xs
xsm
sm
md
lg

จัดไปทำไม? “เอแคลร์ จือปาก” เคลียร์ดรามา งบงานวันเกิดทะลุ 10 ล้าน คนไม่มางานแค่คอนเทนต์?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จัดไปทำไม? “เอแคลร์ จือปาก” เคลียร์ดรามา งบงานวันเกิดทะลุ 10 ล้านบาท เผยเหตุน้ำตาไหลบนเวที เพราะเจอผู้หญิงคนนี้!!

เกิดดรามาจนได้! หลังจาก “เอแคลร์ จือปาก” ออกมาอัดคลิปพูดถึงงานวันเกิดที่จัดขึ้นทุกปี กับงาน “เอแคลร์เฟสติวัล สงกรานต์หน้าฮ่านหมอลำ?” ว่าปีนี้บัตรขายได้แค่ 900 แต่งบจัดงานทะลุไป 10 กว่าล้านแล้ว ซึ่งสวนทางกับความจริง เพราะในวันงานคนมาแน่นจนเต็มลาน งานนี้เจ้าตัวควงคู่มากับคุณแม่ พร้อมเคลียร์ดรามา กลางรายการ คุยแซ่บโชว์ ทางช่องOne31 ยืนยันว่าเรื่องจริง! ไม่ใช่คอนเทนต์ พร้อมเผยเรื่องที่เสียน้ำตาบนเวที เหตุเกิดจากผู้หญิงคนนึง รวมไปถึงพิธีกร ทีมงานเซอร์ไพร์สวันเกิดให้เจ้าตัว ซึ่งตรงกับวันที่ 31 มี.ค. อีกด้วย

ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่า “เอแคลร์” สร้างกระแส ว่าบัตรงาน เอแคลร์เฟสติวัล สงกรานต์หน้าฮ่านหมอลำ ขายได้แค่ 900 ใบ?
เอแคลร์ : คือการที่หนูลงคลิปไปวันนั้น ว่ามีคนมาแค่ 900 คน มันคือ 900 คนจริงๆ ในวันนั้น คืออย่างที่บอกว่า มีคนแอดเข้ามาในไลน์ 3-4 พัน แต่พอถึงเวลาจริงๆ มันไม่ได้ยอดขนาดนั้น แต่ก็มีคนฟีดแบ็กบอกว่า แม่…เงินหนูออกหลังวันที่ 25 ซึ่งเราลงคลิปประมาณวันที่ 23 ตอนนั้นมันขายได้แค่ 900 ใบจริงๆ แต่พอหลังจากวันที่ 25 ไปแล้ว คนก็มาซื้อกันจริงๆ และหลายคนก็บอกว่ามันไม่จริงกับสิ่งที่เราอัดคลิปไปวันนั้น เพราะวันจริงที่ผ่านมา คนเต็มลานมาก ซึ่งจากวันนั้นที่เป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้มันเป็นไปแล้ว เพราะไอ้คลิป 900 นั่นแหละ มันทำให้คนอยากโอนเลย ยืนยันว่ามันไม่ใช่คอนเทนต์ เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ ซึ่งอย่างเรื่อง 9 ล้าน ขอบเขตงานมันคือ 9 ล้าน น่ะมันคือ 900 ใบ แต่หนูก็ไม่อยากลดสเกลงาน ก็เลยต้องลงคลิปกระตุ้นให้รีบโอนนะ และหนูก็ใช้ทีมงานเดียวกับ s2o เลยนะ

แต่คนถามว่าจัดงานไปทำไม จัดไปแล้วได้อะไร?
เอแคลร์ : คือหนูบอกตรงนี้เลยว่า เราจัดไปยังไงก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว แต่ที่จัดเพราะว่า แฟนคลับบอกว่าเห็นพี่จัดงานทุกปี ก็อยากจะมาร่วมงานด้วย ซึ่งเราอยากให้เขามา เราไม่ได้มองว่าเขาเป็นคนนอก แต่มันก็ต้องมีค่าจัดงาน เราก็ต้องมีมาคุยกันว่า มันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ทุกคนก็บอกว่าจัดเลย เหมือนมาช่วยกันหารกันเพื่อมาจัดงาน ซึ่งหนูเข้าใจว่าก่อนหน้านี้มันมีดรามา ว่าทำไมจะต้องมางานหนู หนูก็เข้าใจว่าเขาไม่ใช่กลุ่มที่ติดตามเรา แต่ก็ดีที่มีกลุ่มคนพวกนี้เข้ามา จะได้ทำให้เขารู้ว่าเราคือใคร หรือบางคนมาพูดว่าหนูเป็นใคร แต่โพสต์เขาก่อนหน้าหน้านั้น คือเต้นเพลงเมร่อน ซึ่งเพลงเมร่อนคือเพลงฉัน (หัวเราะ)

แต่มันก็มีสิ่งนึงที่ทำให้เราต้องเสียน้ำตา เพราะขณะที่เรากำลังไลฟ์ขอบคุณลูกค้าในงานอยู่ ก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง?

