“อิงฟ้า” ร้องไห้หนัก เพิ่งเจอ “แม่สีดา” ให้ทองติดตัวไว้ใช้ยามลำบาก บอกถ้าวันไหนไม่มีงานให้นึกถึงหนู มีงานโฆษณาร่วมกันเป็นชิ้นสุดท้าย เผยแม่บอกตายตายหลับแล้วได้รางวัลแรกในชีวิต ไม่คิดว่าเป็นคำลา สั่งไว้หากไม่ส่งไลน์หา 2 วันให้ตามที่ห้องได้เลย ด้าน “เจฟ - เก่ง” กลั้นน้ำตา ช็อก ทำตัวไม่ถูก ตั้งใจไหว้ตามคำสอนของแม่ วันนี้แม่สีดาคงได้เจอลูกชายบนฟ้าแล้ว
เป็นข่าวช็อกวงการบันเทิงกับการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของนักแสดงรุ่นใหญ่ “สีดา พัววิมล” หรือที่เรียกกันติดปากว่า แม่สีดา ในวัย 70 ปี คุณแม่ของ “อ๊อฟ อภิชาติ พัววิมล”พระเอกดังผู้ล่วงลับ ที่เสียชีวิตภายในห้องพัก ย่านลาดพร้าว พบร่างวันที่ 20 มี.ค. โดยผลการชันสูตรศพเบื้องต้นจากแพทย์พบว่าแม่สีดาเสียชีวิตจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ทำคนในวงการบันเทิงช็อกและใจหายหลังได้ทราบข่าว
ในคืนที่ 2 ของพิธีบำเพ็ญกุศลศพของ แม่สีดา ที่วัดลาดพร้าว บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีคนในวงการบันเทิงมาร่วมไว้อาลัยและร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมแม่สีดา กันอย่างมากมาย อาทิ ต่าย สายธาร นิยมการณ์, อิงฟ้า วราหะ, เจฟ ซาเตอร์, เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย, ก้อย ทาริกา ธิดาทิตย์, ติ๋ว อรสา พรหมประทาน, โยโกะ ทาคาโน่, ปู ปริศนา กล่ำพินิจ, ใหม่ นัฏฐา ลอยด์, ตู่ จารุศิริ ภูวนัย, แป๊ป ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์, เดนิส เจลีลชา คัปปุน, เฟรช อริศรา วงษ์ชาลี, นีน่า ณัฐชา เจสซิกา พาโดวันฯลฯ
โดยคืนนี้ ดร.พรรณประภา อินทรวิทยนันท์, บริษัท เมจิก โปรดักชั่นส์ จำกัด และ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด เป็นเจ้าภาพ ด้าน 3 นักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง “วิมานหนาม” อย่าง เจฟ ซาเตอร์ , อิงฟ้า วราหะ และ เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อยได้เปิดใจทั้งน้ำตาพูดถึงความผูกพันกับแม่สีดา
อิงฟ้า : “ใจหายค่ะ (น้ำตาไหล) ก่อนที่แกจะเสียจริงๆ มีโอกาสได้นัดเจอกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันแบบนี้ เวลาที่อยู่ในกองฟ้าจะใช้ของชิ้นนึงที่มีราคาสูง เขาก็จะพูดเสมอว่าเดี๋ยวแม่จะซื้อให้นะ ตอบแทนที่พาแกไปกินข้าว ดูแลแกในกอง เราก็บอกเขาว่าแม่หนูไม่อยากได้ มันราคาสูง ตอนนั้นแกก็ไม่ได้มีรายรับเยอะ ล่าสุดเราก็มีโอกาสได้ไปรับรางวัลด้วยกัน ก็มีโอกาสได้ไปทานข้าวด้วยกัน ไปร้านซูชิ แกก็ไม่ค่อยทาน ก็บอกแม่ไม่ทานเลย แกจะบอกแม่อิ่มแล้วลูก ซึ่งเราเห็นอาการแกว่าแกไอบ่อยกว่าตอนที่อยู่ในกอง
