หลังจากที่ทางครอบครัวของ “คิมแซรน” ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวใดๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปล่อยภาพและข้อมูลส่วนตัวของนักแสดงสาวกับ “คิมซูฮยอน” ก็ทำให้มีการปล่อยข่าวที่ต่อต้าน “คิมแซรน” กระหน่ำออกมามากมาย จนทำให้ความคิดเห็นชาวเน็ตเริ่มแบ่งฝ่ายและเอนเอียงไปทาง “คิมซูฮยอน” มากขึ้น ล่าสุดมีการปล่อยข่าวของหนุ่มอ้างเป็นเพื่อนสนิทและแฟนเก่าบอกอย่าโยนความผิดให้ “คิมซูฮยอน”
ชายหนุ่มที่อ้างตนว่าเป็นแฟนเก่าของ คิมแซรน ได้ออกมาปกป้อง คิมซูฮยอน ว่าไม่มีความผิดต่อการเสียชีวิตของ คิมแซรน โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อ The Fact พร้อมลงนามยืนยันเปิดเผยการเล่าเรื่องราวไม่กี่วันก่อนที่ คิมแซรน จะเสียชีวิต
ยืนยันว่า คิมแซรน โดนสามีทำร้ายร่างกาย
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า คิมแซรน พบกับสามีชาวอเมริกันเชื้อสาย เกาหลี ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2024 และตัดสินใจแต่งงานกันในต้นปี 2025 แต่สามีของเธอมีการทำร้ายเธอทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ได้ “K” อดีตแฟนหนุ่มที่ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิท คอยปลอบใจแต่เมื่อสามีรู้เรื่องของ “K” ก็ทำให้โกรธและฉุนเฉียวมากขึ้น
เมื่อสามีทราบว่า คิมแซรน ยังคงติดต่อกับ “K” ที่มีสถานะเป็นแฟนเก่าอยู่ ก็ทำให้เขายึดโทรศัพท์ คิมแซรน และตรวจสอบพฤติกรรมเธอ รวมถึงใช้คำพูดด่าทอเธอตลอดเวลา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ คิมแซรน ยิ่งเครียด จนนำไปสู่จุดที่พยายามทำร้ายร่างกายตนเองบ่อยครั้ง
“K” ได้เปิดเผยภาพบทสนทนาระหว่างเขากับ คิมแซรน และ คิมแซรน กับ สามี ซึ่งมีข้อความว่า
คิมแซรน: ใช่ ไม่ต้องตอบ เขามันบ้า
คิมแซรน: บล็อกไอจีเขาเลย คุณไม่ตำเป็นต้องฟังอะไรจากเขา
คิมแซรน: มันไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณไม่สมควรต้องได้รับการพูดจาแบบนั้น
K: นี่มันน่ารำคาญมากนะ เขาด่าผม ผมก็ด่าเป็นเหมือนกัน โคตรบ้าเลย
K: ผมบล็อกมันแล้ว แม่**
คิมแซรน: ขอโทษนะ เอามาลงที่ฉันแทนเลย ไอ้นั่นมันบ้า
คิมแซรน: เขามีปัญหาทางจิต
คิมแซรน: ฉันโดนมันด่ากับทุบตี แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน
เค: แจ้งความไปเลย..อยากฆ่ามัน มันคิดว่ามันเป็นใคร
คิมแซรน: ฉันแจ้งไม่ได้ เขาเป็นอเมริกัน
คิมแซรน: ขอโทษนะ ฉันขอโทษ
นอกจากนั้นเขายังเผยภาพที่ สามีที่ตอนนั้นเป็นเพียงแฟนหนุ่มของ คิมแซรน พยายามส่งข้อความหาทางไอจี
“ผมคือแฟนของแซรน เลิกติดต่อกับเธอได้แล้ว และอย่าหวังว่าจะเจอเธออีก นี่คือการเตือนครั้งสุดท้าย ผมรู้ว่าคุณไปเจอเธอตอนคริสต์มาสอีฟกับวันคริสต์มาส ผมพยายามอดทนนะ แม้ว่าผมอยากจะฆ่าคุณก็ตาม เพราะงั้นผมจะบล็อกคุณ และขอร้อง ไปไกลๆส้น_เลยไอ้ห่วยแตก”
นอกจากนั้นยังมีบทสนทนาที่ คิมแซรน กล่าวถึง เค ว่าเป็นคนที่มีค่าที่สุดในโลกสำหรับเธอ แต่เธอก็ไม่อยากทำร้ายเขา
คิมแซรน: ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ที่ฉันรู้สึก ฉันทำไม่ดีกับคุณ แต่ฉันก็อยากบอกคุณทุกสิ่ง
เค: แฟนคุณด่าผม เขาส่งข้อความหาผม ขู่ฆ่าผม แล้วยังด่าผมเป็นไอ้ห่วยแตก คุณพอนึกออกไหมว่าผมรู้สึกยังไง?