เอแคลร์ : ใช่ค่ะ คือเขาหัวโล้นมาเลย เราก็นึกว่าเขาแบบสายฝอ แต่เขาบอกว่าเขาเป็นมะเร็งระยะที่สี่ ซึ่งเราก็หยุดไลฟ์ เพราะน้ำตาเราไหล ซึ่งปีที่แล้วเขาก็มาอยู่ในเอ็มวีเมร่อนบนเวทีด้วย และเราก็เลยเชิญ เขาขึ้นมาบนเวที พอมารู้ที่หลัง ว่าเขาอายุ 21-22 เอง ซึ่งเขาเข้ารอบไวมาก ไม่ต้องรอตอบคำถาม ซึ่งเราก็พูดบนเวทีเลยว่า สัญญานะปีหน้าต้องกลับมา ซึ่งเขาก็สัญญาว่าปีหน้าเขาจะกลับมา

ในมุมมองของคุณแม่ มีคนรักลูกแม่ขนาดนี้ แม่รู้สึกยังไง?
แม่ : เราก็ไม่เคยคิดนะ เพราะลูกเราตอนเล็กๆ เขาก็ไม่ค่อยคุยกับใคร แต่พอตอนเขามีชื่อเสียงแล้ว ทำไมคนรู้จักเขาเยอะ ก็ดีใจตรงนี้แหละ เราก็ไม่คิดว่าคนจะมาเยอะขนาดนี้

เอแคลร์ : คือแม่เขาภูมิใจตลอดในทุกๆ เรื่องที่หนูทำ และหนูมีพี่ๆ ในกรุ๊ป ที่กล้าคิดกล้าทำ ถ้าเราอยู่กับคนอื่น เราอาจจะเป็นคนทั่วไป แต่พอเรามาอยู่กลุ่มหิ้วหวี เราพากันทำ เราพากันไป มันสุดดีในทุกๆ ทาง เราจะมีสโลแกนในกลุ่ม นำหนึ่งก้าวเสมอ

แต่การเป็นอินฟลูฯ ในวันนี้ ต้องขอบคุณแม่นะ ที่ผ่อนกล้องให้?
แม่ : ตอนที่เขาให้เราไปผ่อนกล้อง เราก็ยืนคิดอยู่ตั้งนาน ว่าจะกินทุกวันนี้ เรายังไม่มีเลย ให้คนโน้นคนนี้ แล้วยังจะมาผ่อนกล้องอีก

เอแคลร์ : ระหว่างตอนที่บอกว่า เราจะเอากล้องเนี่ย ตอนนั้นก็ไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้ แล้วเราก็เรียนอยู่ ม.รังสิต ค่าเทอมเป็นแสนๆ เรามีแค่แท็บเล็ตที่มหา’ลัยให้ใช้ฟรี ซึ่งตอนนั้นเราทำงานเป็นผู้ช่วยอินฟลูฯ เราก็คิดว่าถ้าเราเอามาถ่ายเบื้องหน้าเบื้องหลัง มันน่าจะดี เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครทำ และย้อนกลับไปเรื่องกล้อง คือแม่ก็พูดเล่นกับหนูว่าอยากได้อะไร เราก็บอกไปว่าวันเกิดปีนี้อยากได้กล้อง เพราะเราเรียนเก่ง มาตั้งแต่เด็ก เราก็พูดไปว่า ดีขนาดนี้ก็ต้องให้อะไรหน่อยสิ หนูก็เลยพูดว่าอยากได้กล้อง

แม่ : ตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะไปทำอะไร แต่เราต้องทำงานส่งเขาเรียนด้วย ค่าเทอมแพงมาก ซึ่งเราก็ทำงานได้วันละ 300 กว่าบาท และค่าเทอม เราไปหากู้คนโน้นคนนี้บ้าง เพื่อเอามาจ่าย ส่งให้เขาเรียน

สิ่งที่เป็นคำสอนของแม่มาตลอดที่เราจำได้คืออะไร?