เลยถามเดี๋ยวนี้ยังสูบเยอะหรือเปล่า เขาก็ยอมรับว่าเขาค่อนข้างเครียดค่อนข้างอะไร ก็มีการนัดกันอีกว่าเดี๋ยวเจอกันรอบหน้าแม่จะเอาของชิ้นนี้มาให้นะ แม่เตรียมไว้แล้วแต่ว่ามันตกแตก แต่เรารู้อยู่แล้วว่าของชิ้นนี้ถึงมันจะตกมันก็ไม่มีทางแตกแน่นอน คิดว่าเขายังไม่มีปัจจัยพอที่จะซื้อ แต่ทุกครั้งที่เขาเจอเราเขาบอกว่าเขาจะซื้อให้เรานะ ทุกครั้งก็จะแม่ลืมบ้าง แม่ทำตก แม่กำลังสั่งซื้อมาให้ใหม่บ้าง
ครั้งล่าสุดฟ้ามีงานด้วยกันวันที่ 16 มีนาคม ที่ยูเนี่ยนมอลล์ ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักเขา เราเลยบอกแม่เปลี่ยนจาก… (ร้องไห้) เปลี่ยนจากของขวัญอันนั้นเป็นมะม่วงแทนก็ได้ จะได้มาเจอกัน เพราะเรารู้ว่าเขาไม่กล้ามาเพราะยังไม่ได้ซื้อของชิ้นนั้น”
อิงฟ้าเห็นความตั้งใจของ “แม่สีดา” ที่พยายามจะซื้อของขวัญวันเกิดให้ ซึ่งตนได้มอบทองเป็นสร้อยข้อมือให้กับแม่สีดาเก็บไว้ยามลำบาก
อิงฟ้า : “ก็เห็นความตั้งใจของแกที่แกอยากจะซื้อให้มาตลอด ล่าสุดเรามีงานถ่ายโฆษณาด้วยกัน เขาก็พยายามโทร.หาเพื่อนเขาว่าได้หรือยังของน้องฟ้า เรารู้จักเขา เราก็รู้ว่าเขาพยายามจะทำให้เห็นว่าเขาจะซื้อให้จริงๆ เป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลังกับเรา มันคือน้ำหอม แค่เสียดายว่าถ้าวันนั้นได้เจอกันก็คงดี เพราะถัดมาอีกวันก็มาทราบว่าเขาเสียชีวิตแล้ว สิ่งที่ฟ้าอยากได้จริงๆ ก็คืออยากเจอแม่แหละ บอกเขาว่ามีโอกาสเราไปทานข้าวกันนะ รู้ว่าแกอยู่คนเดียวแกเหงา ตอนที่เราไปถ่ายงานโฆษณาด้วยกันก็ได้เตรียมของไปให้เขา
เวลาเจอเขาก็จะเห็นว่าเขาใส่เสื้อผ้าเดิมๆ ฟ้าก็เตรียมเสื้อผ้า เตรียมสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งไว้ให้แก บอกแกไว้ว่าหนูไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันบ่อยแค่ไหน แต่ให้แม่มีติดตัวไว้ แล้วก็พูดกับแกตรงๆ ว่าถ้าวันไหนไม่มีงานนึกถึงหนูได้นะ ทองเส้นนี้ถ้าจำเป็นที่จะเอาไปขาย มันไม่ได้เยอะมาก แต่แม่ก็เอาไว้กินได้ ก็ตั้งใจให้แกมีติดตัวไว้สักชิ้นเวลาฉุกเฉิน ยามลำบาก เผื่อเราไม่ได้อยู่ใกล้จะได้เอาอันนี้ไปใช้ได้ซึ่งเขาก็ร้องไห้”
รู้สึกผูกพันกับ ”แม่สีดา“ เพราะรู้จักชีวิตของแกเยอะ จากการเล่าเรื่องของแม่เวลาเจอได้เจอกัน สั่งไว้หากไม่ส่งไลน์ 2 วันให้ตามที่ห้องได้เลย
