“Snow White” เวอร์ชันรีเมกนำแสดงโดย เรเชล เซเกลอร์ ทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่สองเพียง 14.2 ล้านดอลลาร์ ร่วงลงถึง 66% จากยอดเปิดตัว 42 ล้านเมื่อสัปดาห์ก่อน และต้องเสียแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศให้กับ “A Working Man” หนังดราม่าเข้มข้นที่เปิดตัวด้วย 15.2 ล้านดอลลาร์ จาก 3,262 โรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ “Snow White” ถูกคาดหวังว่าจะทำรายได้สุดสัปดาห์ที่สองระหว่าง 16-20 ล้าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่ถึงเป้า ในขณะที่ “A Working Man” ซึ่งนำแสดงโดย เจสัน สเตแธม กลับทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ และได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีจากผู้ชม (CinemaScore: B, PostTrak: 84%)
ด้าน “Snow White” แม้จะยังได้กลุ่มคนดูครอบครัวและผู้หญิงบ้าง แต่รายได้สะสม 2 สัปดาห์อยู่ที่เพียง 66.8 ล้านดอลลาร์ในอเมริกา และ 143.1 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก ซึ่งยังห่างไกลจากจุดคุ้มทุนของหนังทุนสร้างกว่า 250 ล้านดอลลาร์
ขณะที่หนังเรื่องอื่นๆ ในท็อป 5 สัปดาห์นี้ยังไม่สามารถช่วยดึงบ็อกซ์ออฟฟิศให้พ้นภาวะซบเซา โดยรายได้รวมทั้งสัปดาห์ในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 80 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 42% จากปีที่แล้ว
สรุปรายได้หนังท็อป 5 ประจำสุดสัปดาห์:
A Working Man – 15.2 ล้าน
Snow White – 14.2 ล้าน (ยอดรวม 66.8 ล้านใน 2 สัปดาห์)
The Chosen: Last Supper – 11.4 ล้าน
The Woman in the Yard – 9.45 ล้าน
Death of a Unicorn (A24) – 5.8 ล้าน
นอกจากนี้ อนิเมะระดับตำนานจาก Studio Ghibli อย่าง “Princess Mononoke” กลับมาฉายใหม่ในระบบ IMAX 4K และทำรายได้ไป 4.1 ล้านดอลลาร์ จากเพียง 347 โรง ถือเป็นสุดสัปดาห์ที่ดีที่สุดในอเมริกาสำหรับหนังต่างประเทศบนจอยักษ์
ดูท่า “Snow White” เวอร์ชันนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ดิสนีย์ต้องขบคิดหนักว่าจะไปต่ออย่างไรในยุคที่ผู้ชมเริ่มเบื่อหนังรีเมกแฟนตาซีที่ไร้แรงขับใหม่ๆ จากต้นฉบับ