เอแคลร์ : ส่วนมากจะเป็นเรื่องของเงิน ให้รู้จักการประหยัด หนูเข้าใจคอนเซ็ปต์ บางวันที่เราอยากกินอาหารดีๆ ก็คุยกันในวงข้าว ว่าทำไมเราไม่มีเงินกิน แม่ก็แค่บอกว่าเราไม่ได้จน แต่แค่เราไม่มีเงิน เริ่ดไหมล่ะ ซึ่งถ้าเราทำงาน เราก็จะมีเงินกิน เออมันเป็นมายด์เซ็ตที่ดี อย่างตอนเด็กก่อนที่พ่อจะเสีย พวกเราก็อู้ฟู่นะ มีกินมีใช้ไม่อด แต่พอพ่อเสียปุ๊บ เหมือนทุกอย่างมันล้ม ตอนนั้นแค่ไม่มีเงิน แต่ความรวยยังเท่าเดิม

แม่ : อย่างตอนนี้ไข่เจียวก็ไม่กล้าทอดให้เขากิน กลัวมันไม่อิ่ม ก็ต้องตุ๋นอย่างอื่นให้กิน ทำให้เต็มกะละมัง อย่างบ้าน เหมือนที่เขาพาเราไปดูบ้าน เราก็คิดว่าเขาพามาทำคอนเทนต์ ซึ่งเขาไม่เคยพูดเลยว่าเขาจะซื้อบ้าน เราก็เลยไม่เชื่อว่าเขาซื้อจริงๆ และตอนนี้เขาเอง ก็ยังไม่ย้ายชื่อมาอยู่บ้านหลังใหม่เลย

อย่างบ้านหลังนี้ เห็นว่าทำงานห้าปี ซื้อเงินสดได้เลย นอกจากทำงานแล้ว เรามูยังไงถึงให้ปัง?
เอแคลร์ : คืออย่างที่บอกว่าเราไม่ชอบพิธีการ เราไม่ชอบการสวด แม้เราจะเรียนเก่งก็ตาม แต่สายตาเราก็ไม่ดี ยิ่งคำที่ใช้ในวัด มันก็ยาก ซึ่งเราก็ทำตามว่าวางตรงนี้สิดี ทำตรงนั้นสิโอเค และเพิ่งมารู้ว่าสิ่งที่เราทำไป เค้าเรียกว่าฮวงจุ้ย แล้วเราเพิ่งให้ซินแสมาดู ถึงเข้าใจว่าทำไมบ้านเราราคาสูง เพราะทุกมุมทุกเหลี่ยมมันคือฮวงจุ้ยที่ดี

ตอนนี้หัวใจเป็นยังไงบ้าง?
เอแคลร์ : โสดมากเลยค่ะแม่ ไม่มีคนคุย ไม่ได้ปิดกั้นอะไรเลย แต่หนูไม่ได้ปิด แต่ถ้าเข้ามา ก็ไม่รู้จะคุยอะไร ตอนนี้ ก็ไม่ได้มีเข้ามา ซึ่งหนูรู้สึกว่าคนที่เขารักหนู รักในตัวที่หนูเป็น จนไม่กล้ามาจีบแฟนหรือเปล่า

หรือเพราะว่าเราลืมรักครั้งเก่า?
เอแคลร์ : อันนี้ก็นิดหนึ่ง (หัวเราะ) แต่มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ซึ่งคนก็ยังล้อหนูกับเรื่องแฟนเก่าอยู่ เพราะแฟนเก่าชื่อไอซ์สึ ก็ยังมีคนมาเม้นท์สึสึสึ อยู่เลย

แม่ : อันนี้มันเรื่องส่วนตัวของเขา แม่ไม่ยุ่ง แต่แม่ก็รักหมด รักลูกทั้งสามคน รักเท่ากันหมด

เอแคลร์ : แม่คือซุปเปอร์มัมคนเก่ง ชีเป็นแค่สาวโรงงาน ชีจะสอนหนูให้มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่การอยู่คลองเตยแล้วจะทำได้แค่นี้ ลูกอยากทำอะไร ลูกอยากเรียนอะไร แม่ส่งให้เต็มที่ ทั้งที่เงินเดือนตัวเองน้อยนิดมาก ขอบคุณที่เกิดมาเป็นลูกแม่

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama









กำลังโหลดความคิดเห็น