อิงฟ้า : ”เรารู้ชีวิตเขาเยอะ แกจะชอบเล่า เวลาอยู่ด้วยกันแกจะเล่าเรื่องราวชีวิตแกตลอด และด้วยบทละครวิมานหนามที่เรามีความผูกพันกันค่อนข้างมาก มันเลยทำให้ในชีวิตจริงเราก็ผูกพันกันไปด้วย ทุกครั้งที่เจอกันจะมีความเอ็นดูแกตลอด เพราะแกไม่มีใครจริงๆ แม่แกจะคุยกับผู้จัดการฟ้า เดี๋ยวแม่จะส่งไลน์ให้ตลอด รู้ไหมว่าแม่ส่งให้ปอเต็กตึ๊งทุกวัน ถ้าแม่หายไป 2 วัน(ไม่ได้ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์) ไปตามที่ห้องด้วยนะ แสดงว่าแม่ไม่อยู่แล้ว ซึ่งล่าสุดที่ส่งให้ก็วันที่ 16 มีนาคมค่ะ
คือจริงๆ อยากจะพาเขาไปทานข้าว พาไปเที่ยวบ้าง เพราะรู้แล้วว่าแม่เริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เพราะแกไอหนักมากๆ ไปตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาที่เราถ่ายทำโฆษณากันอยู่แกจะไอตลอด เราก็คอยดุเขาเรื่องที่เขาสูบบุหรี่ เจอก็จะแบบแม่อีกแล้วนะ แกก็จะตอบกลับ ลูก…แม่เครียด แม่เหนื่อย
เราจะคุยกันเรื่อยๆ เขาจะบอกว่าชีวิตเขาตั้งแต่ที่ล้มมาเขาไม่เคยเจอคนที่ให้อะไรเป็นของติดตัวเขาเลย เขาบอกว่าสร้อยเขาจะเก็บไว้อย่างดี สร้อยเป็นสร้อยเส้นเล็กๆค่ะ ตามตัวเขา ก็น่าจะให้ไว้กับทางหลานสาวของแม่”
มีงานโฆษณาที่ถ่ายร่วมกับ “แม่สีดา” ไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ออกอากาศ
อิงฟ้า : “เป็นงานโฆษณาเกี่ยวกับผม เป็นฉากล้อเลียนภาพยนตร์ยังไม่ได้ออนแอร์ เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของฟ้ากับแม่ ยังไม่รู้เลยว่าพอโฆษณานี้ออกมาความรู้สึกเรามันจะเป็นยังไง มันยังจะตลกอยู่ไหม เนื้อเรื่องมันสนุกสนาน ดูแล้วอาจจะเป็นความทรงจำที่ดี”
ด้าน “เก่ง หฤษฎ์” และ “เจฟ ซาเตอร์” เสียงสั่นตลอดเวลา พยายามกลั้นน้ำตาเล่ายังรู้สึกช็อกเล่าความผูกพันกับ “แม่สีดา”
เจฟ : “เอาจริงๆ ก็ยังช็อกอยู่… (กลั้นน้ำตา)”
เก่ง : “ตอนทราบข่าวก็ช็อก ทำตัวไม่ถูก คือในกองพวกเราผูกพันกับแม่มากๆ แม่น่ารักกับทุกคน แม่จะชวนคุย ชวนเล่นตลอด จะเล่าเรื่องการทำงานสมัยก่อน แล้วแกก็จะคอยสอน แกจะบอกเดี๋ยวอีกหน่อยหนูดังแล้วอย่าลืมแม่นะ หนูต้องทำตัวแบบนี้นะ มีคุยติดตลกว่าถ้าหนังออกไปแล้วเราทุกคนน่าจะได้ไปรับรางวัลพร้อมกัน แต่ก็ยังไม่ได้ไปงานกับแม่เลย ก็เสียใจ
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากแม่ คือแม่เป็นคนที่สู้ไม่ถอยจริงๆ แม่ทำให้รู้ว่าไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรเราก็ยังจะยิ้มสู้กับปัญหาได้ตลอด แม้ลึกๆ ข้างในมันจะเก็บอะไรไว้มากมาย แบกรับความรู้สึกไว้เยอะ เก่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่แบกรับความรู้สึกอะไรไว้ รู้แต่ว่าแม่สู้มาเยอะมากๆ”