คิมแซรน: ฉันเริ่มคบเขาตอน พ.ย. ตอนแรก ฉันไม่ได้เล่าและคุณเองก็มีช่วงที่ลำบาก ฉันก็ต้องต่อสู้โดยที่พยายามไม่พึ่งพาคุณ ความจริงคือ ฉันเหงามาก ฉันต้องการใครสักคนที่อยู่ตรงนั้นคอยรับฟังและช่วยฉันแก้ปัญหา แต่การช่วยนั้นมันก็แค่ชั่วคราว ต่อมา เขาเริ่มปล่อยข้อความใน Kakaotalk และรูปภาพ แฮ็คไอจีฉัน ตีฉันแล้วก็ด่าทอฉัน ฉันกลัวมาก เลยเป็นสาเหตุว่าทำไมฉันถึงไม่เลิกกับเขา ฉันกลัวตลอดว่าคุณต้องบาดเจ็บเพราะฉัน ฉันเลยบอกเขาไปว่าเราควรเลิกกัน แล้วเรื่องทั้งหมดนี้มันก็เลยเกิดขึ้น
คุณเป็นคนทึ่มีค่ามากที่สุดในโลกสำหรับฉัน และฉันก็ไม่อยากให้เขาพูดอะไรไม่ดีใส่คุณอีก ฉันไม่อยากให้คุณเจ็บ แต่ฉันก็ไม่สามารผลักคุณออกไปได้เพราะว่าฉันมันเห็นแก่ได้ แต่ตอนนี้ ที่นี่ ฉันพาเรามาสู่สถานการณ์นี้ แล้วทิ้งให้คุณต้องเจ็บปวดและมีบาดแผล แต่ฉันขอบอกอย่างจริงใจว่าทุกๆเวลาที่ฉันอยู่กับคุณ ความรู้สึกที่ฉันมีต่อคุณนั้นจริงแท้ และคุณคือความรักที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับฉัน…”
“K” เผยว่าครอบครัวคือฝ่ายที่ตัดขาด “คิมแซรน”
“K” กล่าวว่า คิมแซรน ต้องดิ้นรนอย่างหนักเนื่องจากครอบครัวปฏิบัติต่อเธอแตกต่างไปหลังจากที่ชีวิตส่วนตัวเธอมีปัญหา เขาเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2024 คิมแซรน พยายามทำร้ายตนเองและต้องผ่าตัดทำศัลยกรรมฉุกเฉิน แม้ว่าครอบครัวจะทราบเรื่องนี้แต่ก็ไม่มีใครไปรพ.เลย ในช่วงที่เธอต้องการกำลังใจมากที่สุด มีแค่ “k” คนเดียวที่ไปอยู่ข้างเธอจนเธอออกจาก รพ. ส่วนอดีตต้นสังกัดก็ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้
“ตอนทึ่ผมพา แซรน กลับบ้านหลังออกจาก รพ. ทั้งแม่แล้วก็เพื่อนแม่นั่งกินข้าวกันอยู่ที่บ้าน ดูไม่แปลกใจอะไรเลย หรือไม่แสดงความเห็นใจอะไรเลยสักนิด ปฏิกิริยาแบบนี้จากครอบครัว ถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงอยากหนีตลอดเวลา”
K” กล่าวว่า คิมแซรน ยังคงสารภาพกับเขาหลังจากแต่งงาน และเปิดใจเกี่ยวกับความพยายามทำร้ายตัวเองของเธอให้เขาฟัง
“ฉันไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ และไม่มีทางอื่น ฉันพยายาม (ทำร้ายตัวเอง) แต่สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือแผลเป็น ฉันขอโทษที่รักษาสัญญากับเธอไม่ได้ และฉันขอโทษที่ฉันไม่สามารถเจ็บปวดมากไปกว่านี้ได้”
จากนั้น “K” ได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นถึงข้อกล่าวอ้างที่ว่า คิมซูฮยอน คือผู้ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของ คิมแซรน แต่โจมตีไปที่ครอบครัวของเธอแทน
