกไป ปลอดภัยค่ะ น่ากลัว มันเหมือนเราดูหนังเรื่องวันสิ้นโลก เราเห็นภาพคนเดินออกมาจากในห้าง ในตึก อยู่กลางถนน มันเป็นภาพเหมือนในหนังที่เราเคยดู”
บอกตึกสาทรโครงสร้างแข็งแรงมาก ถ้าพัฒนาได้จะสวยมาก
“แข็งแรงมาก โครงสร้างเขาแน่นมาก เขาใช้เสาที่มันใหญ่มาก เหมือนสิ่งก่อสร้างที่เขาใช้มันเป็นของดี เพียงแต่ว่ามันอาจจะเกิดต้มยำกุ้งในยุคนั้นเศรษฐกิจไม่ดี แต่โครงสร้างเขาสวยนะ บีว่าสวย แล้วก็ดูดีมาก ถ้ามันเสร็จมันต้องสวยมากๆ แน่ๆ
(ตอนไปถ่ายหนังถามว่าคิดไหมว่ามันไม่แข็งแรง?) วันแรกรู้สึกว่ากลัว เพราะต้องเดินบันไดที่มันมืดแล้วขึ้นไปชั้นบนสุดเลย แล้วก็กลัวหลายอย่าง ก็ใช้ชีวิตกับมันไปประมาณ 10 กว่าวันได้ ถ้ามันพัฒนาต่อ ก็เป็นตึกที่สวยงามได้ อยู่ในโลเกชั่นที่ดีด้วย และโครงสร้างมันแข็งแรง”