เจฟ : “ผมได้คุยกับแม่บ่อยเพราะเราเข้าซีนด้วยกันบ่อย มีซีนวัด ก็จะให้แม่เล่าเรื่องให้ฟังว่าสมัยก่อนเป็นยังไง แม่จะชอบเล่าเรื่องตอนที่ลูกไม่ได้บวชให้ฟัง มันก็จะมีซีนที่เขาตัดผมเรา ย้อนกลับไปมันก็….รู้สึกว่าน่าจะคุยกันมากกว่านี้ อยากฟังเรื่องที่เขาทำมากกว่านี้ แม่ยังมีความเป็นเด็ก ตลกตลอด ไม่แมซต์กับอายุแม่แกจะชอบเล่นมุกให้เราขำ วันแรกที่ผมเจอเขา ตามสไตล์เด็กวัยรุ่น ก็ไหว้แกตามสไตล์ไป แม่ก็มาสอน มาบอกเดี๋ยวเรามาเรียนการไหว้กันใหม่นะ แม่ก็ทำให้ดูแล้วก็สอนต้องทำแบบนี้เวลาไปเจอผู้ใหญ่เขาจะได้ไม่รู้สึกว่าเราไม่มีมารยาท ก็อยากจะบอกแม่ว่าตอนนี้ผมตั้งใจทุกครั้งเลยนะครับที่ไหว้คนอื่น เป็นคำสอนจากแม่เลย
แม่เขาจะเล่าช่วงที่เขาเป็นนักแสดงเมื่อก่อนว่ามันยากลำบากขนาดไหน เพื่อให้เราเห็นถึงคุณค่าถึงสิ่งที่เราทำทุกวัน มันเป็นการส่งต่อจากคนที่เขาเคยผ่านอะไรมามากมาย มันไม่ใช่แค่เรื่องของการแสดงแต่เป็นเรื่องของชีวิต แม่สอนให้เราเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น“
“แม่สีดา” พูดไว้แม่นอนตายตาหลับแล้ว หลังจากได้รางวัล จากนี้ แม่สีดา คงได้เจอลูกชายที่คิดถึงมาตลอดแล้ว
อิงฟ้า : “วันนั้นเขาดีใจมาก กรี๊ดใหญ่พอรู้ว่าได้รางวัลก่อนขึ้นเวทีไป ก็เป็นไปตามที่เขาพูดตั้งแต่อยู่ในวงการมานี่คือรางวัลแรกของเขา แกพูดว่าแค่นี้ก็ตายตาหลับแล้ว ตอนที่แกพูดบนเวทีไม่คิดว่าเป็นคำลา คิดว่าเขาคงดีใจจริงๆแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะกะทันหันขนาดนี้ ตอนเห็นข่าวยังคิดว่าข่าวมั่วรึเปล่า จนผู้ใหญ่ทาง GDH โทร.เข้ามาบอกว่าแม่เสียนะ
ฟ้าดีใจมากที่หนังวิมานหนามทำให้แม่แกกลับมามีงานอีกครั้ง เราก็รู้ว่าแกมีงานอะไรเข้ามาบ้างเพราะแกจะเล่าให้ฟังตลอด เราก็ดีใจไปกับเขาที่เขาสามารถกลับมาอยู่ในจุดที่เขารักได้”
เก่ง : “ขอให้แม่มีความสุขกับการเดินทาง ไม่ต้องเหงาแล้ว มีความสุขกับพี่อ๊อฟ”
เจฟ : “แม่จะชอบเล่าตลอดว่าคิดถึงลูกชายตลอด จะเล่าเรื่องลูกชายให้ฟังตั้งแต่วันแรกจนวันที่เจอกันครั้งล่าสุดก็ยังคงเล่าเรื่องลูกชายแก ก็คิดว่าแม่คงจะได้ไปอยู่กับลูกชายที่แม่คิดถึงแล้ว อยากส่งแม่ด้วยรอยยิ้มมากกว่า ไม่อยากเศร้า ขอให้แม่พักผ่อนอย่างสงบ สิ่งที่แม่สอนมาก็จะจำไว้ตลอด”
อิงฟ้า : “ตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันมา คิดว่าก็คงถึงเวลาของเขาแล้ว ก็ขอให้การเดินทางของแม่ในครั้งนี้ได้เจอกับพี่อ๊อฟ ได้เจอกับคนที่เขารัก จะได้ไม่เหงาแล้ว เสียดายที่หนูมาช้าไปนิดเดียว ไม่งั้นก็คงจะได้ทานข้าวกันอีกสักมื้อนึง”