“ในฐานะคนที่รู้จัก แซรน ดีกว่าใครๆ สำหรับผมแล้ว มันช่างไร้สาระที่ป้าของเธอปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน อ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่สูญเสียเธอไป และตอนนี้กำลังผลักดันเรื่องเล่าที่ว่า คิมแซรน เสียชีวิตเพราะ คิมซูฮยอน ทำไมคุณไม่คิดว่าพ่อแม่แท้ๆของเธอคือคนที่ต้องออกมาพูด คุณไม่คิดเหรอว่าอาจเป็นเพราะพวกเขาคือคนที่เธอต้องการจะวิ่งหนีออกมา?
ลูกสาวจะแต่งงานได้อย่างไรโดยที่ครอบครัวไม่รู้อะไรเลย? แต่ผมก็เข้าใจนะ ความจริงที่ว่าไม่มีใครรู้ว่าเธอแต่งงานกับผู้ชายนิวยอร์กคนนี้ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสื่อสารกันน้อยมาก พวกเขาแทบไม่สนใจตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้ที่เธอจากไปแล้ว พวกเขากำลังขุดคุ้ยความสัมพันธ์เมื่อหลายปีก่อนกับนักแสดงชื่อดังออกมางั้นเหรอ? มันต้องมีแรงจูงใจแอบแฝงอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆ ผมไม่เคยเจอ คิมซูฮยอน แต่ผมพอนึกภาพออกว่าเขาต้องรู้สึกแย่แค่ไหน ที่ต้องมารับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายเพียงเพราะเขาเป็นคนมีชื่อเสียง”
และเพื่อเป็นการยืนยันว่าการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ของ “K” ไม่ใช่การเมคขึ้นลอยๆ เขาได้ลงลายเซ็นกำกับและประทับตราประจำตัวลงไปในกระดาษ
นอกจากนั้นยังเผยคลิปเสียง คิมแซรน ขณะอยู่ใน รพ. บอกว่าเธอต้องการผ่าตัดและค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5 ล้านวอน ประมาณ 115,000 บาท แต่คนที่เธอโทรขอความช่วยเหลือไม่ใช่ครอบครัวแต่เป็นหนึ่งในคนรู้จักของเธอเอง
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตเกาหลีหลายคนเลือกที่จะไม่เชื่อและรู้สึกขยะแขยง เพราะรู้สึกว่าการที่ “K” ออกมาพูดก็ทำเพื่อเงินเท่านั้น
“เป็นกลุ่มคนเกาหลีที่น่าเศร้าจริงๆ”
“โอเค คิมซูฮยอน ออกจากวงการไปซะ”
“ใครสนล่ะ…นี่มันเกี่ยวอะไรกับการเป็นโรคจิต”
“น่ารังเกียจจัง…ฉันสงสัยว่าเขาจ้างไปเท่าไหร่”
“น่ารังเกียจ…คนบ้า”
“น่ากลัวจังที่เขียนออกมาเหมือนกับที่เคยเขียนโพสต์ไว้เลย พวกเขารู้ว่าจะต้องเรียกบุคคลที่ 3 เอามาสัมภาษณ์”
“แล้วไง…ไปตายซะ”
“พวกเขาเป็นแค่ขยะที่ปฏิบัติกับคนตายแบบนี้และไม่แม้แต่จะขอโทษด้วยซ้ำ”
“มันเป็นยังไงเหรอที่ติดต่อกับแฟนเก่าในขณะที่มีสามีแล้ว…”
“เขาได้ค่าจ้างมาเท่าไหร่”
